กรุงเทพฯ--26 พ.ย.--พีอาร์ พลัส ทู เวสเทิร์น ดิจิตอล คอร์ป (WD) หนึ่งในผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมด้านอุปกรณ์การจัดเก็บข้อมูลที่มีชื่อเสียงระดับโลกและเป็นผู้ผลิตฮาร์ดไดร์ฟรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก แจ้งผลประกอบการปี 2007 ระบุรายได้รวมทั้งปีทะลุ 5.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ กวาดยอดขายฮาร์ดไดร์ฟทั่วโลก 96.5 ล้านตัว เฉพาะไตรมาส 4 มียอดขายถึง 24.9 ล้านตัว ขณะที่ไตรมาส 1 ปี 51 ยังรุ่งต่อเนื่อง สินค้าฮาร์ดไดร์ฟเติบโตกว่า 37% ตอกย้ำผู้นำด้านเทคโนโลยีฮาร์ดไดร์ฟ เตรียมขับเคลื่อนสินค้ารุ่นใหม่อีกเพียบ วันนี้ เวสเทิร์น ดิจิตอล แจ้งผลประกอบการประจำปีงบประมาณ 2550 และของไตรมาส 4 สิ้นสุดวันที่ 29 มิถุนายน 2550 ว่า บริษัทมีผลประกอบการที่ดีเยี่ยม โดยมียอดรายได้รวมทั้งปี 5.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ กล่าวคือ มีรายได้จากส่วนปฏิบัติการ 415 ล้านเหรียญ และรายได้สุทธิที่ 585 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับรายได้สุทธิของปีก่อนหน้าที่เคยทำได้ 395 ล้านเหรียญ ผลประกอบการดังกล่าวนี้ คิดเป็นอัตราการเติบโตของรายได้ที่ 26% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ที่มียอดรายได้รวมอยู่ที่ 4.3 พันล้านเหรียญ ขณะที่ยอดจำหน่ายฮาร์ดไดร์ฟทั่วโลกของ WD เติบโตถึง 32% ด้วยตัวเลขยอดขาย 96.5 ล้านตัว จากเดิมที่ทำสถิติไว้ที่ 73.3 ล้านตัว ตัวเลขเมื่อสิ้นไตรมาสในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แสดงให้เห็นผลประกอบการที่แข็งแกร่ง โดยเติบโตทั้งยอดรายได้และยอดจำหน่ายฮาร์ดไดร์ฟ โดยมีอัตราการเติบโตของกลุ่มตลาดใหม่ถึง 43% จากตัวเลขเดิม 29% โดยกลุ่มตลาดใหม่ที่ว่าครอบคลุมสินค้าโน้ตบุ๊ค สินค้าคอนซูเมอร์ อิเลคทรินิกส์ กลุ่มแอพลิเคชั่นระดับเอ็นเตอร์ไพรส์ และฮาร์ดไดร์ฟแบบติดตั้งภายนอก มาร์กาเร็ต โค้ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย ประจำภาคพื้นเอเชียใต้ บริษัท เวสเทิร์น ดิจิตอล (เอส.อี. เอเชีย) พีทีอี จำกัดกล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งต่อผลประกอบการของปี 2550 ซึ่งในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา องค์กรที่ทรงประสิทธิภาพอย่าง WD ได้ลงทุนในส่วนสำคัญต่างๆ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้แก่เทคโนโลยีและตัวผลิตภัณฑ์ และสำหรับปีที่กำลังจะเข้ามา WD ได้กำหนดลู่ทางไว้เป็นอย่างดีเพื่อการนำเสนอความหลากหลาย และกระตุ้นการเติบโตของการใช้งานฮาร์ดไดร์ฟสำหรับกลุ่มผู้ใช้เชิงพาณิชย์และผู้บริโภคทั่วไป นอกจากนี้ WD ยังได้เข้าซื้อโคแม็ก อิงค์ บริษัทผู้ผลิตสื่อบันทึกชั้นนำ ซึ่งบริษัทมั่นใจต่อการผนวกรวมและประโยชน์ในเชิงกลยุทธ์ ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ WD ในฐานะผู้ผลิตฮาร์ดไดร์ฟประสิทธิภาพสูง เพราะเป็นการรวมกิจการสื่อบันทึกหนึ่งในองค์ประกอบทางเทคโนโลยีอันสำคัญของฮาร์ดไดร์ฟ” รายได้ไตรมาส 1 ปี 51 ยังพุ่งฉิว สำหรับตัวเลขรายได้ของไตรมาสที่ 1 ของปี 2551 (สิ้นสุดเดือนกันยายน) WD ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวม 1.766 พันล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นรายได้จากสินค้าฮาร์ดไดร์ฟ 1.726 พันล้านเหรียญ และอีก 40 ล้านเหรียญจากกลุ่มมีเดียและการจัดจำหน่ายในรูปแบบซับสเตรท สินค้าฮาร์ดไดร์ฟของ WD เติบโตประมาณ 37% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมียอดจำหน่ายทั้งสิ้น 29.4 ล้านตัว ขยายตัว 29% นอกจาก WD จะมียอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่องในกลุ่มสินค้าตั้งโต๊ะ ยังนับเป็นครั้งแรกที่ WD มียอดรายได้จากกลุ่มที่เป็น non-desktop PC เกินครึ่งหนึ่งที่เคยทำได้ในแต่ละไตรมาส กล่าวคือ ในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา 53% ของยอดขายฮาร์ดไดร์ฟมาจากกลุ่มโน้ตบุ๊ค สินค้าคอนซูเมอร์ อิเลคทรินิกส์ แอพลิเคชั่นระดับเอนเตอร์ไพรส์ และฮาร์ดไดร์ฟแบบติดตั้งภายนอก สำหรับยอดจำหน่ายฮาร์ดไดร์ฟ WD ในไตรมาส 1 ปี 2551 แยกเป็นฮาร์ดไดร์ฟ 2.5 นิ้วสำหรับอุปกรณ์พกพา จำนวน 5.9 ล้านตัว และขนาด 3.5 นิ้วสำหรับเครื่องบันทึกวีดีโอดิจิตอล จำนวน 3.7 ล้านตัว ขณะที่ฮาร์ดไดร์ฟแบบติดตั้งภายนอกมียอดขายคิดเป็น 18% ของยอดขายทั้งหมดในช่วงไตรมาสที่ 1 มาร์กาเร็ตกล่าวอีกว่า “ผลประการที่ดีเยี่ยมของไตรมาส 1 ชี้ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของ WD ในตลาดฮาร์ดไดร์ฟสำหรับทุกๆ กลุ่มซึ่ง WD ยังคงเดินหน้านำเสนอความหลากหลายให้แก่ผู้ใช้ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้เชิงพาณิชย์หรือผู้บริโภคทั่วไป”WD Scorpio? 320 GB WD ยังได้เปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่จำนวนหลายรุ่น หนึ่งในนั้นคือ WD Scorpio? ขนาด 2.5 นิ้ว ความจุ 320 GB แบบ SATA (Serial ATA) ที่สูงที่สุดในโลก ด้วยขนาดความบางถึง 9.5 มม. เน้นเจาะตลาดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค และอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบพกพาโดยเฉพาะ “ฮาร์ดไดร์ฟ WD Scorpio ความจุ 320 GB แบบ SATA รุ่นล่าสุดนับเป็นผลงานอันน่าภาคภูมิใจจากการลงทุนอย่างมหาศาลของ WD ในส่วนเทคโนโลยีหัวอ่านที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ WD Scorpio ความจุ 320 GB รุ่นล่าสุดยังให้ประสิทธิภาพการถ่ายโอนข้อมูลในอัตราสูงถึง 3 Gb/วินาที และผลิตขึ้นเพื่อใช้กับโน้ตบุ๊คประเภท OEM ที่นำเสนอความจุในการจัดเก็บข้อมูลที่สูงที่สุดในตลาดโลก ” มาร์กาเร็ตกล่าวเพิ่มเติมWD นำเสนอฮาร์ดไดร์ฟประหยัดพลังงาน ขณะเดียวกัน WD ได้ประกาศนำเสนอฮาร์ดไดร์ฟใหม่ตระกูลกรีน พาวเวอร์ (GreenPower?) ชูจุดเด่นเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ครอบคลุมทั้งฮาร์ดไดร์ฟสำหรับเด็สก์ท้อป กลุ่มองค์กร อุปกรณ์คอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ และฮาร์ดไดร์ฟแบบติดตั้งภายนอก ล่าสุดได้เปิดตัว WD RE2 GreenPower (GP) มีให้เลือกตั้งแต่ความจุ 500, 750 กิกะไบต์ จนถึง 1 เทราไบต์ ชูข้อดีช่วยประหยัดไฟสูงสุด กินไฟน้อยกว่าสินค้าคู่แข่ง 4-5 วัตต์ ช่วยให้ผู้ใช้งานมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลได้เพิ่มขึ้น ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ และมีความน่าเชื่อถือไปพร้อมๆ กับการช่วยประหยัดพลังงาน จากการคาดการณ์ของ WD ระบุว่า WD RE2 GreenPower ช่วยประหยัดค่าไฟคิดเป็นมูลค่าปีละมากกว่า 10 ดอลลาร์ต่อฮาร์ดไดร์ฟ 1 ตัว กล่าวคือ หากเป็นศูนย์ดาต้า เซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ที่มีฮาร์ดไดร์ฟ 10,000 ตัว จะสามารถประหยัดค่าพลังงานได้ถึงปีละ 100,000 ดอลล่าร์ “WD RE2 GreenPower ได้รับการออกแบบโดยเน้นคุณสมบัติด้านประหยัดพลังงาน ผู้ใช้สามารถสร้างเซิร์ฟเวอร์พร้อมระบบจัดเก็บข้อมูลย่อยที่มีความจุสูงขึ้น ช่วยให้ต้นทุนในการดำเนินการ (cost of ownership) ต่ำลง เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่จะช่วยให้ลูกค้าตระหนักถึงปัญหาสภาพแวดล้อม ขณะเดียวกัน สามารถมอบประสิทธิภาพและสมรรถภาพการทำงานที่สูงขึ้น มีความน่าเชื่อถือ และยังประหยัดพลังงานไปในตัวพร้อมๆ กัน” มาร์กาเร็ตกล่าวปิดท้าย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: พิมพ์รัชฎา ศุภสิทธิโชติ บริษัท พีอาร์ พลัส ทู จำกัด โทร: 02-158-9108 แฟกซ์ : 02-158-9142 www.prplus2.com