การแข่งขันวันที่ 4 ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าลมเบากว่าสามวันแรก

ข่าวทั่วไป Tuesday December 12, 2017 11:51 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 ธ.ค.--วิวาลดี้ หลังจากลมแรงตลอด ในการแข่งขัน 3 วันแรก (โดยมีลมกรรโชกแรงถึง 25 นอตในบางช่วง) กลับมาวันที่ 4 ของภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าครั้งที่ 31 มีลมเบา ส่งผลให้ทีมเรือใบใหญ่ต้องงัดเทคนิคมาใช้ และมีการเปลี่ยนตำแหน่งผู้นำหลายรุ่น ซึ่งเพิ่มความตื่นเต้นไปอีก เนื่องจากวันพรุ่งนี้เป็นการแข่งขันวันสุดท้ายของเรือใบใหญ่ ขณะที่วันนี้การแข่งขันเรือใบเล็กรายการอินเตอร์เนชั่นแนล ดิงกี้ แข่งขันเสร็จสิ้นแล้ว โดยปีนี้มีทัพเรือใบเล็กเข้าร่วมแข่งขันมากถึง 71 ลำ ซึ่งมากที่สุดในประวัติศาสตร์งานภูเก็ตคิงส์คัพกัตต้า หนึ่งในรุ่นการแข่งขันเรือใบใหญ่ที่กลุ่มผู้นำดวลกันอย่างสนุกสนานในวันนี้ คือรุ่นไออาร์ซี ซีโร่ เมื่อเรือทีมฮอลลีวู้ดของกัปตันเรย์ โรเบิร์ต สามารถแซงทีมเรือทีเอชเอ 72 ของกัปตันทอมและเควิน วิทคราฟท์ แชมป์เก่าของไทยได้ในรอบแรกของวัน (รอบที่ 9 ของการแข่งรวม) แต่ในรอบต่อมา (รอบที่ 10 ของการแข่งรวม) ทีเอชเอ 72 คืนฟอร์ม พลิกกลับมา เอาชนะได้อีกครั้ง แต่ทว่า ในรอบสุดท้ายของวัน กลับเป็นเรือวินด์ซีเกอร์ ของกัปตับเซราบ สิงห์ จากสิงคโปร์ที่หวดเข้าเป็นที่ 1 โดยแซงเรือของกัปตันเควินเข้าเส้นชัยเร็วกว่าเพียง 7 วินาทีเท่านั้น! เควิน วิทคราฟท์ รู้สึกสนุกสนานกับการแข่งขันในวันลมเบาแต่แดดแรงในวันนี้อย่างมาก กล่าวว่า "การใช้กลวิธีที่ไม่เหมาะสมทำให้เราพลาดในรอบแรก เพราะเราเลือกเส้นทางผิดและต้องปรับใบเรือสะเปะสะปะไปหมด เมื่อเราพยายามกางใบเพื่อเปลี่ยนทิศทางเรือ กลับหันเรือใบอีกด้าน ทำให้ล้าหลังผู้นำและถูกเรือวินด์ซีเกอร์แซงไปได้ในวันนี้ เราชนะเพียงรอบที่ 2 ของวัน และเป็นอันดับ 2 ในวันนี้ แต่ก็พอใจ เพราะทีมของเขาทำงานกันได้ดีมากจริงๆ สมควรได้ตำแหน่งไปในวันนี้!" อีกหนึ่งรุ่นที่ขับเคี่ยวอย่างดุเดือดคือไออาร์ซี 1 โดยวันนี้จัดแข่ง 3 รอบ ซึ่งเรือคาราซูจากญี่ปุ่นพุ่งเข้าเส้นชัยไปได้ถึง 2 รอบ แต่พ่ายหนึ่งรอบให้แก่เรือฟูยินของกัปตันเดวิด ฟูลเลอร์ จากออสเตรเลีย ที่เฉือนชนะไปไม่กี่วินาที โดยลมเบาในวันนี้ยังทำให้เรือที่ยังไม่มีผลงาน กลับตีตื้นขึ้นมาได้ในรุ่นไออาร์ซี 2 นั่นคือเรือกระบี่โบ้ทลากูนพิคโคโล่ ของกัปตันเจมส์ ดอว์นาร์ด จากสหราชอาณาจักร ไล่หลังทีมเรือกะตะร็อคส์ (มาดามบัตเตอร์ฟลาย) ของกัปตันปีเตอร์ ไดเออร์ จนชนะได้ในรอบที่ 8 แต่กัปตันปีเตอร์ ไดเออร์ พลิกกลับมาเอาชนะไปได้ในรอบที่ 9 และ 10 อย่างดุเดือด ในขณะที่รุ่นพรีเมียร์ในวันนี้ แชมป์เก่าของไทยอย่างทีมเรือไพน์แปซิฟิกของกัปตันอิทธินัย ยิ่งศิริ ต้องผลัดกันแพ้ชนะอย่างลุ้นระทึกกับทีมเรือแอนตีพอดส์จากฮ่องกง เช่นเดียวกับทีมเรือของกัปตันฮานส์ ราห์มานน์ ที่ขับเคี่ยวชิงตำแหน่งผู้นำกับเรือของกัปตันจอห์น นิมแฮม อย่างคู่คี่สูสีในรุ่นไฟร์ฟลาย 850 จอห์น คอฟฟิน เจ้าของธุรกิจจาวา ยอช์ติ้ง ซึ่งมีเรือใบถึง 19 ลำ และหลายลำอาจคว้าชัยในคิงส์คัพรีกัตต้าครั้งนี้ กล่าวว่า "เราเข้าร่วมแข่งขันในรายการคิงส์คัพรีกัตต้าแล้วถึง 17 ครั้งและรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในการแข่งขันเรือใบอันทรงเกียรติรายการนี้ โดยเราส่งเรือมายจูดี้ลงแข่งขันในรุ่นไออาร์ซี 2 เรือเอวาทีและเรือเมอร์เมดในรุ่นโมเดิร์นคลาสสิก และเรือทั้ง 4 ลำในรุ่นพัลซ์ 600 ซึ่งเป็นเรือที่ยกระดับมาจากเรือใบเล็กที่ยอดเยี่ยมมาก แต่ปีนี้ต้องมาลงแข่งในสนามของเรือใบใหญ่ ทั้งยังพบกับลมแรงถึง 25 นอตในบางช่วงซึ่งถือว่าเกินกำลังพอสมควรเลยทีเดียว! เราพยายามชักชวนให้เยาวชนไทยหันมาเล่นเรือใบเล็ก และเรายังให้การฝึกสอนเยาวชนจีนด้วยเช่นกัน เรามีสโมสรในเซี่ยงไฮ้สำหรับการเรียนหลักสูตรนานาชาติและอีกแห่งในจังหวัดกระบี่ สำหรับตัวผมเอง เคยลงแข่งขันในรายการภูเก็ตคิงส์คัพมาแล้วในฐานะลูกเรือ นอกจากนี้ เรายังมีเรือ เอเชีย คาตามารัน จาวา ที่ทำผลงานได้ดี และเรือมาส์ อัลเลเกอร์ ที่ใช้ลูกเรือชาวจีน ซึ่งเป็นเรือแบบคลาสสิกที่ออกแบบมานานกว่า 50 ปีแล้ว ส่วนในเรื่องการแข่งขันนั้น คุณภาพและระดับความยากของสนามแข่งขันที่นี่ถือว่าเหลือเชื่อ ซึ่งนับเป็นเอกลักษณ์ของงานเรือใบภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าเลยทีเดียว!" สำหรับการแข่งขันเรือใบเล็กรายการอินเตอร์เนชั่นแนล ดิงกี้ ซึ่งสนับสนุนโดย บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) ได้ปิดฉากลงอย่างงดงามในวันนี้ ซึ่งสร้างความสนุกสนานและลุ้นระทึกมากกว่าทุกปี ด้วยสภาพอากาศที่พลิกผันในวันสุดท้าย ทำให้บรรดานักกีฬาเรือใบเล็กต้องอาศัยความทรหดและเทคนิคมากมายเพื่อชิงความได้เปรียบจากคู่แข่งในการแข่งขัน โดยในปีนี้มีเรือใบเล็กเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 71 ลำ และแบ่งการแข่งขันเป็นรุ่นต่าง ๆ ได้แก่ ออพติมิสต์ชายและหญิง, เลเซอร์ 4.7, เลเซอร์เรเดียล, เลเซอร์สแตนดาร์ด และ ท็อปเปอร์ นาวาเอกพรพรหม สกุลเต็ม ผู้อำนวยการแข่งขัน อินเตอร์เนชั่นแนล ดิงกี้ กล่าวถึงความสำเร็จของการจัดการแข่งขันในปีนี้ว่า "การแข่งขันเรือใบเล็กในปีนี้ประสบความสำเร็จอย่างงดงามตามความตั้งใจของคณะกรรมการจัดการแข่งขัน โดยเราเล็งเห็นว่า งานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่องในด้านเรือใบใหญ่และมีชื่อเสียงไปทั่วโลก แต่เรายังต้องการให้คนไทยมาร่วมแข่งขันในเรือใบแบบคีลโบ้ทและมัลติฮัลล์กันให้มากกว่านี้ เพราะกว่า 90% ของลูกเรือเป็นชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทย เราจึงคิดว่าทำอย่างไรจึงจะทำให้คนไทยหันมาเล่นเรือใบใหญ่มากกว่านี้และทำให้การแข่งขันสนุกสนานน่าติดตามมากขึ้น เราจึงย้อนกลับไปที่แนวคิดพื้นฐาน ตามแนวกระแสพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 ของเรา ซึ่งทรงตรัสว่า จุดประสงค์ของการกีฬาเป็นการฝึกให้บุคคลและคณะมีความเข้มแข็ง เราจึงขอดำเนินรอยตามแนวทางนี้ของพระองค์ ด้วยการเริ่มต้นที่พื้นฐาน และเราได้สร้างโรงเรียนสอนการเล่นเรือใบขึ้นที่นี่เมื่อ 3 ปีที่แล้วและเข้าสู่ปีที่ 4 ในปีนี้ เมื่อ 4 ปีก่อนเรามีนักกีฬาเรือใบเพียง 20 คน ปัจจุบันเติบโตขึ้นจนมีจำนวนมากถึง 109 คน โดยนักกีฬาที่อายุน้อยที่สุดของเรา นวินดา วังแก้ว และ ชำนาญ ไตรภพ ถึงมีอายุเพียง 6 ปีเท่านั้น แต่ทั้งสองสามารถแล่นเรือใบต้านลม 20 นอตได้แล้ว!" นาวาเอกพรพรหม สกุลเต็ม ยังกล่าวว่า "การแข่งขันเรือใบเล็กในงานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้านั้นมีจำนวนผู้เข้าแข่งขันและความนิยมไม่น้อยไปกว่าการแข่งขันเรือใบใหญ่ ทำให้ประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่องและสำเร็จดังเป้าหมายที่ตั้งไว้ เมื่อเร็วๆนี้ เรายังได้ร่วมมือกับสโมสรในประเทศจีน ทำให้ในปีนี้มีนักกีฬาจากจีนเข้ามาร่วมแข่งขันในรุ่นออพติมิสต์ ขณะเดียวกันเราเคยส่งนักกีฬาเรือใบไปร่วมแข่งขันในเมืองชิงเต่า (ทางชายฝั่งทะเลตะวันออกของจีน) ด้วยเช่นกัน" กีรติ บัวลง แชมป์รุ่นเลเซอร์สแตนดาร์ด กล่าวถึงการแข่งขันในปีนี้ว่า "ในปีนี้ผมลงแข่งขันในรุ่นเลเซอร์สแตนดาร์ด ซึ่งเป็นเรือใบเล็กที่แตกต่างจากรุ่นอื่น ๆ เพราะต้องใช้กำลังมากในการบังคับเรือ ทำให้นอกจากการฝึกเรื่องเทคนิคแล้ว ผมต้องฟิตซ้อมร่างกายมากเป็นพิเศษ เพื่อให้บังคับเรือและปรับทิศทางตามลมได้ และการแข่งขันในปีนี้ยิ่งสนุกมากขึ้น โดยเฉพาะวันสุดท้ายที่ลมเปลี่ยนทิศตลอดเวลา ซึ่งแตกต่างจาก 3 วันแรกที่ลมแรงมาต่อเนื่อง ในวันสุดท้ายลมมาเป็นจังหวะ ทำให้เราต้องไวในการจับทางลม และรู้จังหวะเพื่อให้ได้เปรียบในการแข่งขัน" "ผมรู้สึกยินดีอย่างมากที่ได้มาร่วมแข่งขันในรายการภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าอีกครั้งในปีนี้ เพราะเป็นรายการที่ช่วยพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาเรือใบเยาวชนไทยให้พร้อมสำหรับการแข่งขันบนเวทีระดับโลกได้เป็นอย่างดี และผมเชื่อมั่นว่า กีฬาเรือใบเล็กในเมืองไทยจะได้รับความนิยมเพิ่มากขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน" กีรติ กล่าวสรุป รายชื่อผู้ชนะการแข่งขันเรือใบเล็กรายการ "อินเตอร์เนชั่นแนล ดิงกี้" คะแนนรวม ออพติมิสต์ชาย ผู้ชนะเลิศ : เจตวีร์ ยงยืนนาน อันดับ 2 : พันวา บุนนาค อันดับ 3 : ปาฏิหาริย์ วรศาสตร์ ออพติมิสต์หญิง ผู้ชนะเลิศ : พัชรี ศรีงาม อันดับ 2 : ปารวี แดงประทุม อันดับ 3 : สุชานรี เดชทศพล เลเซอร์ 4.7 ผู้ชนะเลิศ : สุธน แย้มพินิจ อันดับ 2 : พัทธ์ธีรา มีอยู่สามเสน อันดับ 3 : ปาลิกา พูนพัฒน์ เลเซอร์เรเดียล ผู้ชนะเลิศ : พ.จ.อ.มนัส โพธิ์ทอง อันดับ 2 : การ์ตูน จันทร์เดช อันดับ 3 : พ.จ.อ.จักราวุธ แก้วอ่อน เลเซอร์สแตนดาร์ด ผู้ชนะเลิศ : กีรติ บัวลง อันดับ 2 : จ.อ.ชัยวัฒน์ แดงดีมาก อันดับ 3 : ธนกร แก้วล้วน ท็อปเปอร์ ผู้ชนะเลิศ : ณัฐพงศ์ ยวงงาม อันดับ 2 : ศราวุธ กุลเอก อันดับ 3 : ธนัยธร แมฟิโด 420 ผู้ชนะเลิศ : ธีรดา ฟักแก้ว และ ปิยาพร เข็มแก้ว อันดับ 2 : ชนาวีร์ คงพร้อม และ รัฐนันท์ รักษ์มณี อันดับ 3 : อดิศักดิ์ กิ่งแก้ว และ กรรณชัย วงผดุง การแข่งขันเรือใบภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าครั้งที่ 31 ดำเนินการโดยคณะกรรมการจัดงานการแข่งขันเรือใบภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า ภายใต้สโมสรเรือใบราชวรุณ และร้องขอการสนับสนุนจากกองทัพเรือ สมาคมแข่งเรือใบแห่งประเทศไทย และจังหวัดภูเก็ต โดยมีผู้สนับสนุน ได้แก่ กะตะกรุ๊ป รีสอร์ท ประเทศไทย, สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และบริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.kingscup.com สำหรับสื่อมวลชนที่ต้องการภาพความละเอียดสูง สามารถล็อกอินได้ที่เว็บไซต์ต่อไปนี้ Facebook: http://www.facebook.com/phuketkingscupregatta

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ