กระทรวงพลังงาน ประกาศปรับลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับน้ำมันดีเซล และไบโอดีเซล (บี5) ลงอีก 20 สตางค์ต่อลิตร

ข่าวทั่วไป Wednesday November 28, 2007 11:00 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 พ.ย.--กระทรวงพลังงาน
กระทรวงพลังงาน ประกาศปรับลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับน้ำมันดีเซล และไบโอดีเซล (บี5) ลงอีก 20 สตางค์ต่อลิตร เพื่อชะลอการปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศ โดยมีผลในพรุ่งนี้
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า จากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลดปรับตัวสูงขึ้นไปอยู่ในระดับ 90 เหรียญต่อบาร์เรล ยังคงเป็นระดับที่สูงจนอาจเกิดผลกระทบต่อประชาชน ดังนั้นกระทรวงพลังงานจำเป็นที่จะต้องประกาศปรับลดการจัดเก็บอัตราการนำเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงดีเซลและไบโอดีเซล (บี5) จากบริษัทผู้ค้าน้ำมันลง 20 สตางค์ต่อลิตร เพื่อบรรเทาการปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศของบริษัทผู้ค้าน้ำมันดีเซล โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2550 เป็นต้นไป
นายวีระพล กล่าวว่า การปรับลดอัตราการจัดเก็บเงินนำเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในครั้งนี้ ทำให้กองทุนน้ำมันฯมีฐานะลดลง 315 ล้านบาทต่อเดือน ปัจจุบันกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีเงินสุทธิ จำนวน 13,201 ล้านบาท และมีหนี้สินค้างชำระ 15,594 ล้านบาท แบ่งเป็น หนี้พันธบัตร 8,800 ล้านบาท จ่ายชำระหนี้ชดเชยตรึงราคาน้ำมัน 990 ล้านบาท ชำระหนี้ชดเชยราคา LPG จำนวน 5,288 ล้านบาท จ่ายชดเชยภาระดอกเบี้ยพันธบัตรอายุ 3 ปี จำนวน 516 ล้านบาท ปัจจุบันกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีภาระหนี้สินอยู่ประมาณ 2,393 ล้านบาท
นายวีระพล กล่าวต่อว่า จากการที่กระทรวงพลังงานได้ประกาศปรับลดอัตราการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงน้ำมันดีเซลและไบโอดีเซล (บี5) ลดลง 20 สตางค์ต่อลิตร เพื่อชะลอการปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศทุกชนิด ส่งผลให้บริษัทผู้ค้าน้ำมันยังสามารถตรึงราคาขายปลีกออกไปอีก ล่าสุดราคาน้ำมันดีเซลจะอยู่ในระดับ 29.34 บาทต่อลิตร และใกล้แตะราคาระดับ 30 บาทต่อลิตร และราคาไบโอดีเซล ( บี5 )อยู่ที่ระดับราคา 28.34 บาทต่อลิตร ทำให้บริษัทผู้ค้าน้ำมันมีค่าการตลาดเฉลี่ยทุกผลิตภัณฑ์อยู่ที่ 58 สตางค์ต่อลิตร
โดยสาเหตุของราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงนี้ เป็นปรับตัวสูงขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 90 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จากกระแสวิตกว่าฤดูหนาวในซีกโลกเหนือส่อเค้ารุนแรง และจะทำให้กระตุ้นมีปริมาณความต้องการใช้พลังงานเพิ่มสูงขึ้นในช่วงเวลาตลาดโลกยังรอทีท่าของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันหรือโอเปกว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตหรือไม่ และยังมีปัจจัยอื่น รวมทั้งค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามกระทรวงพลังงานไม่ได้นิ่งนอนใจโดยจะติดตามดูสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและดีเซลจำเป็นต้องปรับตัวสูงขึ้นไม่ต่ำกว่า 1 บาทต่อลิตร

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ