อุตฯ อาหารไทย ดิ้นหนีปัจจัยลบ คาดสิ้นปี 50 ส่งออกทะลุ 6 แสนล้านบาท

ข่าวทั่วไป Friday October 12, 2007 16:38 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 ต.ค.--โปรคอมมิวนิเคชั่นส์ แอนด์ คอนซัลแตนท์ 3 องค์กรเศรษฐกิจชี้ปี 2550 ภาพรวมส่งออกสินค้าอาหารของไทยขยายตัวต่ำกว่าศักยภาพ เหตุเผชิญปัจจัยลบรอบด้าน ทั้งการแข็งค่าของเงินบาท การชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขาดแคลนวัตถุดิบ การเพิ่มขึ้นของต้นทุนการผลิต ตลอดจนมาตรการกีดกันการค้า กระทบความสามารถในการแข่งขันของไทย แม้ว่าช่วงท้ายปี สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป อาทิ ข้าว น้ำตาล มันสำปะหลัง ผักและผลไม้สด จะช่วยดันยอดส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้น เหตุผลผลิตสินค้าเกษตรทั่วโลกอยู่ในภาวะตึงตัว ทำให้มีความต้องการสินค้าจากไทยเพิ่มขึ้น และภาวะเศรษฐกิจคู่ค้าโดยรวมยังขยายตัว ในขณะที่ส่งออก สินค้าประมง ปศุสัตว์ และสับปะรดกระป๋อง มีแนวโน้มชะลอตัวจากปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ ระบุไตรมาส 4 คาดส่งออกมีมูลค่า 156,659 ล้านบาท ตลอดปี 2550 คาดส่งออกสินค้าอาหารมีมูลค่า 608,047 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.8 จากปี 2549 การแถลงข่าวร่วม 3 องค์กร เรื่อง “สถานการณ์ธุรกิจเกษตรและอาหารในปัจจุบัน และแนวโน้มในอนาคต” ในครั้งนี้ เป็นการจัดงานร่วมกันเป็นครั้งที่สอง ได้มีตัวแทนหลักของทั้ง 3 องค์กร ประกอบด้วย นายดำริ สุโขธนัง รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ประธานคณะกรรมการสถาบันอาหาร นายไพบูลย์ พลสุวรรณา ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล ประธานคณะกรรมการธุรกิจเกษตรและอาหาร สภาหอการค้า แห่งประเทศไทย และ ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร ร่วมให้รายละเอียด และรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กล่าวว่า ในการประสานความร่วมมือของ 3 องค์กร ในส่วนของสถาบันอาหารจะทำหน้าที่เป็นองค์กรในการรวบรวมข้อมูลจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องภายใต้การดำเนินงานของศูนย์อัจฉริยะเพื่ออุตสาหกรรมอาหาร หรือ Food Intelligence Center เพื่อเผยแพร่ข้อมูลภาวะอุตสาหกรรมธุรกิจเกษตรและอาหารทั้งในปัจจุบันและแนวโน้มในอนาคต ภาวะการผลิตอุตสาหกรรมอาหารในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2550 ดัชนีผลผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.0 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั้งปีของปี 2549 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 8.2 โดยผลผลิตอุตสาหกรรมอาหารที่ส่งผลในแง่บวกต่อการเพิ่มขึ้นของดัชนีรวมในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ได้แก่ น้ำตาลทรายขาว และน้ำตาลทรายดิบ ส่วนผลผลิตอุตสาหกรรมอาหารที่ส่งผลในแง่ลบต่อดัชนีรวมในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ได้แก่ ทูน่ากระป๋อง และสับปะรดกระป๋อง สำหรับการนำเข้า ในช่วงต้นของไตรมาสที่ 3 ปี 2550 การนำเข้าสินค้าอาหารยังคงชะลอตัวลงจากช่วงครึ่งปีแรก มีมูลค่านำเข้า 16,131 ล้านบาท โดยกลุ่มสินค้าวัตถุดิบ เช่น ทูน่าแช่แข็ง และถั่วเหลือง มีปริมาณการนำเข้าลดลง เนื่องจากราคาในตลาดโลกที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับภาวะการส่งออกที่เริ่มชะลอตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2550 ทำให้ความต้องการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบของไทยในช่วง 8 เดือนแรกปี 2550 ขยายตัวต่ำ ส่วนการ นำเข้าสินค้าจำเป็นในการบริโภค ได้แก่ ผัก ผลไม้ ผลิตภัณฑ์นม อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป มีการนำเข้าเพิ่มสูงขึ้นในช่วง 8 เดือนแรก ขณะที่การนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือย โดยเฉพาะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีการนำเข้าลดลงเนื่องภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศยังไม่ฟื้นตัว ด้านสถานการณ์การส่งออกนั้น 8 เดือนแรกของปี 2550 การส่งออกสินค้าอาหารมีมูลค่า 395,073 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.7 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สินค้าสำคัญที่ทำให้ยอดส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าว น้ำตาล มันสำปะหลัง ผักและผลไม้สด เป็นต้น ส่วนสินค้าหลักที่ส่งออกลดลง ได้แก่ ทูน่าแปรรูป สับปะรดกระป๋อง และน้ำสับปะรด ซึ่งสาเหตุมาจากการขาดแคลนวัตถุดิบเป็นสำคัญ โดยสาเหตุสำคัญที่ทำให้การส่งออก สินค้าอาหารโดยรวมยังขยายตัวเพิ่มขึ้นมาจากภาวะเศรษฐกิจคู่ค้าโดยรวมยังขยายตัวได้ดี แนวโน้มการส่งออกสินค้าอาหารในไตรมาสสุดท้ายของปี 2550 คาดว่ามีแนวโน้มฟื้นตัวได้ หลังจากที่ชะลอตัวในไตรมาสที่ 3 โดยการส่งออกในไตรมาสที่ 4 คาดว่าจะมีมูลค่า 156,659 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.8 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยเงินบาทที่มีเสถียรภาพขึ้นและเคลื่อนไหวในช่วงแคบๆ ในช่วงไตรมาส 3 ถือเป็นปัจจัยบวกต่อการส่งออกในช่วงที่เหลือของปี 2550 เมื่อรวมตลอดปี 2550 คาดว่าการส่งออกสินค้าอาหารจะมีมูลค่า 608,047 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.8 จากปี 2549 ตัวเลขส่งออกที่ยังขยายตัวสูงเนื่องจากการส่งออกสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป เช่น ข้าว น้ำตาล มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน ผักและผลไม้สด ยังขยายตัวตัวได้ดี โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากผลผลิตสินค้าเกษตรทั่วโลกอยู่ในภาวะตึงตัว ทำให้มีความต้องการสินค้าจากไทยเพิ่มขึ้น ส่วนการส่งออกสินค้าประมง ปศุสัตว์ และสับปะรดกระป๋อง มีแนวโน้มชะลอตัวลงจากปีก่อนเนื่องจากปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ โดยเฉพาะทูน่าแปรรูปและสับปะรดกระป๋อง ส่วนการส่งออกกุ้ง และเนื้อไก่แปรรูปมีปริมาณส่งออกเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแต่รายได้ในรูปเงินบาทลดลง นายไพบูลย์ พลสุวรรณา ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร ส.อ.ท. กล่าวว่าการส่งออกอาหารที่เติบโต 8% ถือว่าประสบความสำเร็จ ยอดการส่งออกมีมูลค่าทะลุ 600,000 ล้านบาท ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมาย คาดว่าปี 2551 การส่งออกอาหารจะขยายตัว 10% เนื่องจากไทยจะทำข้อตกลงเปิดเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) กับหลายประเทศ และผลจากภาวะโลกร้อน ทำให้มีความต้องการสินค้าเกษตรและอาหารจากไทย โดยไทยหวังเป็นศูนย์กลางผลิตอาหารและวัตถุดิบเพื่อป้อนตลาดโลก รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ : แผนกการตลาดและประชาสัมพันธ์ สถาบันอาหาร คุณณัชชา บุญแสง ทรศัพท์ 0 2886 8088 ต่อ 9205

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ