สนข. สร้างมิติใหม่ ส่งเสริมประชาชนปรับเปลี่ยนทัศนคติในการเดินทางโดยใช้ระบบขนส่งสาธารณะ

ข่าวเศรษฐกิจ Monday January 15, 2018 13:54 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 ม.ค.--Media Letsc สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จัด "กิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนปรับเปลี่ยนทัศนคติในการเดินทางโดยใช้ระบบขนส่งสาธารณะ" โดยมี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการ สนข. และผู้บริหารของหน่วยงานต่างๆ ร่วมงาน โดยได้เชิญ 2 ดาราดัง จ๊ะจ๋า-พริมรตา เดชอุดม และ รอน-ภัทรภณ โตอุ่น ร่วมเดินรณรงค์กับประชาชนทั่วไป โดยเริ่มต้นจากสถานีแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ มักกะสัน มายังจุดต่อเชื่อมไปยังรถไฟฟ้าสถานีพญาไท และต่อเนื่องไปยังสี่แยกพญาไท ซึ่งมีการจราจรหนาแน่น และเป็นแหล่งที่สามารถเดินทางโดยรถสาธารณะได้สะดวกเนื่องจากเป็นฮับของเครือข่ายการเดินทางที่หลากหลาย โดยมีเยาวชน และประชาชนทั่วไปให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมมีภารกิจสำคัญที่จะต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง การบริหารจัดการ และการให้บริการภาคคมนาคม รวมทั้งการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ ในการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะให้มีความทันสมัย สะดวกสบาย ปลอดภัย ประชาชนทุกกลุ่มสามารถใช้บริการได้อย่างเสมอภาค และเท่าเทียม ภายใต้นโยบาย "One Transport" ซึ่งเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการ สนข. กล่าวว่า สนข. ได้มุ่งเน้นการพัฒนาระบบการขนส่งสาธารณะ เพื่อให้เป็นระบบหลักในการเดินทางของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยปัจจุบันมีประชาชนให้บริการเฉลี่ยรวมประมาณวันละ 1,040,000 คน-เที่ยว และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงมีความจำเป็นที่จะต้องสร้างการรับรู้และส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะแทนการใช้ยานพาหนะส่วนตัว โดยจัดกิจกรรมขึ้นในรูปแบบของขบวนรณรงค์เชิงรุกในลักษณะการเดินขบวนประชาสัมพันธ์ เพื่อให้เข้าถึงประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าให้หันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งได้จัดให้มีกิจกรรมทางโซเซียลมีเดียที่น่าสนใจ เพื่อสร้างการรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์แก่กลุ่มเป้าหมายอีกด้วย จ๊ะจ๋า-พริมรตา กล่าวว่า รู้สึกยินดีมากที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์ครั้งนี้ เพราะโดยส่วนตัวก็เป็นคนหนึ่งที่เคยคิดว่าการเดินทางด้วยรถส่วนตัวหรือพาหนะส่วนตัวดีกว่า สะดวกสบายกว่า แต่เอาเข้าจริงๆ แล้ว การใช้ระบบขนส่งสาธารณะก็สะดวกสบายมาก โดยเฉพาะเวลาเร่งด่วน เราไม่ต้องมารถติด ห่วงรถ ห่วงหาที่จอด แต่สามารถใช้รถไฟฟ้า รถใต้ดิน หรือรถสาธารณะอื่นๆ แล้วทำให้ไปถึงที่หมายได้อย่างสะดวกสบาย รวมไปถึงอาจจะเร็วกว่าการรถติดอยู่บนถนนด้วยซ้ำ "โครงการนี้ทำให้มองเห็นภาพชัดเจนขึ้นไปอีกว่ารัฐบาลจริงจังกับการยกระดับและพัฒนาการขนส่งมากขึ้นกว่าเดิมมาก และทำให้เชื่อมั่นว่าภายใน 3 ปี ที่รถไฟฟ้า และระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ แล้วเสร็จและเปิดให้บริการมากขึ้น จะทำให้กรุงเทพฯ เราเป็นมหานครที่ทันสมัยมากขึ้น"

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ