กรุงเทพฯ--27 ก.ย.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เตือนผู้ใช้รถใช้ถนนในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ควรเพิ่มความระมัดระวังขณะขับขี่ เนื่องจากในระยะนี้มีหมอกปกคลุมในช่วงเช้า ส่งผลให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นไม่ดี ควรเปิดไฟหน้ารถ และไฟตัดหมอก ไม่ขับรถเร็ว ไม่เปลี่ยนเส้นทางกะทันหัน เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทางถนน
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศในระยะนี้ พบว่า บริเวณตอนบนของประเทศจะมีอากาศเย็นและฝนตก ซึ่งลักษณะเช่นนี้จะทำให้ช่วงเช้ามีหมอกมากปกคุลมหนาทึบ ไม่สามารถมองเห็นเส้นทางได้ชัดเจน จึงเตือนผู้ใช้รถผู้ใช้ถนน ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่เขาสูงและบนยอดดอย ได้แก่จังหวัดเชียงราย น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ นครพนม หนองคาย เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร และมุกดาหาร ให้เพิ่มความระมัคระวังในขณะขับขี่รถผ่านเส้นทางที่มีหมอกลงจัด ซึ่งจะทำให้ทัศนวิสัยการมองเห็นไม่ดี ไม่สามารถมองเห็นในระยะไกล โดยสามารถมองเห็นได้เพียงระยะ 1,200 — 2,000 เมตรเท่านั้น จึงขอให้ผู้ขับขี่เปิดไฟหน้ารถและเปิดไฟตัดหมอก ซึ่งจะทำให้การมองเห็นดีขึ้นแล้ว จะทำให้รถคันอื่นๆ มองเห็นรถเราด้วย รวมทั้งไม่ขับรถเร็ว ไม่ขับแซง ไม่เปลี่ยนช่องทาง ไม่หยุดรถกะทันหัน และไม่ควรขับรถจี้ท้ายคันอื่น ควรเว้นระยะห่างพอสมควร เพราะหากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นจะทำให้สามรถหยุดรถได้ทัน หากมีหมอกปกคุลมถนนมาก ทำให้ทัศนวิสัยแย่จนไม่สามารถมองเห็นเส้นทาง ควรหาที่จอดรถในที่ปลอดภัย และรอจนสามารถมองเห็นเส้นทางได้ในระยะที่ไกลพอสมควรแล้วจึงเดินทางต่อไป ที่สำคัญไม่ควรเปิดไฟฉุกเฉินอย่างเด็ดขาด ควรเปิดใช้เฉพาะกรณีที่เกิดอุบัติเหตุและจะต้องจอดรถเท่านั้น เนื่องจากขณะที่เปิดไฟฉุกเฉินจะทำให้ไม่มีสัญญาณไฟเลี้ยวใช้ ทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อผู้ใช้เส้นทางรายอื่นๆ ทั้งนี้ หากประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนประสบความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยพิบัติ สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือ ได้ที่สายด่วนสาธารณภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานและให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป