เอไอเอส ผนึกกำลัง จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ กับครั้งแรกของการขายเพลงผ่านมือถือรูปแบบใหม่ หวังครองใจผ่านกลยุทธ์บอกต่อ

ข่าวบันเทิง Tuesday September 4, 2007 13:29 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 ก.ย.--เอไอเอส
เอไอเอส จับมือค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านโมบาย มิวสิค ตัวจริง!! ช็อกวงการเพลงและมือถือ!! เปิดมิติใหม่ ขายเพลงดิจิตอลผ่านมือถือเอไอเอส ที่เปิดให้ฟังเพลงออกใหม่ก่อนใครจริงๆ โหลดได้ก่อนเพื่อน ก่อนส่งเพลงโปร โมททางคลื่นวิทยุด้วยซ้ำ หวังครองใจผ่านกลยุทธ์บอกต่อ เชื่อสร้างกระแสปลื้มเพลงใหม่ได้โดนกว่าที่ผ่านมา ประเดิมบริการ Music open up *4998 ด้วยเพลงใหม่ของ เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย ที่ฟังและโหลดได้ก่อนใครนับตั้งแต่วันนี้ มั่นใจสร้างความหวือหวาแปลกใหม่ให้คอเพลง ส่งผลยอดดาวน์โหลดคอนเทนต์พุ่งขึ้นอีก 2 เท่าตัว
นายปรัธนา ลีลพนัง ผู้อำนวยการสำนักการตลาดบริการสื่อสารไร้สาย เอไอเอส โมบายไลฟ์ กล่าวว่า “ที่ผ่านมา ธุรกิจขายเพลงดิจิตอลได้รับการยอมรับและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมียอดผู้ใช้บริการมากกว่า 7 ล้านคน และมากกว่า 2.5 ล้านดาวน์โหลดต่อเดือน โดยล่าสุด เพื่อเป็นการเปิดมิติใหม่ของการขายเพลงดิจิตอลบนมือถือไปอีกขั้น เอไอเอสได้ร่วมมือกับค่ายเพลงชั้นนำ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ และจีเอ็มเอ็ม ดิจิตอล โดเมน เปิดช่องทางโปรโมทเพลง และขายเพลงรูปแบบใหม่บนมือถือ ให้ลูกค้าเอไอเอสได้เข้ามาฟังเพลงออกใหม่ของแกรมมี่ก่อนใคร พร้อมทั้งดาวน์โหลดคอนเทนต์ใหม่ได้ทันที โดยจะหาฟังที่ไหนไม่ได้ เรียกว่าเปิดขายและให้ฟังก่อนออกอากาศทางคลื่นวิทยุ หรือก่อนวางแผงเทปเสียอีก โดยใช้ชื่อบริการว่า “Music Open Up” ประเดิมเปิดตัวด้วยผลงานเพลงใหม่ล่าสุดของเบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย ที่มีให้ฟังและโหลดได้ที่นี่ก่อนใคร ด้วยวิธีง่ายๆ แค่กด *4998 คิดค่าทำรายการนาทีละ 3 บาท และคิดค่าคอนเทนต์ในราคาปกติ ได้แก่ โมโนโทน, โพลีโฟนิค, ทรูโทน, คอลลิ่ง เมโลดี้ และฟูลซอง หรือดาวน์โหลดคอนเทนต์ผ่านทาง Wapsite ที่ wap.mobilelife.ais.co.th และ wap.gmember.com หรือ 1175 กด 9 ก็ได้
“เรามองว่าความร่วมมือครั้งนี้เป็นการจุดประกายการทำตลาดเพลงดิจิตอลแนวใหม่ที่พัฒนาไปอีกขั้น เพราะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ลูกค้าได้มากขึ้น จากเดิมที่สะดวกอยู่แล้วในการโหลดเพลงที่ชื่นชอบได้ทันทีผ่านทางมือถือ แต่ก็จะเป็นเพลงที่ผ่านการโปรโมทผ่านทางสื่อต่างๆ เช่น รายการวิทยุ โทรทัศน์ ตามปกติ แต่บริการนี้จะช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ แบบ Exclusive เพราะจะมีลูกค้าเอไอเอสเท่านั้นที่จะได้ฟังและโหลดมาไว้ในมือถือได้ก่อนใคร ก่อนแม้แต่ในรายการวิทยุด้วย ดังนั้นนอกจากจะเกิดประโยชน์กับลูกค้าแล้ว ยังเป็นการสร้างกลยุทธ์บอกต่ออย่างมีประสิทธิภาพ ถึงตัวอย่างชัดเจน เพราะเพลงที่โหลดเป็น Calling Melody หรือ True Tone จะทำหน้าที่เป็นเสมือนสื่อดิจิตอลบนมือถือ ที่ช่วยสร้างกระแสการบอกต่อ (Viral Marketing) เป็นอย่างดี เช่น เมื่อโทร.เข้ามาที่เบอร์เอไอเอส แล้วได้ยินเสียงรอสายเพลงใหม่ของเบิร์ด ก็จะแปลกใจว่า เพลงนี้ยังไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อน จะหาโหลดได้ที่ไหน เป็นต้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เกิดความต้องการดาวน์โหลดคอนเทนต์ใหม่ๆ ก่อนการขายจริง รวมไปถึงยืดอายุของการขายเพลงใหม่ๆในตลาดได้นานยิ่งกว่าเดิมอีกด้วย”
นายอภิชาติ์ หงส์หิรัญเรือง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดธุรกิจดิจิตอล บริษัท จีเอ็มเอ็ม ดิจิตอล โดเมน เปิดเผยว่า “เพลงแกรมมี่ อยู่ในความรู้สึกของกลุ่มเป้าหมายเรามาโดยตลอด ความต้องการในการบริโภคการฟังเพลงไม่ได้หายไปไหน ทุกคนยังชอบการฟังเพลง คนไทยยังรักการฟังเพลงเหมือนเดิม สิ่งที่เปลี่ยนไปเป็นเพียงพฤติกรรมและวิธีการบริโภค ดังนั้น แกรมมี่ในฐานะผู้นำในธุรกิจนี้ และเป็นค่ายเพลงอันดับหนึ่งในตลาดเพลงเมืองไทยจึงได้นำเสนอรูปแบบใหม่ในการทำการตลาดธุรกิจเพลงในเมืองไทย และมั่นใจว่าธุรกิจการขายเพลงดิจิตอลจะเติบโตอย่างต่อเนื่องและเข้ากับพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างแน่นอน ทั้งนี้สายงานดิจิตอลบิสิเนสของเราจึงได้คิดค้นวิธีการนำเสนอที่แปลกใหม่ และสนุกกับการติดตามความเป็นมาของการพัฒนาเพลงตั้งแต่ออกจากห้องอัดจนมาเป็นเพลงเต็มให้เราทุกคนได้ฟังได้ก่อนใคร
บริการ music open up (*4998) เปรียบเสมือนเวลาเราคิดถึงศิลปินอยากรู้ว่าเขาทำอะไรอยู่ และเพลงใหม่จะออกเมื่อไร จะโดนใจโดนความรู้สึกของเราหรือเปล่า ขอแอบฟังก่อนได้มั้ย บริการ music open up (*4998) นี้ จะเป็นคำตอบ
แกรมมี่ยืนยันที่จะพัฒนารูปแบบบริการใหม่ๆอยู่เสมอ พร้อมทั้งนำสิ่งที่ดีๆ จากเทคโนโลยีมาปะยุกต์ใช้กับธุรกิจของเรา เพื่อจะสร้างพฤติกรรมการบริโภคเพลงแบบใหม่”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สุดาพร (ยีน) PR/AIS โทร. 081 9206611

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ