JSP โชว์ผลประกอบการปี 60 กวาดรายได้ 4,521.87 บาท โต 35.91 % ขาดทุนสุทธิ 22 ล้านบาท กางแผนธุรกิจปี 61 เตรียมงบลงทุน3,000 ล้านบาท

ข่าวอสังหา Friday March 2, 2018 10:46 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 มี.ค.--Worklink PR JSP โชว์ผลประกอบการปี 60 กวาดรายได้ 4,521.87 บาท โต 35.91 % ขาดทุนสุทธิ 22 ล้านบาท กางแผนธุรกิจปี 61 เตรียมงบลงทุน3,000 ล้านบาท เปิดโครงการใหม่ 4 โครงการ มูลค่า1,500 ล้านบาท เสริมกลยุทธ์เพิ่มมาร์จิ้น เจาะตลาดโครงการแนวราบ พร้อมขึ้นแท่นผู้นำตลาดบ้านแฝด ราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาท ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 4,500 ล้านบาท โดยเน้นการทำกำไรเพิ่มขึ้น ตุน Backlog กว่า 3,800 ล้านบาท นายสิทธิพร รัตนาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท เจ.เอส.พี.พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JSP เปิดเผยถึง ผลประกอบการปี 2560บริษัทมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นและเป็นการทำสถิติ เติบโตสูงสุด โดยบริษัทมีรายได้รวม 4,521.87 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 3,327.09 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 35.91% และมีขาดทุนสุทธิ 22 ล้านบาท ซึ่งมีผลมาจากผลขาดทุนจากการด้อยค่าของพื้นที่เช่าและผลขาดทุนจากเงินลงทุนในการร่วมค้า ซึ่งเป็นช่วงแรกของการประกอบการและยังไม่ถึงเกณฑ์ที่จะรับรู้รายได้ สำหรับผลประกอบการปี 2560 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมียอดโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์เพื่อการจำหน่าย จำนวน 2,000 ยูนิต โดยมีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่ 4,257.24 ล้านบาท เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 3,049.17 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1,208.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.62 % และมีรายได้จากการให้เช่าและบริการ เท่ากับ 110.72ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 41.52 ล้านบาท โดยผลประกอบการมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องจากการรับรู้รายได้การโอนกรรมสิทธิ์เข้ามาอย่างต่อเนื่องจากโครงการแนวราบ ได้แก่ โครงการเจ บิช- เจ ทาวน์ – เจ ซิตี้- เจ วิลล่า แพรกษา, เจ บิช- เจ ทาวน์– เจ ซิตี้ – เจ วิลล่า รังสิต, เจ บิช – เจ ทาวน์ – เจ ซิตี้ – เจ วิลล่า บางปะกง, ไมอามี่, เจ ซิตี้ ติวานนท์-บางกะดี,เจซิตี้ บางบัวทอง, และ เจ แกรนด์ สาทร-กัลปพฤกษ์ จึงส่งผลให้บริษัทมีผลการดำเนินงานในส่วนของรายได้รวมปีนี้สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทิศทางการดำเนินงานในปี 2561 บริษัทตั้งเป้ารายได้ที่ 4,500 ล้านบาท ซึ่งเน้นการทำกำไรเพิ่มขึ้น สำหรับกลยุทธ์ในปีนี้ บริษัทฯ จะมุ่งเน้นการเพิ่มยอดขายและเร่งโอนโครงการแนวราบ โดยเฉพาะโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ซึ่งมีมาร์จิ้นระดับสูงที่ 25-30 % เพื่อผลักดันมาร์จิ้นให้มีการเติบโตสูงกว่าปีที่ผ่านมา พร้อมตั้งเป้าหมายก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำ 1 ใน 5 ของผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ประเภทบ้านแฝด ราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทได้วางงบลงทุนปี 2561 จำนวน 3,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นงบสำหรับการก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 2,000 ล้านบาท และซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการ จำนวน 1,000 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมีแบ็กล็อกในมือกว่า 3,800 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ภายในปีนี้ประมาณ 2,800 ล้านบาท
แท็ก แผนธุรกิจ  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ