ฝนหลวงฯ เจ๋ง!! จัดทำระบบแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประโยชน์ด้านการเตือนภัยพิบัติทางธรรมชาติ

ข่าวทั่วไป Tuesday March 6, 2018 15:56 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 มี.ค.--กรมฝนหลวงและการบินเกษตร วันที่ 6 มีนาคม 2561 เวลา 13.00 น. นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า จากปัญหาหมอกควันและไฟป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย ซึ่งทำให้เกิดฝุ่นละอองที่เป็นมลพิษ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน สิ่งแวดล้อม ตลอดจนพื้นที่การเกษตร กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ตระหนักถึงผลกระทบจากปัญหาดังกล่าว พร้อมทั้งมีความห่วงใยประชาชนในพื้นที่ จึงดำเนินการปฏิบัติการฝนหลวงยับยั้งปัญหาหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะที่ ตำบลแม่ปะ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ตำบลพระบาท อำเภอเมือง ตำบลบ้านดง ตำบลแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง และ ตำบลนาจักร อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ อย่างเร่งด่วน นายสุรสีห์ กล่าวต่อว่า จากการติดตามประกาศเตือนและการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ร่วมกับผลตรวจอากาศชั้นบนของกรมฝนหลวงฯ พบว่า สภาพอากาศในช่วงเช้าของวันที่ 6 มีนาคม 2561 พื้นที่ภาคเหนือตอนบนยังไม่มีโอกาสขึ้นทำฝน แต่จากสถานการณ์ค่าฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน (PM10) ซึ่งเกินค่ามาตรฐานในพื้นที่ 3 จังหวัดดังกล่าว หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือจังหวัดเชียงใหม่จึงได้เตรียมพร้อมติดตามสภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง หากสภาพอากาศเหมาะสมสามารถทำฝนได้ จะเร่งปฏิบัติการทำฝนสลายหมอกควันทันที สำหรับการปฏิบัติการสลายลูกเห็บ กรมฝนหลวงฯ ได้วางแผนปฏิบัติการเพิ่มเติมในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ ได้บูรณาการการเฝ้าระวังการเกิดลูกเห็บร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยจะใช้เครื่องบิน Super King Air ในการปฏิบัติการยับยั้งบรรเทาภัยพิบัติจากลูกเห็บ และมีการเฝ้าระวังและติดตามการเกิดลูกเห็บทางภาคพื้น ซึ่งจะทำการแจ้งเตือนทางกรุ๊ปไลน์อาสาฝนหลวงภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งส่งข้อมูลแจ้งไปที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เกษตรและสหกรณ์จังหวัด และประชาสัมพันธ์ของแต่ละจังหวัดที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดพิบัติภัยจากพายุฤดูร้อน เพื่อเป็นการนำข้อมูลเรดาร์ตรวจอากาศของกรมฝนหลวงฯ ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเกี่ยวกับการเตือนภัยพิบัติทางธรรมชาติต่อไป นายสุรสีห์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการแก้ปัญหาภัยแล้ง กรมฝนหลวงฯ ได้รับแจ้งการขอรับบริการสนับสนุนฝนหลวงในพื้นที่ภาคตะวันออก ได้แก่ พื้นที่ปลูกลำไยนอกเขตชลประทาน จำนวน 200,000 ไร่ บริเวณอำเภอสอยดาว อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี พื้นที่ปลูกพืชผักและผลไม้ จำนวน 1,000 ไร่ บริเวณอำเภอเมือง จังหวัดระยอง และพื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง 2,250 ไร่ อ้อยโรงงาน 1,000 ไร่ และหญ้าเนเปียร์ 1,000 ไร่ บริเวณอำเภออรัญประเทศและอำเภอวังสมบูรณ์ จังหวัดสระแก้ว โดยหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดจันทบุรี ได้เริ่มปฏิบัติการในพื้นที่ภาคตะวันออก ตั้งแต่วันที่ 1 – 5 มีนาคมที่ผ่านมา ผลการปฏิบัติการพบว่า มีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลางกระจายในพื้นที่อำเภอแก่งหางแมว อำเภอเขาคิชฌกูฏ อำเภอสอยดาว และอำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่ประสบปัญหาหมอกควัน หลีกเลี่ยงกิจกรรมในพื้นที่ที่มีหมอกควันปกคลุมหรือสวมหน้ากากอนามัย ส่วนพื้นที่ที่ประสบปัญหาพายุลูกเห็บ ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่โล่งแจ้งหรือใต้ต้นไม้ใหญ่ และขอให้ประชาชนมั่นใจในความพร้อมของกรมฝนหลวงฯ ที่จะช่วยปฏิบัติการบรรเทาปัญหาหมอกควัน พายุลูกเห็บ ภัยแล้ง และการขาดแคลนน้ำอย่างต่อเนื่องในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารได้ทางเพจ Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร หรือเว็บไซต์กรมฝนหลวงและการบินเกษตร

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ