กรุงเทพฯ--24 ต.ค.--กทม.
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวด้วยว่า กรุงเทพมหานครได้ริเริ่มฟื้นฟูแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมทั้งตั้งคณะกรรมการฟื้นฟูแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา แต่จากนี้ไปทุกองค์กรเครือข่ายภาคี และประชาชนที่อยู่ริมสองฟากแม่น้ำในพื้นที่ 17 เขต จะร่วมมือกันอย่างจริงจัง เพื่อดูแล รักษา อนุรักษ์แม่น้ำเจ้าพระยาให้กลับมาใสสะอาด มีทัศนียภาพที่ร่มรื่น สวยงาม เป็นสายน้ำแห่งวัฒนธรรมของคนไทยตลอดไป โดยจะมีการตั้ง “มูลนิธิเรารักษ์เจ้าพระยา” เพื่อรวบรวมเงินทุนในการทำกิจกรรมรณรงค์อย่างต่อเนื่อง จัดตั้ง “ยุวชนรักษ์เจ้าพระยา” คัดเลือกเยาวชนอาสาสมัครจากพื้นที่เข้ามาอบรมเพิ่มความรู้ และวิธีปฏิบัติงาน ส่งเสริมชุมชนในพื้นที่ให้จัดตั้ง“ชุมชนรักษ์เจ้าพระยา” คัดเลือกตัวแทนเข้ามาช่วยดูแล และตักเตือนผู้กระทำผิดต่อเจ้าพระยา จัดประกวดสถานประกอบการดีเด่นด้านรักษาสภาพแวดล้อม และภูมิทัศน์ที่สวยงามริมเจ้าพระยาถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวกรุงเทพมหานครอีกทางหนึ่ง
ในส่วนการควบคุมคุณภาพน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยานั้น ทางกรุงเทพมหานครได้มีการติดตามและตรวจสอบคุณภาพน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา และคลองต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 158 คลอง รวม 237 จุด โดยเก็บตัวอย่างน้ำเพื่อมาวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการทุกเดือน มีการติดตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพน้ำอัตโนมัติ จำนวน 6 สถานี ในขณะเดียวกันก็เร่งรัดการก่อสร้างโรงบำบัดน้ำเสียที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างอีก 3 แห่ง ได้แก่ คลองเตย บางซื่อ และธนบุรี คาดว่าจะแล้วเสร็จและเริ่มบำบัดน้ำเสียได้ในปี 2552-2553 รวมกับระบบบำบัดน้ำเสียที่เปิดไปแล้วอีก 7 แห่ง เป็น 10 แห่ง จะสามารถบำบัดน้ำเสียได้ประมาณ 70% ของน้ำเสียที่เกิดขึ้นทั้งหมดในกรุงเทพฯ ซึ่งจะสามารถลดปริมาณน้ำเสียที่จะลงสู่แม่น้ำ ลำคลองต่างๆ ได้