“ทรีนีตี้” เปิดตัว “มั่นคง & ว่องไว” คัดหุ้นเด็ดพร้อมซื้อขายหุ้นแทนลูกค้าเป็นเจ้าแรก รองรับดัชนีแตะ 1,900 จุดในช่วง Q3-Q4 จากปรากฎการณ์ “Mid-Year Rally”

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 26, 2018 13:33 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 มี.ค.--IR&PR HUB บล.ทรีนีตี้ มองตลาดหุ้นไทยเกิดปรากฎการณ์ "Mid-Year Rally" ดันดัชนีหุ้นมีโอกาสแตะ1,900 จุดในช่วง Q3-Q4 ของปีนี้ พร้อมฉวยจังหวะนี้เปิดตัวบริการ "มั่นคง & ว่องไว" เป็นรายแรกของโบรกเกอร์ในประเทศไทย ที่คัดหุ้นเด็ดพร้อมซื้อขายหุ้นแทนลูกค้าได้ หวังเป็นทางเลือกให้นักลงทุนที่ไม่มีเวลาติดตามตลาดใกล้ชิด ไม่พลาดโอกาสการลงทุนในช่วงตลาดหุ้นขาขึ้น ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ประเมินภาวะตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ร้อนแรง หรือเกิดปรากฎการณ์ "Mid- Year Rally" ดันดัชนีขึ้นไปทดสอบระดับ 1,900 จุด ในช่วงไตรมาส 3 - 4 ของปีนี้ โดยมีดัชนีเป้าหมายที่ 1,884 จุด ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยของ Forward PE (x) ย้อนหลัง 3 ปี ที่ระดับ 15.5 เท่า และ อยู่บนพื้นฐานที่กำไรต่อหุ้นของบริษัทจดทะเบียนของปี 2562 เฉลี่ยที่ระดับ 121.5 บาทต่อหุ้น สำหรับปัจจัยต่างประเทศที่เป็นแรงผลักดันให้ตลาดหุ้นเกิด "Mid – Year Rally" นั้น จากการที่นักลงทุนให้น้ำหนักกับการที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาได้ผ่านช่วงเวลาการเร่งขึ้นดอกเบี้ยไปแล้ว ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรปจะเป็นบวกครั้งแรกในช่วงต้นปี 2020 และดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่นจะยังคงทรงตัวอยู่ในระดับต่ำกว่า 0.5% ไปอีกระยะหนึ่ง (ซึ่งน่าจะมากกว่า 5 ปี) ในส่วนของปัจจัยภายในประเทศยังคงมีทิศทางที่ดีถือเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นไทย เนื่องจากกระแสเงินทุน (Fund Flow) ที่ไหลเข้าสู่เอเชียในเวลานี้ มุ่งหน้าเข้าสู่การลงทุนในตลาดหุ้น รวมถึงขณะนี้ภายในประเทศมีสภาพคล่องที่ดีอันเกิดจากมาตรการการใช้งบประมาณกลางปี 2561 ในวงเงินกว่า 1.5 แสนล้านบาทของกระทรวงการคลัง และภาพรวมการส่งออกมีเสถียรภาพมากขึ้น อีกทั้งราคาข้าวได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ดร.วิศิษฐ์ กล่าวเสริมว่า "จากทิศทาง "Fund Flow ที่จะไหลเข้ามาลงทุนในประเทศในรอบนี้ ถือเป็นโอกาสดีของนักลงทุนที่จะสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้น แต่อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะหากสหรัฐฯยังคงเดินหน้านโยบายกีดกันการค้าหรือทำสงครามการค้าเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คิด จะเป็นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลกโดยรวม โดยเฉพาะการทำสงครามการค้ากับจีน ซึ่งอาจนำไปสู่การขายพันธบัตรสหรัฐฯ ของธนาคารกลางจีน ซึ่งจะทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกมีความเสี่ยงมากขึ้น จะเห็นได้ว่าแม้ภาพรวมการลงทุนจะมีมุมมองที่เป็นบวกต่อตลาดหุ้นไทยและมีโอกาสในการทำกำไรในตลาดหุ้น ณ ขณะนี้แต่ยังคงมีความเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด จึงต้องมีกลยุทธ์ในการเลือกลงทุนในหุ้นที่มีการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างและมีราคาที่เหมาะสม ในแง่ของราคาหุ้นต่อมูลค่าทางบัญชี และผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น ดังนั้นเพื่อไม่ให้นักลงทุนพลาดโอกาสสำคัญในการลงทุน โดยเฉพาะช่วงตลาดหุ้นขาขึ้น บริษัทฯ จึงได้มีการคิดรูปแบบการลงทุน ในชื่อ "มั่นคง & ว่องไว" ที่จะช่วยคัดเลือกตัวหุ้นในสถานการณ์การลงทุนที่มีปัจจัยที่ปรับเปลี่ยนตลอดเวลา รวมถึงทำการซื้อและขายหุ้นแทนนักลงทุนเพื่อความสะดวก รวดเร็ว ทำให้ไม่พลาดทุกจังหวะการลงทุน" ด้านนายชาญชัย กงทองลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทรีนีตี้ วัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า"ทรีนีตี้ เป็นบริษัทหลักทรัพย์แห่งแรกที่ได้รับการอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ในการให้บริการระบบการลงทุน "มั่นคง & ว่องไว" โดยมีทีมนักวิเคราะห์มืออาชีพของบริษัทคัดเลือกหุ้นให้ลูกค้าไม่เกิน 5 หลักทรัพย์ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง และผู้แนะนำการลงทุนของบริษัทจะทำการซื้อและขายหุ้นแทนลูกค้าได้ทันที โดยก่อนการซื้อและขายแต่ละครั้ง ระบบจะส่งข้อมูลเพื่อแจ้งเตือนไปยังลูกค้าผ่านช่องทางต่างๆ อาทิเช่น SMS, Line และ email เพื่อให้ลูกค้ายืนยันก่อนการซื้อขายทุกครั้ง" "บริษัทได้ทำการศึกษาถึงพฤติกรรมของนักลงทุนในตลาดหุ้น พบว่ามีนักลงทุนจำนวนมากที่มีความพร้อมในการลงทุน แต่ไม่มีเวลา และไม่มีโอกาสในการติดตามตลาดอย่างใกล้ชิด จึงทำให้นักลงทุนกลุ่มดังกล่าวเสียโอกาสในการลงทุน บริษัทคาดว่าทั้ง "มั่นคง & ว่องไว" จะมาช่วยตอบโจทย์นักลงทุนเหล่านี้ได้ดี โดย"มั่นคง" จะใช้กลยุทธ์คัดกรองหุ้นตามปัจจัยพื้นฐานหุ้นขนาดใหญ่ใน SET100 และในตลาด MAI เน้นลงทุนระยะกลางถึงยาว ขณะที่"ว่องไว" จะใช้กลยุทธ์คัดกรองหุ้นตามสัญญาณทางเทคนิค เน้นลงทุนระยะสั้นถึงระยะกลาง" ทั้งนี้ ผู้สนใจลงทุนกับ "มั่นคง & ว่องไว" เพียงเปิดบัญชีเงินสด (Cash balance) กับบริษัท และมีเงินลงทุนขั้นต่ำที่ 300,000 บาท ก็จะได้รับความสะดวก รวดเร็วเหมือนมีผู้ช่วยด้านการลงทุนตลอดเวลา

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ