ผู้ถือหน่วยกองทุนเปิดบัวหลวงปัจจัย 4 รับปันผลอู้ฟู่ 2.80 บาทต่อหน่วย

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 26, 2018 15:37 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 มี.ค.--บลจ.บัวหลวง ผู้ถือหน่วยกองทุนเปิดบัวหลวงปัจจัย 4 มีเฮ หลังกองทุนบัวหลวงประกาศจ่ายเงินปันผล 2.80 บาทต่อหน่วย ในวันที่ 30 มีนาคม 2561 นายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (กองทุนบัวหลวง) เปิดเผยว่า กองทุนเปิดบัวหลวงปัจจัย 4 (BBASIC) ประกาศตัวเลขจ่ายเงินปันผลอย่างงามให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน เนื่องจากที่ผ่านมา กองทุนมีการสะสมกำไรมาโดยตลอดจากผลประกอบการที่ดี แม้ว่าในปีที่แล้วจะพบกับความผันผวนของภาวะตลาดก็ตาม "การจ่ายเงินปันผลค่อนข้างดีมากๆ ในครั้งนี้ สอดคล้องกับนโยบายของกองทุนเปิดบัวหลวงปัจจัย 4 ที่มีการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง ทั้งเป็นการตอบแทนนักลงทุนที่ให้ความมั่นใจกับการบริหารงานของกองทุนบัวหลวงด้วย" นายพีรพงศ์ กล่าว และเสริมว่า กองทุน BBASIC จะจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน ครั้งที่ 7 ผลการดำเนินงานระยะเวลาระหว่างวันที่ 17 กันยายน 2560 ถึงวันที่ 16 มีนาคม 2561 ในราคาหน่วยละ 2.80 บาท โดยกำหนดวันจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 30 มีนาคม 2561 "สำหรับภาพรวมของปี 2561 นี้ เราเชื่อมั่นว่า กองทุนเปิดบัวหลวงปัจจัย 4 จะมีผลประกอบการที่ดีกว่าปีก่อนที่ประสบกับภาวะผันผวน เพราะแนวโน้มธุรกิจที่อยู่ในหมวดอาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม และยารักษาโรค เป็นความจำเป็นพื้นฐานของผู้บริโภคในสังคม" กองทุนเปิดบัวหลวงปัจจัย 4 (BBASIC) มีการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง โดยจ่าย 2 ครั้งในปี 2560 และปี 2559 ขณะที่ในปี 2558 และปี 2557 จ่ายเงินปันผลปีละ 1 ครั้ง ทั้งนี้ ภาพรวมผลประกอบการของกองทุนถือว่าดีมาโดยตลอด เนื่องจากมีนโยบายการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับปัจจัย 4 ที่มีอัตราการเจริญเติบโตที่ดี โดยเมื่อรวมอัตราปันผลครั้งนี้ BBASIC ปันผลแล้วประมาณ 8.25 บาทต่อหน่วยฯ จากเทรนด์ใหม่ของการใช้ชีวิตที่ดี "กินดี อยู่ดี ดูดี สุขภาพดี" ทำให้คนในสังคมปัจจุบันมีความพิถีพิถันมากยิ่งขึ้นในการบริโภคสินค้า และบริการที่มีคุณภาพ ซึ่งไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปนี้ ทำให้สินค้าหรือบริการในหมวดปัจจัย 4 ไม่ว่าจะเป็น อาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม และยารักษาโรค มีการปรับปรุงคุณภาพในแง่การสร้างมูลค่าเพิ่มไปด้วย (value-added) "ปีที่แล้ว หมวดพลังงาน ธนาคาร หรือโครงสร้างพื้นฐานมีอัตราการเติบโตกว่าหมวดอื่นๆ แต่เรามองว่า ปีนี้เศรษฐกิจไทยจะดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กำลังซื้อของประชาชน ราคาสินค้าเกษตรที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ราคาข้าว หรือราคายาง จะช่วยทำให้การบริโภคโดยรวมในประเทศมีการเติบโต" นายพีรพงศ์ กล่าว "ในส่วนของโรงพยาบาล ปีที่ผ่านมา พบว่า ชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการน้อยลง แต่ในปีนี้น่าจะกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น ตามแนวโน้มของการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ตั้งเป้าหมายว่า ภายในปี 2564 จะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเที่ยวเมืองไทยสูงถึง 40 ล้านคน สำหรับที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมีเนียมที่มีการเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม จะยังคงเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค เช่นเดียวกับทาวน์เฮาส์ที่เจาะกลุ่มเป้าหมายในตลาดระดับรอง (second tier) ก็จะไปได้ดี เพราะบางคนคิดว่า การซื้อทาวน์เฮาส์ในระดับราคาเดียวกันกับคอนโดมีเนียม แม้ว่าจะอยู่ไกลออกไปบ้าง แต่ก็มีพื้นที่ใช้สอยมากกว่า ส่วนเรื่องอาหารและเครื่องนุ่งห่มย่อมเติบโตได้ดีเช่นกัน ดังนั้น เมื่อกำลังซื้อดีขึ้น ผู้บริโภคต้องใช้จ่ายในส่วนนี้เป็นอันดับแรกอยู่แล้ว" กองทุน BBASIC มีนโยบายเน้นการลงทุนในหุ้นของกลุ่มบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับปัจจัย 4 (สุขภาพ) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และกองทุนบัวหลวงเชื่อมั่นว่า ปีนี้จะเป็นปีที่ผลประกอบการในเซ็คเตอร์นี้จะออกมาดี โดยกองทุนจะมุ่งเน้นลงทุนในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มธุรกิจการบริการ ได้แก่ หมวดการแพทย์ และหมวดพาณิชย์ รวมกันเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน กองทุน BBASIC เหมาะสมสำหรับผู้ลงทุนที่มีความสนใจลงทุนในกิจการที่เกี่ยวข้องกับปัจจัย 4 ซึ่งได้รับประโยชน์จากเทรนด์ใหม่ๆ ตามการเปลี่ยนแปลงของโลก ต้องการเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนสม่ำเสมอในรูปเงินปันผลระหว่างการลงทุนในระยะยาว โดยไม่หวั่นไหวกับความผันผวนในระยะสั้น ผู้สนใจสามารถติดต่อลงทุนกองทุน BBASIC ได้ที่ กองทุนบัวหลวง โทร. 0 2674 6488 กด 8 หรือตัวแทนขายหน่วยลงทุน ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ตัวแทนขายของกรุงเทพประกันชีวิต บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง บมจ.หลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน บมจ.หลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) และบมจ.หลักทรัพย์ ภัทร บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส หรือติดตามข้อมูลลงทุนได้ที่ www.bblam.co.th และ BF Application ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ