กรุงเทพฯ--4 เม.ย.--เวเบอร์ แชนวิค
โดยคาเรน เรดดิงตัน ประธาน บริษัท เฟดเอ็กซ์ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ประชากรผู้สูงอายุที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นหนึ่งในความท้าทายที่เด่นชัดที่สุด และยังเป็นโอกาสสำหรับอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพในเอเชีย มีการคาดการณ์ว่าประชากรที่มีอายุมากกว่า 50 ปี ที่อาศัยอยู่ในภูมิภาคนี้จะมีจำนวนมากกว่าหนึ่งพันล้านคนภายในปี 2568 การยกระดับการเข้าถึงบริการสุขภาพจะเป็นกุญแจสำคัญต่อการรับมือกับความต้องการการดูแลรักษาเป็นพิเศษที่เพิ่มสูงขึ้นและช่วยเชื่อมต่อองค์ประกอบของการดูแลสุขภาพที่กระจัดกระจายให้มารวมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
ความต้องการการขนส่งในอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพในภูมิภาคนี้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อุตสาหกรรมการขนส่งด้วยความเย็นหรือห่วงโซ่ความเย็น (cold chain logistics) สำหรับสินค้าเภสัชกรรมในเอเชียแปซิกได้รับการคาดหมายว่าจะเติบโตเฉลี่ย 7 เปอร์เซ็นต์ต่อปีจนถึงปี 2564 ขณะที่การขนส่งการวิจัยเชิงทดลองทางคลินิก (clinical trial) คาดว่าจะขยายตัว 2 เปอร์เซ็นต์ต่อปีจนถึงปี 2564 นั่นหมายความว่าบริษัทใดก็ตามที่สามารถมอบโซลูชั่นการขนส่งที่ไว้วางใจได้และน่าเชื่อถือจะก้าวเป็นผู้นำในการแข่งขัน
หากมองย้อนกลับไปแค่หนึ่งทศวรรษที่แล้ว อาจเป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการถึงสิ่งที่เกิดขึ้นได้ในปัจจุบันด้วยความก้าวหน้าของการค้าโลก การดูแลสุขภาพและเทคโนโลยี อาทิ ผู้ป่วยโรคหัวใจในกรุงโตเกียวได้รับ
เครื่องกำหนดจังหวะการเต้นของหัวใจจากอีกซีกโลกได้ภายในชั่วข้ามคืน หรือการขนส่งตัวอย่างทางชีวภาพที่มีความอ่อนไหวเพื่อการศึกษาทางการแพทย์ระหว่างญี่ปุ่น เกาหลีและจีนไปสู่สหรัฐอเมริกาหรือสิงคโปร์
ปัจจุบันเทคโนโลยีที่มีความสำคัญล่าสุดที่ได้พลิกโฉมอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพทั่วโลกคืออินเตอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ หรือไอโอที (Internet of Things หรือ IoT) เราสามารถใช้เครือข่ายเซ็นเซอร์ที่เชื่อมต่อถึงกันเพื่อรวบรวม มองเห็นและส่งต่อข้อมูลซึ่งช่วยให้มีการติดตามและตรวจสอบข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
การใช้ข้อมูลนี้ทำให้บริษัทเภสัชกรรมสามารถประมวลข้อมูลต่างๆ อย่างตำแหน่งที่ตั้ง การสัมผัสแสง ความชื้น ความกดอากาศ และแรงสะเทือน บริษัทเภสัชกรรมสามารถสร้างความมั่นใจในความมั่นคงและความปลอดภัยของอุณหภูมิ ซึ่งเป็นหนึ่งในความท้าทายที่สำคัญที่สุดสำหรับอุตสาหกรรมยุคใหม่ คำถามคือทำไมข้อมูลนี้ถึงมีความสำคัญ มีการประเมินว่าผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์มีความไวต่ออุณหภูมิ และคาดว่าชีวเภสัชภัณฑ์ทั่วโลก 8 ใน 10 อันดับแรกจะต้องการการขนส่งในห่วงโซ่ความเย็นภายในปี 2563
เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพ เทคโนโลยีห่วงโซ่อุปทานมีพัฒนาการตามความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพ อาทิ ความสามารถในการให้บริการโดยละเอียดและแม่นยำในการเฝ้าระวังช่วงอุณหภูมิที่มีความเฉพาะเจาะจงสูง ตั้งแต่อุณหภูมิห้อง การแช่เย็น การแช่แข็ง และการแช่เยือกแข็งสำหรับบรรจุภัณฑ์สินค้าเพื่อการดูแลสุขภาพทุกประเภท
ความสามารถในการตรวจสอบด้วยการมองเห็นและการควบคุมมีความสำคัญในห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ แต่สำหรับการดูแลสุขภาพนั้นถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง อุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพมีการขนส่งสินค้าที่มีความอ่อนไหวและยากที่จะทดแทนได้ ตั้งแต่สินค้าที่ผลิตด้วยวิธีทางชีวภาพไปจนถึงสินค้าเภสัชกรรม ในบางกรณีอาจหมายถึงความเป็นความตาย การวางแผนสำรองจึงมีความสำคัญเทียบเท่ากับการมีเทคโนโลยีที่เหมาะสมสำหรับการเฝ้าระวังและปกป้องการขนส่งสินค้าที่เกี่ยวกับชีวิตมนุษย์ กระบวนการขนส่งทั้งทางอากาศและทางบกควรอยู่ในขอบเขตที่สามารถระบุและแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้
ลองจินตนาการว่าถ้ายารักษาโรคที่ถูกสั่งผลิตขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับดีเอ็นเอของผู้ป่วยโรคมะเร็งคนหนึ่งเกิดความเสียหายหรือขโมย แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสั่งยาทดแทนจากคลังสินค้าและขนส่งภายในข้ามคืน ความสามารถในการตรวจสอบด้วยการมองเห็นสินค้าเพื่อการดูแลสุขภาพจึงมีความจำเป็นเนื่องจากมียารักษาโรคที่ถูกผลิตขึ้นสำหรับผู้ป่วยเฉพาะรายมากขึ้นและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
ดังนั้น การเชื่อมโยงทุกองค์ประกอบในการขนส่งสินค้าเพื่อการดูแลสุขภาพจึงมีความสำคัญ เทคโนโลยีที่มีความแม่นยำสูงยิ่งที่เกิดจากการใช้อุปกรณ์เซ็นเซอร์ขนาดเล็ก อาทิ SenseAware(R) ของเฟดเอ็กซ์คือการ
บุกเบิกแนวทางใหม่ในอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพที่มีพัฒนาการจากการติดตามอุณหภูมิแบบย้อนหลังและสามารถติดตามได้ตลอดเวลา
เซ็นเซอร์ไร้สายเช่นนี้ช่วยให้สามารถมองเห็นและตรวจสอบอุณหภูมิของผลิตภัณฑ์ที่ใดก็ได้ในโลก ทำให้ตลอดการขนส่งสินค้าเพื่อการดูแลสุขภาพที่มีความสำคัญนั้นเป็นไปอย่างชาญฉลาดยิ่งขึ้น เชื่อมต่อถึงกันมากกว่าเดิม เข้าถึงได้ และสอดคล้องกับข้อกำหนด นี่เป็นเพียงหนึ่งในแนวทางที่ระบบดิจิทัลกำลังพลิกโฉมธุรกิจการดูแลสุขภาพ และสร้างแนวทางใหม่ของการขนส่งสินค้าในอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญนี้
เกี่ยวกับเฟดเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส
เฟดเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการขนส่งแบบด่วนรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยให้บริการรับส่งพัสดุที่รวดเร็วและเชื่อถือได้ สู่ปลายทางกว่า 220 ประเทศทั่วโลก เฟดเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส มีเครือข่ายการขนส่งทั้งภาคพื้นดินและทางอากาศทั่วโลก เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจัดส่งพัสดุด่วนในเวลาจำกัด พร้อมทั้งรับประกันการคืนเงินตามเงื่อนไขที่กำหนด
เกี่ยวกับ เฟดเอ็กซ์ คอร์ปอเรชั่น
เฟดเอ็กซ์ คอร์ปอเรชั่น (มีชื่อเรียกในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กว่า FDX) เป็นผู้ให้บริการขนส่ง อี-คอมเมิร์ซ และบริการด้านธุรกิจแก่ลูกค้าและธุรกิจต่างๆทั่วโลก บริษัทของเราให้บริการด้านธุรกิจครบวงจร โดยมี
บริษัทในเครือที่ทำงานแข่งขันกันเป็นกลุ่มและบริหารจัดการด้วยความร่วมมือภายใต้แบรนด์เฟดเอ็กซ์ที่ได้รับความไว้วางใจ โดยมีรายได้ปีละ 62,000 ล้านเหรียญสหรัฐ บริษัทของเรายังได้รับยกย่องให้เป็นหนึ่งในผู้จ้างงานที่ได้รับความไว้วางใจและเป็นที่ชื่นชอบสูงสุดของโลก เฟดเอ็กซ์สร้างแรงบันดาลใจให้พนักงานมากกว่า 400,000 รายในการเป็นผู้ให้บริการขนส่งที่ยึดถือและปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัย หลักจริยธรรม และความเชี่ยวชาญระดับมืออาชีพ รวมถึงความต้องการของลูกค้าและชุมชน "อย่างแน่วแน่และถึงที่สุด" ท่านสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ news.fedex.com