ปภ. เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

ข่าวทั่วไป Wednesday October 3, 2007 16:56 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 ต.ค.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือนประชาชนภาคตะวันออก ภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ให้ระมัดระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ เนื่องจากอิทธิพลของพายุเลกีมา พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง และเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ให้พร้อมช่วยเหลือประชาชนหากเกิดเหตุอุทกภัย
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า เดือนตุลาคมเป็นช่วงรอยต่อของฤดูกาลจากฤดูฝนเข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งช่วงต้นเดือนตุลาคมยังคงมีปริมาณฝนตกชุกและหนักในบางพื้นที่ ประกอบกับอิทธิพลของ "พายุเลกีมา" ทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย มีกำลังแรง ทำให้เกิดฝนตกชุกหนาแน่น กับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณด้านรับลมมรสุมของภาคตะวันออกและภาคใต้ อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้ในระยะนี้ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณจังหวัดจันทบุรี ตราด สุราษฏร์ธานี ระนอง พังงา ตรัง และสตูล ระมัดระวังอันตรายจากภัยดังกล่าวในช่วงวันที่ 2- 4 ต.ค.นี้ นอกจากนี้พายุดังกล่าวยังส่งผลกระทบให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือทางตอนล่างและด้านตะวันออกบริเวณจังหวัดนครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานีมีฝนตกเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น ปภ.ได้สั่งการให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 3 ปราจีนบุรี เขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ เขต 11 สุราษฎร์ธานี และเขต 12 สงขลา จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเตรียมเครื่องมือ อุปกรณ์ให้พร้อมใช้งาน เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินทันที และขอฝากเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยที่ราบเชิงเขา ที่ราบลุ่มริมแม่น้ำ ให้ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก เพราะอาจเกิดน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และ ดินโคลนถล่ม โดยติดตามรับฟังพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด หากมีประกาศแจ้งเตือนภัยให้รีบขนย้ายทรัพย์สินไว้บนที่สูงและอพยพไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยทันที โดยเฉพาะผู้ที่เดินเรือควรงดออกจากฝั่งในช่วงที่มีประกาศ แจ้งเตือน เนื่องจากคลื่นพายุลมแรงอาจทำให้เรือล่มได้ สุดท้ายนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากภัยพิบัติ สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่สายด่วนสาธารณภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานและให้ความช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ