โครงการ ลดอ้วน ลดโรค ครั้งที่ 1 สำเร็จด้วยดี

ข่าวทั่วไป Friday October 12, 2007 16:48 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 ต.ค.--แอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส
ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ชมรมโรคอ้วนแห่งประเทศไทยและบริษัท แอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส จำกัด โดย 10 20 30 Reduce it for Life ขอร่วมรณรงค์ให้คนไทยมีสุขภาพดี เนื่องจากได้เล็งเห็นถึงปัญหาโรคอ้วนว่าเป็นต้นเหตุของการเกิดโรคร้ายต่างๆ อาทิ โรคเบาหวาน โรคข้อเข่าเสื่อม โรคไขมันในเส้นเลือด โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง และโรคเกี่ยวกับหลอดเลือด ฯลฯ ทำให้คุณภาพชีวิตของคนไทยลดลง จึงได้จัด โครงการ “ลดอ้วน ลดโรค” ครั้งที่ 1 โดยคัดเลือก 60 ท่าน เพื่อเข้าร่วมโปรแกรมลดน้ำหนักอย่างถูกต้องและปลอดภัย ภายใต้การดูแลของแพทย์จากโรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลราชวิถี ตลอดระยะ 6 เดือน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
“ปัญหาโรคอ้วนนอกจากจะทำให้เราขาดความคล่องตัว เสียสุขภาพและรูปร่างไม่ดีแล้ว โรคอ้วนจึงนับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการสะสมโรคร้ายและเรื้อรังต่างๆ ที่พวกเราอาจมองข้ามไป ซึ่งการแก้ไขปัญหาโรคอ้วนนั้นเราใช้อาหารเป็นตัวนำ การออกกำลังกายเป็นตัวเสริม และที่สำคัญหากต้องใช้ยาควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ครับ” ศ.นพ.อภิชาติ วิชญาณรัตน์ ประธานชมรมโรคอ้วนแห่งประเทศไทยกล่าว
ลดอ้วน ลดโรคได้อย่างไร ?
จากการวิจัยพบว่า การลดน้ำหนักส่วนเกินเพียง 5 - 10 % ของน้ำหนักตัว เราสามารถลดอัตราเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากโรคต่างๆ ได้ อาทิ
โรคเบาหวานลดลง 7 %
โรคมะเร็งลดลง 37 %
โรคหัวใจและหลอดเลือดลดลง 9 %
จะเห็นได้ว่าการลดน้ำหนักส่วนเกินหรือลดอ้วนจึงมีความจำเป็นที่ต้องปฏิบัติอย่างเร่งด่วน จริงจังและเคร่งครัด มีวินัย เพื่อตัวเราเองและคนที่เรารัก
อย่างไรจึงจะเรียกว่าอ้วน
การพิจารณาว่าอย่างไรจึงจะเรียกว่าอ้วนนั้น สามารถดูได้จากน้ำหนักตัวที่มากกว่าควรจะเป็น นั่นคือผู้ที่มีปริมาณไขมันในร่างกายสูงกว่าเกณฑ์ปกติ ซึ่งตามหลักสากลกำหนดไว้ว่าผู้ชายไม่ควรมีปริมาณไขมันในตัวเกินกว่า 12-15 % ของน้ำหนักตัว ส่วนผู้หญิงไม่ควรมีปริมาณไขมันในตัวเกินกว่า 18-20 % ของน้ำหนักตัว
วิธีการวัดค่าในปัจจุบันเรียกว่า “ดัชนีมวลของร่างกาย” (Body Mass Index) เรียกย่อว่า BMI โดยหาค่าได้จาก
BMI = น้ำหนัก (Kg.) / ส่วนสูง (M)?
ยกตัวอย่างเช่น วรรณา สูง 160 ซ.ม. หนัก 80 Kg.
BMI = 80 / (1.6)? 31.25 Kg../ M?
จากค่าที่ได้นำมาเทียบจากมาตรฐานชาวเอเชียควรมี BMI อยู่ระหว่าง 18.5 - 22.9 Kg../ M? ถ้าสูงกว่าถือว่าเริ่มอ้วนแล้ว แต่ถ้าต่ำกว่านี้ก็จะถือว่าผอมไป
ศ.นพ.สุรัตน์ โคมินทร์ ประธานฝ่ายวิชาการชมรมโรคอ้วนแห่งประเทศไทย กล่าวถึง การลดน้ำหนักอย่างไรให้ได้ผลถาวร “การที่จะลดน้ำหนักให้ได้ผลนั้น เราจะต้องมีความตั้งใจจริงคือมุ่งมั่นไม่กินตามใจตัวเอง และตั้งใจฟังพร้อมปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์หรือนักโภชนาการที่คอยให้คำปรึกษาในการลดน้ำหนัก ที่สำคัญคือต้องตั้งใจทำเพราะหากเราฟังแต่ไม่ปฏิบัติตามก็ไม่มีประโยชน์ และต้องทำตลอดไปไม่ใช่ว่าพอลดได้แล้วก็เลิกทำกลับไปปฏิบัติตัวแบบเดิมๆ น้ำหนักตัวก็จะเพิ่มขึ้นมาอีกโรคร้ายต่างๆ ก็ตามมาด้วยเช่นกัน”
“ผลของการลดน้ำหนักของผู้เข้าร่วมโครงการ ลดอ้วน ลดโรค ครั้งที่ 1 จากโรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลราชวิถี และโรงพยาบาลรามาธิบดี เป็นที่น่าพอใจถือได้ว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง ผมถือว่าโครงการนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการร่วมรณรงค์ให้คนไทยหันมาใส่ใจเรื่องน้ำหนักตัวกันมากขึ้น ถึงแม้ว่าจะได้รับการดูแลในโรงพยาบาลที่แตกต่างกัน ทางโครงการฯ ก็จัดให้ตัวแทนมาพบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ตลอดจนแสดงความคิดเห็นในการลดน้ำหนักของตนเองให้เพื่อนร่วมโครงการได้ฟัง เพราะการลดน้ำหนักเป็นเรื่องของส่วนบุคคลไม่มีสูตรสำเร็จ แต่ละคนก็มีพื้นฐานและปัญหาที่แตกต่างกัน” นพ.ชัยชาญ ดีโรจนวงศ์ เลขาธิการชมรมโรคอ้วนแห่งประเทศไทย กล่าวปิดท้ายก่อนทำการปิดโครงการ ลดอ้วน ลดโรค ครั้งที่ 1 ลงท่ามกลางบรรยากาศชื่นมื่นของตัวแทนทุกท่าน
เนื่องจากโครงการ ลดอ้วน ลดโรค ครั้งที่ 1 มีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก ประกอบกับมีผู้ติดต่อสอบถามเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทางโครงการฯ ได้มีการประชุมถึงสถานการณ์โรคอ้วนที่กำลังคุกคามและเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคนไทย และเพื่อให้เป็นโครงการรณรงค์เรื่องภาวะโรคอ้วนอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชนมายุครบ 80 พรรษา ในปี 2550 จึงเปิดรับสมัครผู้ที่มีปัญหาเรื่องน้ำหนักเกิน มาร่วมทำกิจกรรม โครงการ “ลดอ้วน ลดโรค” ครั้งที่ 2 วันอาทิตย์ที่ 18 พฤศจิกายน 2550 ณ. ห้องบอลรูม 1 โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เวลา 11.00 น. -16.00 น. ซึ่งผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถมาสมัครได้เพียงวันเดียวเท่านั้น! ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกทั้ง 80 คน จะได้รับการลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี ภายใต้การดูแลของแพทย์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตลอดระยะเวลา 6 เดือน ที่เข้าร่วมโครงการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-655-0405

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ