กรุงเทพฯ--11 พ.ค.--บ้านพีอาร์
"หลักทรัพย์บัวหลวง" เผยหุ้นไทยผันผวนสูง เดือนเม.ย.พบนักลงทุนแห่งเก็งกำไร DW วอลุ่มพุ่ง 4.3 พันล้านต่อวัน ทำสถิติสูงสุดใหม่ หนุนมูลค่าซื้อขาย DW ทั้งระบบพุ่งในรอบ 12 เดือน พร้อมแนะเทคนิคมือใหม่เก็งกำไร DW ช่วงตลาดผันผวน เลือกเทรด DW ค่าเสื่อมเวลาต่ำ โอกาสได้ผลตอบแทนตามเป้า "บรรณรงค์" ปลื้ม DW01 ยังกอดมาร์เก็ตแชร์อันดับหนึ่งเหนียวแน่นอยู่ที่ 41%
นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ออก DW ที่มีปริมาณการซื้อขายในระบบสุงสุดเป็นอันดับ 1 เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2561 เป็นต้นมา โดยเฉพาะในเดือนเมษายนที่ผ่านมาซึ่งผันผวนปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ทำให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivative Warrants : DW) มากขึ้น จนมูลค่าการซื้อขาย DW เฉลี่ยต่อวันสูงสุดในประวัติการณ์ที่ 4,340.7 ล้านบาท คิดเป็น 7.2% ของมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์ทั้งตลาดเฉลี่ยอยู่ที่ 60,541 ล้านบาทต่อวัน ซึ่งสูงสุดในรอบ 12 เดือน โดยเพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 6% และเดือนกุมภาพันธ์อยู่ที่ 4.9% โดยนักลงทุนแห่เก็งกำไร Put DW มากขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 สอดคล้องกับตลาดหุ้นที่มีความผันผวน
สำหรับหุ้นอ้างอิงในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกอยู่ในกลุ่มดัชนีหลักทรัพย์ 49.5% กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค 16.3% และกลุ่มธนาคาร 8.9% โดย DW ที่ได้รับความนิยมสูงสุดยังคงเป็น DW ที่อ้างอิงกับดัชนี SET50 Index ซึ่งมีสัดส่วนการซื้อขายสูง 49.5% ของการซื้อขาย DW ทั้งหมด โดยมีการซื้อขาย DW ประเภท Put ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ดัชนี SET50 Index ปรับตัวลดลงหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,180 จุด ขณะเดียวกันมีแรงเก็งกำไร DW บนหุ้นรายตัวที่มีความผันผวนสูง เช่น KTC ซึ่งมีสัดส่วนการซื้อขายสูงเป็นอันดับสองอยู่ที่ 8.0% และ PTT เป็นอันดับสาม อยู่ที่ 6.2% โดยทั้งสองตัวมีแรงเก็งกำไรมากใน DW ประเภท Call จากปัจจัยบวกหนุนราคาปรับตัวขึ้น
ด้านส่วนแบ่งการตลาด DW ของหลักทรัพย์บัวหลวงยังครองอันดับหนึ่ง ในเดือน เมษายน 2561 อยู่ที่ 41.3% เมื่อคิดจากมูลค่าการซื้อขายสะสม ซึ่งตอกย้ำแชมป์ของอุตสาหกรรมได้อย่างเหนียวแน่น ทั้งนี้หากพิจารณาจากยอดการถือครอง DW โดยนักลงทุน หลักทรัพย์บัวหลวงเป็นผู้ออกที่มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 3 อยู่ที่ 18.9% และยังคงเป็นผู้ออกที่มีจำนวน DW สูงสุดในระบบคิดเป็น 18.96% ของจำนวน DW ที่มีการซื้อขายทั้งหมดและจำนวนหลักทรัพย์อ้างอิงให้เลือกคิดเป็น 79.49% ของจำนวนหลักทรัพย์อ้างอิงที่มีการซื้อขายทั้งหมดในตลาดหลักทรัพย์
ตลาดหุ้นที่มีความผันผวนสูงอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นโอกาสของนักลงทุนในการเข้าเก็งกำไรใน DW เนื่องจากราคาหุ้นหลายๆ ตัวเคลื่อนไหวในกรอบราคาที่กว้างขึ้นหรือมีทิศทางที่ชัดเจนขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนจำนวนมากสนใจเข้ามาเริ่มเทรด DW เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง"นายบรรณรงค์ กล่าว
อย่างไรก็ตามหลักทรัพย์บัวหลวงในฐานะผู้ออก DW ที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากนักลงทุน แนะนำนักลงทุนมือใหม่เริ่มเทรด DW จะต้องศึกษาลักษณะความเสี่ยงและผลตอบแทนของ DW ให้เข้าใจอย่างชัดเจนก่อน รวมถึงวางแผนกำหนดจุดซื้อและจุดขายจากตารางราคาทุกครั้ง นอกจากนี้นักลงทุนอาจเริ่มต้นลงทุน DW รุ่นที่ค่าเสื่อมเวลาต่ำก่อน เพราะจะทำให้นักลงทุนถือครอง DW ได้โดยไม่เสื่อมมูลค่าจากเวลามากนัก โดยหากคาดการณ์ทิศทางหุ้นแม่ผิดทางจะเสียหายน้อยกว่า เนื่องจากปกติ DW รุ่นที่มีค่าเสื่อมเวลาต่ำจะมีอัตราทดที่ไม่สูงมาก ดังนั้นในตลาดที่มีความผันผวนแบบนี้ การเลือกเทรด DW รุ่นที่มีค่าเสื่อมเวลาและอัตราทดที่ไม่สูงมากก็อาจสามารถให้ผลตอบแทนที่ตามเป้าหมายได้
สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่เริ่มเข้ามาลงทุน DW สามารถสอบถาม "น้องบัวแชทบอท" ผ่านเมนู Messenger ของ Facebook แฟนเพจ "DW01" ได้ตลอด 24 ชม. ว่า DW01 บนหุ้นรายตัวรุ่นใดบ้างที่มีค่าเสื่อมเวลาต่ำที่สุด ณ ขณะนั้น เพียงพิมพ์คำว่า "Time Decay stock DW" นักลงทุนจะได้รับข้อมูล DW01 บนหุ้นรายตัวรุ่นที่มีค่าเสื่อมเวลาต่ำสุด 5 อันดับแรกแบบเรียลไทม์