กรุงเทพฯ--11 ต.ค.--สหมงคลฟิล์ม
หลายคนคงคุ้นชื่อ “อธิป นานา” ในฐานะอื่น ๆ มากกว่าการเป็นนักแสดง แต่นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของเขาที่ได้ก้าวเข้ามาสู่ในโลกภาพยนตร์กับการเป็น 1 ใน 8 นักแสดงของภาพยนตร์แอ็คชั่น-แฟนตาซีเรื่อง “โอปปาติก-เกิดอมตะ” การรับบท “รามิล” ของเขามีความน่าสนใจอย่างไร ไปฟังเขาเล่าให้ฟังกันดีกว่า
Q: ในเรื่องนี้รับบทเป็นใคร และมีคาแร็คเตอร์อย่างไร?
ในเรื่องนี้บอลรับบทเป็นรามิลครับ ซึ่งคาแร็คเตอร์จะเป็นหนุ่มเจ้าสำอางเหมือนใช้ชีวิตไปวัน ๆ แต่จริง ๆ แล้วมันเหมือนกับว่า ในการที่เป็นโอปปาติกชีวิตจะอยู่ไปเรื่อย ๆ ใช้เวลาเรื่อยเปื่อย เราก็เลยสนุกกับมันให้เต็มที่ดีกว่า ก็ต้องเตรียมตัวเยอะมากครับ เพราะว่าหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของบอล ก็มีการทั้งเรียนการแสดง เรียนคิวบู๊ ก็คือต้องเรียนมากกว่าคนอื่น และก็ค่อนข้างลำบากตอนแต่งเอฟเฟ็คต์ แต่ละครั้งก็ 3 ชั่วโมงครับ แต่ผมก็ชอบนะเพราะว่ามันได้รสชาติดี
Q: แล้วคาแร็คเตอร์ในหนังเรื่องนี้มีความเหมือนหรือแตกต่างจากตัวเองอย่างไร?
ก็จริง ๆ แล้วนิสัยก็คล้าย ๆ บอลนะครับ เพราะคนอาจจะมองบอลเป็นคนสนุกสนาน เจ้าสำอางนิด ๆ นะครับแล้วก็อาจจะขี้เล่น แต่จริง ๆ แล้วตัวจริงก็คือเป็นคนที่มีอารมณ์มากมาย อาจจะเก็บไว้ข้างใน คือคล้าย ๆ กันมากครับ
Q: การดำเนินเรื่องของรามิล?
ก็คือรามิลจะเป็นเพื่อนสนิทกับอรุษซึ่งก็คือบทที่เรเล่น สองคนนี้จะเชื่อใจกันแค่สองคน ดังนั้นในเรื่องนี้ตัวผมจะอยู่กับเรเป็นส่วนใหญ่ครับ ตอนแรกเนี่ยประมาณว่าเป็นหนุ่มนักซิ่ง เจ้าสำอาง รักเพื่อนมาก ๆ แล้วก็พอเรื่องเริ่มวุ่นวายในหนังเนี่ย มันจะเห็นเป็นฉากดราม่าระหว่างเพื่อน บทแอ็คชั่น การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ความรักระหว่างเพื่อน และรวมถึงความรักที่ผมมีต่อนางเอกด้วยครับ
Q: มีการเตรียมตัวกับหนังเรื่องแรกอย่างไร?
ก็เตรียมตัวเยอะที่สุดเท่าที่ทำได้ ก็คืออย่างที่บอกว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังเรื่องแรกของบอลเนี่ยก็มีการทั้งเรียนการแสดง เรียนคิวบู๊ ก็คือเรียนมากกว่าคนอื่น จากหนังเรื่องนี้ก็อาจจะมีเรื่องต่อ ๆ ไปครับเพราะชอบ จริง ๆ แล้วมีมุมหนึ่งในการแสดงเรื่องนี้ที่บอลชอบ คิดว่าดึงออกมาใช้ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขอรอให้โอปปาติกเข้าโรงแล้วดูว่าประชาชนส่วนใหญ่จะว่าไงครับ
Q: ในเรื่องนี้มีฉากแอ็คชั่นเยอะมั้ย?
แอ็คชั่นมีเยอะ เยอะพอสมควรเพราะว่าอย่างตัวบอลเองจะมีอาวุธหรือพลังที่ใช้เนี่ยจะเป็นเจตภูติ ชาคริตจะมีกริช เตชิตจะมีปืน แต่ของผมจะมีเจตภูติเหมือนจะเป็นปิศาจในตัวที่เราใช้ได้ ดังนั้นก็คือตัวเจตภูติเนี่ยจะมีฉากแอ็คชั่นเยอะ คือตัวรามิลเองแทบจะไม่ได้สู้เลยว่างั้นเถอะ สมมติว่ามีเรื่องอะไรก็จะส่งตัวเจตภูติออกไปต่อสู้ครับ
Q: พูดถึง Effect ในเรื่อง?
ก็ตอนที่เป็นเจตภูตินะครับที่ผมต้องแต่งเอฟเฟ็คต์ เอาเป็นว่าแค่แต่งเอฟเฟ็คต์ก็ 3 ชั่วโมง แล้วครับกว่าจะเสร็จ ก็คิดดู ถ้า 20 ครั้งก็ 60 ชั่วโมงแล้วครับ
ก็นอนแต่ง 3 ชั่วโมงครับ ค่อย ๆ แต่งตามเนื้อตามตัว แล้วต้องพ่นสี Air Brush แล้วทาสีที่หน้า ใส่คอนเทคเลนส์ขาว ใส่เขี้ยว ใส่เล็บ ก็น่ากลัวมากครับ มันเหนื่อยแต่ก็สนุกครับ บอลเชื่อว่าพอออกมาแล้ว ต้องคุ้มค่ากับที่เสียแรงไปแน่นอนครับ
Q: ในเรื่องมีฉากปะทะอารมณ์กับใครมากที่สุด?
คงจะเป็นกับเรนะครับ เพราะว่าเหมือนกับว่าคือเรจะมีผมคนเดียวที่เค้าฟัง แล้วผมก็จะฟังแต่เรแค่คนเดียว ดังนั้นจะมีหลายซีนที่มันจะโชว์ความละเอียดของเพื่อน แต่ว่าที่หนังเรื่องนี้ต้องการจะแสดงออกเป็นพิเศษ คือถ้าดูคาแร็คเตอร์สองคนนี้จะเห็นสองคนนี้เนี่ยทั้งเรื่องอาจจะมีกันแค่สองคนนี้ที่เป็นเหมือนรักใคร่กันจริง ๆ ที่ตายแทนกันได้ เป็นจุดที่สำคัญที่สุดคือยังไงก็ตามขอให้เร HAPPY ผมก็ยอมทำ ถ้ายังไงผม HAPPY เรก็จะทำให้ผม อะไรประมาณนี้ครับ
Q: มาแสดงภาพยนตร์เป็นครั้งแรกเป็นอย่างไร?
ชอบครับ ตื่นเต้น แล้วก็ไม่ใช่ว่าลุ้นตัวเองน่ะ แต่หมายความว่าการที่เราเป็นนักแสดงหน้าใหม่เนี่ยเราก็จะมีความตื่นเต้น ความไม่แน่ใจ เราจะเอาความที่เราพยายามดันตัวเอง เป็นความท้าทายให้ทำให้ได้ครับ
คือจริง ๆ แล้วผมค่อนข้างโชคดีนะครับ เพราะว่าตัว ผกก. พี่อั๋นนี่ผมก็รู้จักกันมานานพอสมควรนะครับ แล้วก็ทางนักแสดงหนุ่มคนอื่น ๆ ก็รู้จักกันอยู่แล้ว การเล่นเรื่องแรก องค์ประกอบมันก็ช่วยเยอะ มันก็จะไม่เกร็งมาก เพราะมีทั้งเพื่อนฝูงและผู้กำกับที่เป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว ดังนั้นผมว่าก็แฮปปี้ดีนะ
Q: ฉากที่ยากที่สุด?
ถ้าเป็นฉากแอ็คชั่น มันคงเป็นเรื่องของการซ้อม ก็จะไม่ยากเท่าไหร่ แต่อย่างบอลเป็นนักแสดงหน้าใหม่คงเป็นซีนดราม่ามากกว่า แสดงอารมณ์ระหว่างเพื่อนระหว่างคนอื่นเนี่ย อารมณ์ที่กลัวมากที่สุดก็จะเป็นอารมณ์ที่แสดงความรู้สึก เพราะว่าเราเป็นนักแสดงหน้าใหม่ ว่าจะแสดงอารมณ์ถูกต้องมั้ย ก็จะคอยระวังไว้ และเอาส่วนนี้เป็นส่วนที่ท้าทายตัวเองครับ
Q: ฉากที่ประทับใจมากที่สุด?
คงเป็นฉากเปิดตัวฉากแรก เพราะว่าจะเป็นฉากแอ็คชั่นใหญ่ของเจตภูติเลยครับ จะมีทหารกับพี่อ๊อฟจะมาพยายามจับผมมากมาย คือทหารจะเยอะมาก หน่วยสวาทจะเยอะมาก ผมจะปล่อยเจตภูติของผมให้บ้าคลั่งเต็มที่ว่างั้นเถอะ ก็สนุกดีครับ
Q: การทำงานมีอุปสรรคอะไรบ้างมั้ย?
ในการทำงานทุกงานก็ต้องมีอุปสรรคบ้างอยู่แล้วครับ แต่ว่าโดยรวมมันอยู่ที่ว่าจะแก้ปัญหายังไง โดยรวมผมว่าก็ไม่มีปัญหาอะไรที่เป็นอุปสรรคมากมายก่ายกองเกินไปนะครับ
Q: รู้สึกอย่างไรกับการได้มาร่วมงานกับผู้กำกับและทีมงานนี้?
ผมรู้สึกว่าผมโชคดีนะ เพราะอย่างผมเนี่ยเป็นนักแสดงหน้าใหม่ แล้วได้มาแสดงกับนักแสดงที่มีคุณภาพซึ่งมีผลงานมามากมาย รวมถึงพี่อั๋นที่เป็นผู้กำกับ ทุกคนก็ร่วมงานกันเหมือนเป็นเพื่อนมากกว่า เพราะรู้จักกันมาหลายปีแล้ว การทำงานก็เลยค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นผมว่าผมโชคดีมากเลยที่มีบรรยากาศรอบกองถ่าย หรือการถ่ายทำแบบนี้ มันช่วยผมได้มากทีเดียว
Q: ความน่าสนใจของเรื่องนี้?
คงเป็นหลายอย่างมากนะครับ คือหนึ่งเนี่ยเหมือนจะเป็นแอ็คชั่นแต่ก็ไม่ใช่แอ็คชั่นบู๊แหลกอย่างเดียว แต่มันจะมีแฟนตาซีเข้ามาด้วยจะเป็นคล้าย ๆ ผีสาง แล้วก็จะแฝงคำสอนปรัชญา-พุทธศาสนาครับ และอีกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจคือ แต่ละคนจะมีคาแร็คเตอร์ มีบุคลิกของแต่ละคน สามารถดึงออกมาเป็นความหลากหลายของหนังเรื่องนี้ ผมยืนยันว่าเป็นหนังที่น่าดู ตื่นเต้น มันมีทั้งแอ็คชั่น มีทั้งความรัก มีทั้ง Special Effect นะครับ แล้วแถมนักแสดงยังเยอะแยะเต็มไปหมด ชอบใครก็มาติดตามคนนั้นได้ครับ ผมก็ว่า น่าจะพอแล้วสำหรับจะไปดูหนังเรื่องนี้ครับ