SUN พัฒนานวัตกรรมการเกษตร 4.0 ยกระดับมาตรฐานส่งออกผลิตภัณฑ์ ผลักดันวัตถุดิบไทยสู่ครัวโลก

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 8, 2018 15:30 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 มิ.ย.--ธามดี พลัส บมจ.ซันสวีท เพิ่มนวัตกรรมการเกษตร 4.0 เพื่อพัฒนาการเพาะปลูกสินค้าเกษตรและเพิ่มประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์อาหาร พร้อมร่วมมือภาครัฐและเอกชน ตอบรับแนวทางการผลักดันยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมอาหารไทย 4.0 ของกระทรวงอุตสาหกรรม และ โครงการผลักดันครัวไทยสู่ครัวโลกของกระทรวงพาณิชย์ ดร.องอาจ กิตติคุณชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) หรือ SUN ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ข้าวโพดหวาน ภายใต้ตราสินค้า "KC" เปิดเผยว่า นวัตกรรมการเกษตร 4.0 เป็นการผสมผสานแนวคิดการเกษตรสมัยใหม่เข้ากับเทคโนโลยีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ครอบคลุมทุกขั้นตอนตั้งแต่การเพาะปลูกจนไปถึงการผลิตสินค้าส่งออก ประกอบไปด้วยนวัตกรรมการทำ ฟาร์มเพาะปลูกอัจฉริยะ หรือ Smart Farm ที่ได้เริ่มต้นโครงการมาแล้วตั้งแต่ปลายปี 2559 ตั้งแต่การปรับเปลี่ยนระบบการให้น้ำอย่างแม่นยำอัตโนมัติทดแทนการให้น้ำแบบเดิม โดยใช้เซ็นเซอร์ตรวจวัดค่าปริมาณความชื้นในดินเพื่อเป็นเกณฑ์ในการปล่อยน้ำผ่านสัญญาณวิทยุลงไปยังร่องน้ำเพื่อให้ต้นข้าวโพดหวานนำน้ำไปใช้ได้ตลอดฤดูกาลเพาะปลูก การใช้อากาศยาน หรือ โดรนในการให้ยาฆ่าแมลงเพื่อทดแทนแรงงานเกษตรกร การติดตั้งสถานีตรวจวัดสภาพอากาศแบบเรียลไทม์ ซึ่งสามารถตรวจวัดได้ 6 ปัจจัย คือ อุณหภูมิอากาศ,ความชื้น,ความเข้มของแสง,ปริมาณน้ำฝน, ความเร็วลม และ ทิศทางลม โดยใช้พลังงานจากแผงโซล่าเซลล์ ซึ่งข้อมูลจะถูกนำมาประมวลผลผ่าน แอพพลิเคชั่นสำหรับการกำกับเกษตรกรให้เพาะปลูกตามแผนที่บริษัทได้วิเคราะห์ไว้เฉพาะบุคคล โดยสามารถเพิ่มผลผลิตจาก 2 ตัน เป็น 3-4 ตันต่อไร่ ทั้งนี้มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการแล้วมากกว่า 200 ราย ซึ่งโครงการนี้เป็นความร่วมกับกับมหาวิทยาลัยแม่โจ้ นอกจากนี้บริษัทฯได้มีการร่วมมือกับบริษัทเอกชนต่าง ๆ อาทิ บริษัท บริลเลี่ยนท์ พาวเวอร์ จำกัด ในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา 500Kwp (Solar PV Rooftop) เพื่อใช้ภายในโรงงาน และ บริษัท สกาย วีไอวี จำกัด ผู้เชี่ยวชาญการให้บริการด้านเกษตรกรรมแม่นยำ เพื่อนำนวัตกรรมการวิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศแบบ Multispectral จากอากาศยานไร้คนขับ โดยได้ทำการศึกษาวิจัยรวบรวมข้อมูลการปลูกข้าวโพดหวานครบทุกมิติ (บิ๊กดาต้า) ในพื้นที่เกษตรกร อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ จำนวน 17,000 ไร่ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาทางการเกษตรส่งผลให้ได้ผลผลิตที่เป็นวัตถุดิบหลักของผลิตภัณฑ์มีความสมบูรณ์มากขึ้น สำหรับปี 2561 บริษัทจะนำนวัตกรรมมาใช้ในการเพาะปลูกเพิ่มขึ้น ได้แก่ การวิเคราะห์และแจ้งเตือน การเกิดโรคและแมลงศัตรูพืชโดยใช้ข้อมูลจากอุปกรณ์ตรวจวัดปริมาณแมลง และ ระบบการให้ปุ๋ยอัตโนมัติผ่านเซ็นเซอร์ตรวจวัดค่าปริมาณแร่ธาตุในดินทดแทนการให้ปุ๋ยตามสูตรของเกษตรกร เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพตามความต้องการของตลาดโลก ซึ่งคาดว่าจะติดตั้งแล้วเสร็จภายในสิ้นปี ทั้งนี้บริษัทได้นำนวัตกรรมการเกษตร 4.0 มาจัดแสดงภายในงาน THAIFEX – World of Food Asia 2018 ที่ผ่านมาให้กับผู้ประกอบการและคู่ค้า รวมถึงผู้เข้าร่วมชมงาน ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างดีถึงเทคโนโลยีทันสมัยที่บริษัทนำมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพของผลผลิต

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ