ผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 สัมผัสแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศและ ธรรมชาติที่งดงามของกระบี่ "บ้านหนองทะเล" พายคายัคชมธรรมชาติกลางป่าพรุ ท่องไปในผืนน้ำทะเลในที่โอบล้อมด้วยภูเขาที่แหลมสัก

ข่าวบันเทิง Friday June 22, 2018 15:30 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--22 มิ.ย.-- เข้าสู่วันที่สองของการเก็บตัวทำกิจกรรมของผู้เข้าประกวด มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 ที่จังหวัด กระบี่ วันนี้ เหล่าสาวงามแยกทำกิจกรรมเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือหมายเลข 1- 20 วันนี้มีภารกิจในการถ่ายภาพลงสูจิบัตร ส่วนกลุ่มที่ 2 หมายเลข 21-40 แบ่งเป็น 2 กลุ่มย่อย โดย ผู้เข้าประกวดหมายเลข 21-30 ได้ออกเดินทางจากที่พักโรงแรม กระบี่รีสอร์ท ตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อไปถ่ายทำวิดีทัศน์ประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวของกระบี่ ที่ "ชุมชนบ้านหนองทะเล" ตำบลหนองทะเล อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศแห่งใหม่ที่ได้รับความสนจากนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะทัศนียภาพยามเช้า โดยเหล่านางงามได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามกลางคลองหนองทะเลและรอชมพระอาทิตย์ขึ้น จากนั้นได้รับประทานอาหารเช้าที่ชาวชุมชนคลองพัฒนาได้เตรียมไว้ให้ ประกอบด้วย ข้าวยำ ข้าวหมกไก่ที่รสชาดยอดเยี่ยมโดยปรุงจากเครื่องเทศท้องถิ่น และหารับประทานที่ไหนไม่ได้นอกจากที่บ้านคลองหนองทะเล คลองหนองทะเล เดิมเป็นคลองน้ำจืดด้วยความร่วมมือของชุมชนที่ร่วมกันพัฒนา พัฒนาตกแต่งเส้นทางท่องเที่ยว เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการเที่ยวเชิงนิเวศ และยังมีบริการเรือคายัค (เรือแคนู) เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้พายขึ้นไปชมต้นน้ำของคลองหนองทะเล โดยระหว่างเส้นทาง จะได้ชมโขดหิน น้อยใหญ่ คล้ายกับภูเขาเล็กๆ โผล่พ้นผิวน้ำสลับเรียงรายกับตอไม้ และยังมีต้นไม้หลาก สายพันธุ์ ทั้งกล้วยไม้ป่า เข็มป่า ต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง ต้นระกำป่า บัวน้ำ ฯลฯ จากนั้น ส่วนสาวงามหมายเลข 31-40 ได้มาถ่ายทำวิดีทัศน์ที่ "คลองรูด" หรือ "คลองหรูด" อยู่ในบริเวณบ้านหนองทะเล ซึ่งเป็นที่สถานที่ที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบโดยจะไปเล่นรูดตัว หรือ เล่นสไลเดอร์บนสันฝายอย่างสนุกสนาน ทั้งนี้ ผู้เข้าประกวดฯ 21-30 ได้นั่งเรือหัวโทงไปที่อ่าวเหนาเพื่อถ่ายวิดีทัศน์วิถีชีวิตชุมชนประมงพื้นบ้าน อาทิ กระชังเลี้ยงกุ้งมังกร และกระชังเลี้ยงพืชน้ำที่ขึ้นชื่อของที่นี่คือ "สาหร่ายพวงองุ่น" และการทำเคย หรือ กะปิ จากนั้นผู้เข้าประกวดฯ ทั้ง 20 คนได้เดินทางไปถ่ายวิดีทัศน์ ที่เทวสถานจตุคามรามเทพสองคาบสมุทร ณ เทศบาลเมืองกระบี่เพื่อสักการะองค์จตุคามรามเทพที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยองค์จตุคามรามเทพองค์นี้เป็นประติมากรรมเนื้อบรอนซ์ประทับบนพญานาคปรก 9 เศียร ความสูง 4.50 เมตร ส่วนเทวสถานออกแบบโดย รศ.ดร.ภิญโญ สุวรรณคีรี ศิลปินแห่งชาติสาจาทัศนศิลป์ ขนาดความกว้าง 9เมตร ยาว 12 เมตร และในเวลา 16.00 น. สาวงามทั้ง 20 คนได้เดินทาวต่อไปยังศูนย์เรียนรู้วัฒนธรรมอันดามัน ซึ่งเป็น แหล่งเรียนรู้ทางด้านศิลปวัฒนธรรมประวัติศาสตร์ของจังหวัดกระบี่ และกลุ่มภาคใต้ฝั่งอันดามัน เพื่อเชื่อมโยง อดีตอันยิ่งใหญ่ของกระบี่ในสถานะเมืองท่าเมื่อ 2,000 ปีก่อน โดยสิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือ "ควนลูกปัด" หรือลูกปัด โบราณที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ลูกปัดอันดามัน โดยดาวเด่นที่มีชื่อเสียง คือลูกปัด "สุริยเทพ" จากอำเภอ คลองท่อมซึ่ง เป็นลูกปัดที่ทำจากแก้วโมเสก เขียนลายเป็นรูปหน้าคนและหลอมด้วยความร้อนสูง ที่มีอายุนับพันปี และเป็นสิ่งสื่อแสดงว่าในพื้นที่จังหวัดกระบี่เคยเป็นเมืองท่าโบราณ ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในเส้นทางการค้าทางเรือฝั่งอันดามัน ปิดท้ายด้วยการเดินทางไปสักการะพระบรมรูปพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หรือเสด็จเตี่ยซึ่งเป็นที่เคารพของชาวเรือ. และเยี่ยมชม "พิพิธภัณฑ์เรือรบหลวงลันตา 714" จ.กระบี่ ซึ่งเป็นเรือที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานชื่อให้ เรือรบหลวงลันตา 714 เคยประจำการเป็นเรือยกพลขึ้นบกและเรือลาดตระเวณขนาดใหญ่ ปัจจุบันได้ปลดประจำการและนำมาจัดสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์ อยู่หน้าที่ทำการ อบจ.กระบี่ เพื่อให้ประชาชนเยี่ยมชม สำหรับในวันพรุ่งนี้ 40 สาวงามจะเดินทางไปถ่ายวิดีทัศน์ที่เกาะพีพี เกาะปิเละ และอ่าวนุ้ย โดยจะเดินทางด้วยเรือยอร์ช "อ่าวนาง พริ้นเซส8" และจะเป็นการถ่ายชุดว่ายน้ำครบทั้ง 40 สาวงาม

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ