กรุงเทพฯ--18 ก.ค.--กรมส่งเสริมสหกรณ์
ข้าวเพื่อสุขภาพ เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีแนวโน้มว่าตลาดจะขยายตัวและมีการเติบโตสูงตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้นในยุคปัจจุบัน ทำให้ความต้องการสินค้าเพื่อสุขภาพประเภทข้าวได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ขณะเดียวกันก็เป็นการเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคด้วยเช่นกัน เพื่อเป็นการรับมือกับการแข่งขันและแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดข้าวเพื่อสุขภาพ สหกรณ์การเกษตรบรบือ จำกัด จังหวัดมหาสารคาม ในฐานะผู้ผลิตข้าวหอมมะลิเพื่อสุขภาพ ภายใต้แบรนด์ตักศิลา และเป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในฐานะผู้ผลิตข้าวสารที่มีคุณภาพ ได้มีการปรับตัวและหันมาพัฒนานวัตกรรมเพื่อผลิตข้าวหอมมะลิเพื่อสุขภาพ พร้อมกับทำมุ่งขยายตลาดข้าวของสหกรณ์ เพื่อตอบโจทย์คนรักสุขภาพและเตรียมจะรุกตลาดข้าวเพื่อสุขภาพมากขึ้น โดยล่าสุดได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ "ตักสิลา พลัส" เป็นผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะเป็นข้าวหอมมะลิแบบสูตรควบคุมน้ำตาล มีเพียงความหวานจากข้าวธรรมชาติ ที่ให้ความอร่อยแบบลงตัว เพื่อเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้บริโภคทุกเพศทุกวัยที่รักสุขภาพ ถ้าใครอยากมีสุขภาพดี น่าจะลองหันมาทานข้าวสายพันธุ์ใหม่อย่างข้าวตักสิลา พลัส ดูกันบ้าง ซี่งสหกรณ์การเกษตรบรบือ จำกัด เป็นสหกรณ์แห่งเดียวในประเทศไทยที่กล้าผลิตข้าวชนิดนี้
ตลอดระยะเวลา 20 ปีของการผลิตและจำหน่ายข้าวหอมมะลิ สหกรณ์การเกษตรบรบือ จำกัดไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนาสินค้าจนผ่านการตรวจสอบว่าเป็นข้าวปลอดสารเคมีที่ขายดีที่สุดในจังหวัดมหาสารคา และวางขายในราคา ไม่แพง แต่มุ่งเน้นคุณประโยชน์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมหัศจรรย์จากคุณค่าธรรมชาติของเมล็ดข้าว เหมาะสำหรับคนป่วยเบาหวานและรักสุภาพได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ข้าวหอมมะลิตักสิลาครองใจผู้บริโภคทั้งในจังหวัดมหาสารคามและจังหวัดอื่นๆ มายาวนาน
นางพรสุดา ภาคภูมิรัตน์ ผู้ช่วยผู้จัดการสกก.บรบือ จำกัดว่า กล่าวว่า ข้าวหอมมะลิตรา "ตักสิลา พลัส" เป็นนวัตกรรมใหม่ของข้าวหอมมะลิคุณภาพสูง เป็นข้าวที่มีรสหวานธรรมชาติ มีความสดใหม่ กลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ ด้วยสัดส่วนผสมที่ลงตัว ทำให้ข้าวหอมมะลิตักสิลา พลัส มีเนื้อสัมผัสที่เหนียวนุ่ม อร่อย เมื่อรับประทานจะสัมผัสถึงความอร่อยในรสชาติแตกต่างจากข้าวทั่วไป เนื่องจากสภาพดินปลูกมีความเค็ม จึงทำให้เมล็ดข้าวที่ปลูกในแปลงนาดินเค็ม เมื่อนำมาหุงสุกและรับประทาน จะให้รสชาติที่อร่อยและกลิ่นหอม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นในแบบของตัวเอง
นอกจากนี้ ข้าว "ตักสิลา พลัส" ยังมีคุณสมบัติ เป็นข้าวควบคุมน้ำตาลในเลือด ซึ่งมีค่าดัชนีน้ำตาล GK55 ปราศจากการตัดแต่งพันธุกรรม ไม่ใช่สารเคมีปรุงแต่ง และได้รับรองการผลิตตามระบบ GAP การผลิตข้าวเปลือกจากกรมวิชาการเกษตร อีกทั้งมีความสามารถในการย่อยแป้งให้เปลี่ยนเป็นน้ำตาลกลูโคสในกระแสเลือด เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานและผู้บริโภคทั่วไป โดยช่วยรักษาสมดุลในสมอง ช่วยให้สมองผ่อนคลาย ลดความวิตกกังวล หลับสบาย คลายกล้ามเนื้อ ป้องกันความจำเสื่อม กระตุ้นการผลิตฮอร์โมนที่ช่วยการเจริญเติบโต สร้างเนื้อเยื่อ ทำให้กล้ามเนื้อกระชับ ชะลอความชรา ช่วยขับเอนไซม์ขจัดสารพิษ ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดความดันเลือด มีไฟเบอร์สูง ช่วยให้การย่อยอาหารเป็นไปอย่างช้า ๆ ทำให้อิ่มท้องนาน ไม่หิวง่าย และช่วยลดความอ้วนได้ดี
"สำหรับการวางตลาดผลิตภัณฑ์ใหม่ "ตักสิลา พลัส" ซึ่งเป็นข้าวหอมมะลิสูตรควบคุมน้ำตาล เน้นเจาะกลุ่มคน รักสุขภาพ ซึ่งเราเป็นเจ้าแรกในประเทศไทยที่ผลิตข้าวชนิดนี้ โดยได้ทำวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม ในโครงการวิจัยผลิตภัณฑ์ข้าวเพื่อสุขภาพลดน้ำตาล เพื่อให้ได้ข้าวรสชาติที่อร่อยหอม นุ่ม มีความหวานจากธรรมชาติ สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ซึ่งเริ่มทำได้ประมาณ 8 เดือนแล้ว คาดว่าเมื่อทำวิจัยเสร็จแล้วก็จะทำตลาดควบคู่ไปด้วย ขณะนี้ได้เริ่มมีการสำรวจตลาดในเบื้องต้นแล้ว ซึ่งจะกำหนดราคาขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 120 บาท เนื่องจากข้าวคุณภาพนั้นมีกระบวนการปลูกและดูแลค่อนข้างพิถีพิถัน ซึ่งหวังว่าน่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีเหมือนกับข้าวหอมมะลิตักสิลา"นางพรสุดา กล่าว
นางพรสุดา กล่าวอีกว่า ข้าวตักสิลาพลัส เป็นการพัฒนาโดยใช้วิธีปรับสายพันธ์โดยการนำข้าวหอมมะลิ 105 ซึ่งมีความนุ่มอยู่แล้ว เอาไปปรับค่าความหวานของข้าวปรับจากน้ำตาลของข้าวจาก 85% เหลือเพียง55% เนื่องจากมองว่าข้าวหอมมะลิเป็นราชินีแห่งข้าวอยู่แล้ว จึงนำมาพัฒนาเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ให้เป็นข้าวลดน้ำตาล เพื่อให้เป็นราชินีแห่งข้าวที่รักสุขภาพ ที่สำคัญทานข้าวนี้แล้วการันตีว่าไม่เป็นโรคเบาหวานจริง ๆ เพราะเรามีการทดลองกับผู้ป่วยในโรงพยาบาลสกลนคร 60 ราย แล้วว่า ผู้ป่วยชอบ เพราะข้าวอร่อย รสชาติหอมนุ่ม มีประโยชน์ ทานแล้วสุขภาพดีขึ้น
ส่วนกลยุทธ์การตลาดที่สหกรณ์จะเน้นคือ ถูกใจลูกค้า สะอาด ปลอดภัย และที่สำคัญเป็นข้าวของชาวนาอย่างแท้จริง ดังนั้น ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่าข้าวที่ซื้อจากสหกรณ์การเกษตรบรบือ จำกัด เป็นข้าวที่มีกระบวนการผลิตที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน และคาดว่าจะมีการขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง และเริ่มเปิดขายผ่านทางออนไลน์ เฟสบุ๊ค และออก บูธตามงานแสดงสินค้าที่กระทรวงต่างๆจัดงาน ใช้การบอกต่อกันปากต่อปาก เป็นการเดินตลาดเชิงรุก ซึ่งการออกบูธงทำให้สินค้าได้รับการตอบรับเพิ่มขึ้น และมีลูกค้าประจำอยู่ในหลายจังหวัดติดต่อซื้อข้าวจากสหกรณ์ไปขายต่อ
อย่างไรก็ตาม ตลาดข้าวสารในปัจจุบันมีแนวโน้มเติบโตขึ้นทุกปี ซึ่งราคาขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกและภายใน แต่การรักษาคุณภาพข้าวเป็นสิ่งที่ต้องยึดถือไว้เป็นอันดับแรก เพราะว่าถ้าข้าวมีคุณภาพดี ก็จะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญคือเรื่องราคา สหกรณ์ได้กำหนดราคาข้าวสารไว้ให้พอมีกำไรอยู่ได้ ทำให้โรงพยาบาลมหาสารคามติดต่อสั่งซื้อข้าวสารของสหกรณ์เป็นลูกค้าประจำ และจะมีโรงพยาบาลวาปีปทุมติดต่อเข้ามาเพื่อซื้อข้าวจากสหกรณ์เพิ่มอีก1แห่ง เนื่องจากทั้งสองโรงพยาบาลเล็งว่าข้าวของสหกรณ์เป็นข้าวที่ปลอดภัยได้มาตรฐาน เนื่องจากสหกรณ์ได้มีการอบรมเกษตรกรให้ปลูกข้าวเพื่อให้ตรงกับความต้องการของตลาดมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาเกษตรกรเคยชินกับการปลูกข้าวแบบเดิม ๆ สหกรณ์จึงได้พยายามอบรมความรู้การปลูกข้าวให้สมาชิกไม่ใช้สารเคมี ทำให้เมื่อสหกรณ์นำข้าวไปนำเสนอต่อลูกค้า ก็จะแนะนำว่าข้าวของสหกรณ์มีความปลอดภัยผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานต่างๆ และผ่านงานวิจัยแล้วว่าเป็นข้าวที่มีคุณภาพ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นจากลูกค้าและซึ่งจะทำให้ข้าวตักสิสาของสหกรณ์การเกษตร บรบือ จำกัด สามารถขายตลาดไปสู่ผู้บริโภคได้เพิ่มขึ้นด้วย
หากมีผู้สนใจจะสั่งซื้อข้าวหอมมะลิจากสหกรณ์การเกษตรบรบือ จำกัด สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ 084-4044688