กรุงเทพฯ--26 ก.ค.--มรภ.สงขลา
สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มรภ.สงขลา รับธงเจ้าภาพจัดประชุมภาคีอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมฯ เผยสงขลามีแหล่งศิลปกรรมจำนวนมาก บางแห่งอยู่ในสถานะเสี่ยงถูกทำลาย เตรียมนำเครือข่ายศึกษาเรียนรู้พื้นที่จริง สร้างความตระหนักขับเคลื่อนงานอนุรักษ์
นายกมลนาวิน อินทนูจิตร รองผู้อำนวยสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนพร้อมด้วย นายมานพ อ่อนแก้ว นักวิชาการศึกษา ในนามหน่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและศิลปกรรมท้องถิ่น จ.สงขลา เข้าร่วมการประชุมประจำปีภาคีอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรมกลุ่มจังหวัด ณ โรงแรมรัตนปุระ บีช รีสอร์ท อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี โดยนำเสนอความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพต่อที่ประชุม และได้รับผลโหวตให้หน่วยอนุรักษ์ฯ จ.สงขลา เป็นเจ้าภาพจัดประชุม ประจำปี 2562 ช่วงประมาณกลางเดือนมีนาคม เนื่องจากเล็งเห็นความสำคัญว่าในพื้นที่ จ.สงขลา มีแหล่งสิ่งแวดล้อมธรรมชาติและแหล่งศิลปกรรมเป็นจำนวนมาก ซึ่งบางแห่งอยู่ในสถานะที่เสี่ยงต่อการถูกทำลาย ดังนั้น จึงเห็นควรให้มีการศึกษาเรียนรู้ในพื้นที่จริง เพื่อสร้างความตระหนักและแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากผู้มีประสบการณ์ทั้งในพื้นที่ และผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานต่างๆ นอกจากนั้น ยังเป็นการสร้างเสริมความร่วมมือของหน่วยงานในทุกภาคส่วน ร่วมเป็นเครือข่ายในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรม เพื่อให้เกิดกระบวนการขับเคลื่อนงานอนุรักษ์ฯ ให้เกิดประสิทธิผลและยั่งยืนต่อไป
นายกมลนาวิน กล่าวว่า การรวมตัวกันในนามภาคีอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรม มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาการดำเนินงานของหน่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรมท้องถิ่นทั่วประเทศ ร่วมกันกับเครือข่ายภาคประชาชนและท้องถิ่น ก่อให้เกิดการประสานงาน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาการทำลายและความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรม พร้อมทั้งเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรม เพื่อให้การบริหารงาน ดำเนินงาน และติดตามประเมินผลการดำเนินงานของหน่วยอนุรักษ์ฯ เป็นไปอย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ด้าน นายโอภาส อิสโม ผู้อำนวยการสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มรภ.สงขลา ในฐานะหัวหน้าหน่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติฯ จ.สงขลา กล่าวว่า การรับเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้เพื่อดำเนินงานภายใต้นโยบายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ให้ความสำคัญในการดูแลอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรม ซึ่งนับเป็นมรดกของชาติ โดยให้หน่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรม ท้องถิ่นจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด เป็นกลไกหลักในการดำเนินงาน ทำหน้าที่เป็นหน่วยเฝ้าระวังสถานการณ์ของสิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรม ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของภาคีเครือข่าย รวมถึงสร้างกระบวนการการเรียนรู้ทางด้านวิชาการ และแนวทางบริหารจัดการอนุรักษ์ คุ้มครองและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรมอย่างต่อเนื่อง จากนั้นเป็นกระบวนการถอดบทเรียนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรมท้องถิ่นทั้งประเทศไทย รวมถึงเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนในพื้นที่จังหวัดสงขลาและพื้นที่ใกล้เคียงตามพันธกิจและยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา
นายโอภาส กล่าวอีกว่า จุดเริ่มต้นของการมีเครือข่ายด้านอนุรักษ์ โดยหน่วยอนุรักษ์ ฯ สงขลา ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มรภ.สงขลา เกิดขึ้นตามคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม และ 28 สิงหาคม พ.ศ.2527 เห็นชอบในการวางแผนพัฒนาอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมศิลปกรรม โดยเจตนารมณ์ของแผนคือพัฒนาการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมศิลปกรรมให้เป็นระบบ และก่อให้เกิดประโยชน์แก่ท้องถิ่นและประเทศชาติโดยรวม โดยมีการดำเนินงานเร่งด่วนด้วยการจัดตั้งหน่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมศิลปกรรมท้องถิ่น 75 จังหวัด (ยกเว้นกรุงเทพฯ) เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างเป็นระบบ ประกอบด้วย การแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ การดูแลรักษา การควบคุมและป้องกัน รวมทั้งการบันทึกและจัดเก็บข้อมูล โดยมีเป้าหมายที่จะให้ประชาชนในท้องถิ่นตระหนักและเข้าใจถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมที่มีต่อมรดกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมของท้องถิ่นและประเทศ