Blue Origin ปล่อยจรวด New Shephard อีกครั้ง – mu Space สร้างประวัติศาสตร์ให้เอเชีย

ข่าวทั่วไป Monday July 23, 2018 10:05 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 ก.ค.--มิว สเปซ แอนด์ แอดวานซ์ เทคโนโลยี บริษัท Blue Origin บริษัทสร้างอวกาศยาน ได้ปล่อยจรวด New Shephard ขึ้นสู่อวกาศแล้วในวันนี้ และเป็นครั้งแรกที่นำ payload น้ำหนักรวม 6 กิโลกรัมจากเอเชียขึ้นไป โดยบริษัทมิว สเปซ แอนด์ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีดาวเทียมและอวกาศของไทย เป็นผู้ส่ง payload ดังกล่าวซึ่งบรรจุสิ่งของทดลองทางวิทยาศาสตร์จำนวนหลายชิ้นจากสถาบันวิจัยต่างๆ ในประเทศไทย ตามที่มีการประกาศ โดยบริษัท มิว สเปซ ก่อนหน้านี้ ทางบริษัทฯ เปิดเผยว่าบริษัทฯ ได้ส่งของขึ้นไปพร้อมกับ Payload เช่น อุปกรณ์ห้ามเลือด, Carbon Nanotube ผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับการทดลองในสภาวะแรงโน้มถ่วงต่ำ จากภาครัฐ มหาวิทยาลัยต่างๆ และหน่วยงานด้านอวกาศของประเทศไทย ได้แก่ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA), สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง และ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (NARIT) ในส่วนของบริษัท มิว สเปซนั้น ได้ส่งวัสดุผ้าสำหรับใช้ในการทดลองเพื่อการพัฒนาและผลิตเป็นชุดอวกาศและอุปกรณ์เครื่องแต่งกายต่างๆ และยังได้ส่งเสื้อฟุตบอลทีมชาติไทย เพื่อเป็นสัญลักษณ์ระหว่างคนไทยกับมหกรรมฟุตบอลโลก และเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จในภารกิจช่วยเหลือทีมฟุตบอลและโค้ชทั้ง13 ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำหลวงเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา "ครั้งนี้เป็นการทดสอบการใช้งานของจรวด New Shepard เป็นครั้งที่ 9 ซึ่งประสบความสำเร็จอีกครั้ง และยังเป็นการแสดงถึงการส่ง payload พร้อมสิ่งของจากเอเชียขึ้นไปในอวกาศเป็นครั้งแรกอีกด้วย" เจมส์ เย็นบำรุง ประธานกรรมการบริหารและผู้ก่อตั้งบริษัท มิว สเปซ กล่าว "ผมขอแสดงความยินดีกับทีมงานทุกคนของบริษัท มิว สเปซ และกับผู้ร่วมโครงการของเราทุกรายในประเทศไทยที่ได้ร่วมกันรวบรวมสิ่งของทดลองทางวิทยาศาสตร์ต่างๆ สำหรับการปล่อยจรวดขึ้นไปในอวกาศสู่สภาวะแรงโน้มถ่วงต่ำ (microgravity) ในครั้งนี้ และนี่เป็นอีกหนึ่งก้าวที่สำเร็จสำหรับความฝันในงานด้านอวกาศของคนไทย" เจมส์เสริม Payload นี้จะขึ้นสู่อวกาศไปกับจรวด New Shepard ของบริษัท Blue Origin ซึ่งจรวด New Shepard เป็นจรวดที่สามารถปล่อยขึ้นสู่อวกาศและกลับมาลงจอดบนพื้นโลกในแนวดิ่งซึ่งสามารถบรรจุ payload ได้หลายร้อยปอนด์ต่อการปล่อยจรวด 1 ครั้ง และในอนาคตจะนำนักบินอวกาศขึ้นไปได้ 6 ถึงคนโดยจะทะยานไปสู่ระดับความสูงกว่า 100 กิโลเมตรซึ่งเป็นระดับความสูงที่เป็นที่ยอมรับโดยสากลว่าเป็นจุดที่เริ่มเข้าสู่อวกาศ "ทางบริษัท Blue Origin ขอแสดงความยินดีกับบริษัท มิว สเปซในฐานะที่เป็นผู้ส่ง payload ไปกับยาน New Shephard เป็นครั้งแรกในเอเชีย เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับความไว้วางใจให้เราเป็นผู้นำวิสัยทัศน์ของบริษัท มิว สเปซขึ้นไปสู่อวกาศ" Clay Mowry รองประธานกรรมการ บริษัท Blue Origin กล่าว บริษัท Blue Origin นั้นก่อตั้งโดย Jeff Bezos ซึ่งเป็นประธานกรรมการบริหารและเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท Amazon ซึ่งมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการริเริ่มให้มีการส่งมนุษย์ไปอยู่ในอวกาศ โดยในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2558 นั้นจรวด New Shepard ของบริษัท Blue Origin ได้กลายเป็นจรวดลำแรกที่มีการปล่อยขึ้นสู่อวกาศและกลับมายังพื้นโลกโดยการลงจอดแบบแนวดิ่ง และเพียงไม่ถึงสองเดือนต่อมาจรวดลำเดิมนั้นก็ได้ขึ้นสู่อวกาศและกลับมาลงจอดยังพื้นโลกอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการนำจรวดกลับมาใช้ใหม่อันจะเป็นกุญแจสำคัญนำไปสู่อนาคตที่ผู้คนนับล้านจะมีการใช้ชีวิตและทำงานในอวกาศ บริษัท มิว สเปซ ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 เพื่อพัฒนาธุรกิจด้านเทคโนโลยีอวกาศและดาวเทียมซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยี IoT (Internet of Things) และ Smart Cities โดยบริษัทฯวางเป้าหมายที่จะปล่อยดาวเทียมของตัวเองขึ้นสู่อวกาศภายในปี 2020 โดยใช้ยาน New Glenn ของบริษัท Blue Origin เป็นพาหนะ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและต่อยอดสนับสนุนการลงทุนในธุรกิจอวกาศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ