กระทรวงดิจิทัลฯ กระตุ้นท้องถิ่นใช้ระบบข้อมูลข่าวสารชุมชน และ Village E-Commerce สร้างความเข้มแข็ง-เพิ่มศักยภาพขายสินค้าออนไลน์

ข่าวเทคโนโลยี Monday July 23, 2018 15:51 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 ก.ค.--กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงดิจิทัลฯ จัดอบรมหลักสูตรพัฒนาศักยภาพผู้ใช้งานระบบข้อมูลข่าวสารชุมชน และ Village E-Commerce ในโครงการศูนย์ดิจิทัลชุมชน นำร่อง 21 จังหวัด เน้นพัฒนา 2 ระบบงานหลัก ได้แก่ 1) ระบบข้อมูลข่าวสารชุมชน ให้ชุมชนสร้างการจัดเก็บข้อมูลภายใน พร้อมวางแผนพัฒนาคนอย่างมีประสิทธิภาพ และ 2) ระบบ Village E-Commerce สอนชุมชนสร้างเรื่องราวเชื่อมโยงสินค้า/บริการ ส่งเสริมการขายสินค้าผ่านออนไลน์ มั่นใจ 2 ระบบงาน ใช้ขับเคลื่อนแผนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ตามยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศด้วยดิจิทัลได้จริง นางอาทิตยา สุธาธรรม รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยถึงหลักสูตรพัฒนาศักยภาพผู้ใช้งานระบบข้อมูลข่าวสารชุมชน และ Village E-Commerce โครงการศูนย์ดิจิทัลชุมชน ภายใต้โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ว่า กระทรวงดิจิทัลฯ เล็งเห็นความสำคัญของการจัดเก็บข้อมูลที่เป็นระบบ จึงได้มอบหมายให้ที่ปรึกษา (บริษัท วีเอเวอร์ จำกัด) ดำเนินการพัฒนาระบบงานขึ้น 2 ระบบหลัก ได้แก่ 1) ระบบข้อมูลข่าวสารชุมชน เพื่อให้มีการจัดเก็บภูมิปัญญา องค์ความรู้ ความถนัดของคนในชุมชน สำหรับการใช้ทรัพยากรบุคคลและวางแผนการพัฒนาบุคลากรอย่างมีประสิทธิภาพ มีฐานข้อมูลและคลังข้อมูลข่าวสารชุมชน และเพื่อให้บริการข้อมูลข่าวสารแก่ชุมชนหรือบุคคล ตามความต้องการอย่างเหมาะสม และ 2) ระบบ Village E-Commerce เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการของชุมชนในรูปแบบเนื้อหาที่น่าสนใจ หรือเรื่องราวที่มีการเชื่อมโยงกับภูมิปัญญา เชื่อมโยงกระบวนการต่างๆ ของการค้าขายออนไลน์แบบครบวงจร เพื่อทำให้ชุมชนหรือผู้ประกอบการสามารถขายของออนไลน์ ส่งเสริมการขายให้แก่ชุมชนผ่านสื่อการตลาดออนไลน์ ทั้งสองระบบดังกล่าว จะช่วยให้ชุมชนสามารถสร้างเนื้อหา (Content) ให้มีความสัมพันธ์กับสินค้า เกิดการเล่าเรื่องที่สร้างความน่าสนใจให้กับสินค้าและบริการของชุมชน โดยอาศัย "คุณค่า" ของชุมชน สร้างเป็น "มูลค่า" ให้กับสินค้าและบริการ สร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้น อีกทั้งระบบดังกล่าวยังสามารถเชื่อมโยงกับเว็บไซต์อื่นๆ (Blog) เพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ให้กับชุมชน สามารถนำองค์ความรู้ที่ได้ไปปรับใช้กับสินค้าและบริการของแต่ละชุมชน นอกจากนี้ การพัฒนาบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับนิเวศวิทยาของข้อมูลก็นับเป็นเรื่องสำคัญไม่น้อยกว่าการพัฒนาระบบ เพราะเป็นปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้ระบบมีข้อมูลไหลเวียน และมีชีวิต จึงได้จัดกิจกรรมอบรมขึ้น 2 กิจกรรม ได้แก่ 1) กิจกรรมอบรมหลักสูตรผู้ดูแลระบบ ซึ่งจัดไปแล้วเมื่อวันที่ 9–16 กรกฎาคม 2561 และ 2) กิจกรรมอบรมหลักสูตรผู้ใช้งานระบบ เพื่อเพิ่มความรู้ด้านดิจิทัลและให้ข้อมูลเกี่ยวกับระบบข้อมูลข่าวสารชุมชน รวมทั้งสร้างความเข้าใจในการบริหารจัดการด้านการค้าขายสินค้า ตั้งแต่การเปิดร้านค้า การบริหารจัดการสินค้า การเชื่อมโยงร้านค้ากับ Platform อื่นๆ รวมถึงสามารถรับรู้ข้อมูลผ่านเครือข่ายสังคม (Social Networking) โดยจัดการอบรมฯ ระหว่างวันที่ 23 – 26 กรกฎาคม 2561 ณ โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ซึ่งการอบรมในแต่ละวันจะประกอบด้วยกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งการบรรยายและการฝึกปฏิบัติ โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากภาครัฐและเอกชน ที่มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์โดยตรง เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง สามารถ กลับไปถ่ายทอดต่อให้กับกลุ่มผู้นำชุมชน และสมาชิกในชุมชน หรือกลุ่มผู้ประกอบการในชุมชน ให้ได้รับประโยชน์จากการใช้งานระบบ และเป็นแกนนำในการทำให้ระบบข้อมูลข่าวสารชุมชนมีชีวิตตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 27 ตำบล ใน 21 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ กาญจนบุรี กาฬสินธุ์ ขอนแก่น จันทบุรี เชียงใหม่ เพชรบุรี ตาก แม่ฮ่องสอน นครศรีธรรมราช นครพนม บุรีรัมย์ พะเยา ลำพูน สตูล สุรินทร์ ร้อยเอ็ด ระยอง สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และอุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 6 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานสถิติจังหวัด สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ศูนย์ดิจิทัลชุมชน และองค์กรบริหารส่วนตำบล/เทศบาล รวมทั้งสิ้น 200 คน ทั้งนี้ กระทรวงดิจิทัลฯ มีความเชื่อมั่นว่า หากชุมชนต่างๆ สามารถใช้ประโยชน์จาก 2 ระบบงานดังกล่าว ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตามเจตนารมณ์ของกระทรวงฯ จะถือเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลให้เป็นไปตามความต้องการของชุมชน สร้างข้อมูลข่าวสารชุมชนที่มีคุณภาพ สร้างรายได้ และต่อยอดธุรกิจฐานราก ตอบสนองต่อภาพรวมตั้งแต่ระดับจังหวัด จนถึงระดับประเทศ ตอบโจทย์นโยบายของรัฐบาล และทิศทางการพัฒนาประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรม

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ