พรอมเมนาดาลงนามเปิดพื้นที่จัดแสดงของโบราณและของสะสมหายาก ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดเชียงใหม่และภาคเหนือ

ข่าวทั่วไป Tuesday July 24, 2018 13:04 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 ก.ค.--พรอมเมนาดา เชียงใหม่ พรอมเมนาดา เชียงใหม่ เซ็นต์สัญญาร่วมกับบริษัทฟุกเทียนกรุ๊ป จำกัด พัฒนาให้มีการจัดแสดงมรดกทางศิลปวัฒนธรรมอันประกอบด้วยโบราณวัตถุและศิลปวัตถุ เพื่อส่งเสริมเผยแพร่คุณค่าศิลปะและวัฒนธรรมนานาชาติ โดยวางแผนเนรมิตพื้นที่ภายในอาคารกว่า 3,500 ตรม.ในศูนย์การค้าเป็นพื้นที่จัดแสดงของโบราณและของสะสมหายาก ในชื่อ "มหัศจรรย์ขุมทรัพย์ที่สาบสูญ - The Lost Treasure" บริษัท ฟุกเทียนกรุ๊ป จำกัด นำโดยนายธรรมยุทธ์ เจนพิชิตกุลชัย เป็นเจ้าของของโบราณและของสะสมล้ำค่าที่จะนำมาจัดแสดง เผยว่า "นับเป็นครั้งแรกที่จะได้นำของโบราณต่างๆ อาทิ งานแกะสลักหยกอายุกว่า 4,000 ปี ตราประทับและของใช้ส่วนพระองค์ของฮ่องเต้ในสมัยถัง พระสมเด็จวัดระฆังและแม่พิมพ์ของแท้ซึ่งเป็นของมรดกตกทอดภายในครอบครัวของตน โดยตั้งใจนำมาเผยแพร่ให้บุคคลคนทั่วไปได้ชมอย่างใกล้ชิดเพื่อศึกษาประวัติศาสตร์ โดยแบ่งชิ้นงานจัดแสดงเป็นพื้นที่จัดแสดงถาวร และชั่วคราวโดยจะได้มีการผลัดเปลี่ยนการจัดแสดงชิ้นงานต่างๆเพื่อเพิ่มความหลากหลายและหมุนเวียนให้พื้นที่จัดแสดงอื่นๆโดยตั้งเป้าพรอมเมนาดาเป็นศูนย์รวมของการจัดแสดงในภาคเหนือ" นายเอเดรียน เจ เฮย์เมน ประธานบริหาร ศูนย์การค้าพรอมเมนาดา เชียงใหม่ได้ร่วมลงนามความร่วมมือในการพัฒนาพื้นที่ร่วมกันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของเมืองเชียงใหม่ โดยหวังดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นหลัก อันถือเป็นกลุ่มลูกค้าใหม่ของศูนย์การค้า และมีความยินดีที่จะได้เป็นส่วนสำคัญในการเผยแพร่ความรู้แก่นักท่องเที่ยว นักเรียน นักศึกษาและประชาชนทั่วไป ที่สนใจศึกษาและเข้าชมของโบราณหายากอันเป็นมรดกตกถอดชิ้นสำคัญๆระดับโลกนี้ โดยทางศูนย์การค้าวางแผนรองรับการตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าใหม่โดยเตรียมคัดเลือกร้านค้าและร้านอาหารที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าดังกล่าวที่จะเข้ามาเยี่ยมชมการจัดแสดงดังกล่าว ทั้งสองฝ่ายจะได้ร่วมมือกันสร้างสรรค์พื้นที่จัดแสดงและนำเสนองานแกะสลักหยกระดับมาสเตอร์พีซนี้ โดยถ่ายทอดผ่านการนำเสนอที่น่าสนใจ พร้อมบอกเล่าเรื่องราวความเชื่อของความเป็นสิริมงคลในการสักการะพระพุทธรูปหยกโบราณ พระเครื่อง ที่ผสมผสานความสวยงามของงานฝีมือ ศิลปะ และแรงศัทธา อันจะสะท้อนประวัติศาสตร์แต่ละสมัยไว้ในที่เดียวกัน สำหรับโครงการดังกล่าว จะพร้อมเปิดให้ได้เข้าชมเป็นครั้งแรกในช่วงต้นปี 2562 นี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ