ป้ายดิจิตอล สื่อใหม่มาแรง แซง Printed ad

ข่าวทั่วไป Monday December 17, 2007 15:22 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 ธ.ค.--ดีแมสเทค
ทุกวันนี้ตามงานแสดงสินค้าต่างๆ อย่างเช่นงานมอเตอร์โชว์ล่าสุดที่ผ่านมา สิ่งหนึ่งที่จะสังเกตเห็นได้มากขึ้นก็คือ การลดจำนวนลงของสื่อประเภทสิ่งพิมพ์ inkjet เช่นธงราว ป้ายผ้า ป้ายไวนิล โปสเตอร์สแตนด์ ซึ่งถูกแทนที่ด้วย ระบบป้ายดิจิตอล หรือจอประเภท LCD LED พลาสมา ที่ใช้กันแทบจะทุกบูธ
เสถียร ทันต์เจริญกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีแมสเทค จำกัด (www.dmassthailand.com) ผู้ให้บริการระบบ digital signage solution ครบวงจร เปิดเผยว่า
“กระแสของ digital signage ในปีที่ผ่านมาถือว่าค่อนข้างแรง และเป็น trend ใหม่ของการใช้สื่อ ที่จะมาแย่งชิงพื้นที่สื่อประเภท print ad ในปีหน้านี้ โดยเฉพาะในงาน indoor เช่นงาน event ต่างๆ หรือการติดตั้งในพื้นที่ตึกต่างๆ เพื่อแทนป้ายประชาสัมพันธ์แบบเดิมๆ”
เสถียร กล่าวเพิ่มเติมถึงสาเหตุสำคัญที่ทำให้การเติบโตของ digital signage เพิ่มมากขึ้นว่า “มีอยู่หลายองค์ประกอบครับ อันดับแรก แน่นอน เรื่องของเทคโนโลยีด้านจอภาพที่หาได้ง่ายขึ้น ขนาดใหญ่ขึ้น และมีการพัฒนาการมากขึ้น ในราคาที่ถูกลง เช่นจอพลาสมา 42 นิ้ว สามารถหาซื้อได้ในราคาแค่ 4 หมื่นบาท หรือเช่ากันแค่วันละพันกว่าบาท เมื่อเทียบกับการลงทุนทำป้าย inkjet แผ่นละ 4-500 บาท แต่ใช้แล้วทิ้ง ภาพก็นิ่งๆ แทบไม่มีลูกเล่นอะไร แต่จอสามารถสร้างภาพเคลื่อนไหวและสีสันได้มากกว่า”
“องค์ประกอบต่อมาคือเรื่องของ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่ทำให้การสร้างเนื้อหาบนจอสะดวกมากขึ้น แค่ถ่ายภาพจากกล้องดิจิตอลมาลง หรือทำพวก flash animation ต่างๆ ที่สร้างความน่าสนใจให้กับจอมากขึ้น รวมถึงการสื่อสารผ่านเครือข่ายทั้งแบบมีสายและไร้สายที่สามารถแก้ไขเนื้อหาบนจอได้ทันที”
อย่างไรก็ตาม เสถียรยังเชื่อว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการทำป้ายดิจิตอลไม่ใช่เรื่องของเทคโนโลยี หากแต่เนื้อหาที่เป็นสิ่งสำคัญกว่า
“เทคโนโลยี เป็นส่วนช่วยเพิ่มลูกเล่นและความสะดวกสบายในการจัดการกับเนื้อหานั้นๆ แต่ไม่ใช่ว่าเทคโนโลยีจะโดดเด่นกว่าเนื้อหา เพราะคนที่ดูป้ายของคุณ เขาไม่สนหรอกว่าคุณจะใช้เทคโนโลยีแพงหรือดีเลิศขนาดไหน เขาดูแค่ว่าเนื้อหา (Content) ของคุณน่าสนใจและมี benefit อะไรกับเขา แค่นั้น”
เสถียร กล่าวทิ้งท้ายถึงพฤติกรรมของคนไทยกับสื่อประเภทป้ายดิจิตอลว่า “ในส่วนของผู้บริโภคเอง ต้องยอมรับว่า คนไทยส่วนใหญ่ ชอบฟังชอบดูมากกว่าชอบอ่าน สังเกตว่า โฆษณาประเภท print ad ในเมืองไทย จึงไม่ค่อยได้รางวัล แต่กลับได้รางวัลระดับโลกประเภทโฆษณาทีวี Digital signage คือการสื่อสารแบบลูกผสม จะเป็นทีวีก็ไม่ใช่ ป้ายก็ไม่เชิง ในต่างประเทศจะมี know how เฉพาะของเรื่องนี้เลย สอนกันเป็นตำรา เป็นวิชาเรียนในมหาวิทยาลัยเลย ส่วนสำหรับ advertiser เอง อยากให้มองว่า digital signage เป็นสื่ออีกรูปแบบหนึ่ง ไม่ใช่แค่ทีวี เราเห็นหลายๆสถานที่ แค่เอาจอมาตั้งแล้วก็ฉายโฆษณาเหมือนในทีวี ซึ่งง่าย แต่ไม่เวิร์ค เพราะพฤติกรรมคนดูในบ้าน กับดูนอกบ้านไม่เหมือนกัน focusing ต่างกัน interference ต่างกัน แต่บางครั้ง advertiser ต้องการประหยัด ก็เลยเอา TVC มาฉาย ก็ยิ่งทำให้ digital signage ถูกมองว่าเป็นสื่อที่ไม่ได้ผล ซึ่งจริงๆแล้วในต่างประเทศ เขาจะต้องทำ Content สำหรับ digital signage โดยเฉพาะ เป็น commercial art อีกรูปแบบหนึ่งเลย ผมเชื่อว่าในอนาคตอันใกล้ ตลาด digital signage ในเมืองไทยจะโตขึ้น มีสีสันและความซับซ้อนมากกว่านี้ครับ”
สนใจ Solution ของ DMaSStech โทร 02-7488014, 02-7488842, www.dmassthailand.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ