"บทเรียนเรือล่ม" ท่องเที่ยวพัง สธ.ตื่นพัฒนา “การแพทย์ฉุกเฉินเกาะพะงัน สมุย”

ข่าวทั่วไป Thursday August 2, 2018 15:23 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 ส.ค.--Med Agency หลังจากเกิดกรณีเรือฟีนิกซ์อับปางในทะเลภูเก็ต เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2561 ส่งผลให้นักท่องเที่ยวเสียชีวิตเป็นจำนวนมากนั้น พบว่าการปฏิบัติการทางการแพทย์ฉุกเฉินที่ล่าช้า เป็นบทเรียนสำคัญของระบบการแพทย์ฉุกเฉินทางทะเล ซึ่งสร้างความเสียหายให้การท่องเที่ยวไทยจำนวนมาก ล่าสุด www.medhubnews.com เว็บไซต์สุขภาพ สาธารณสุข การท่องเที่ยว วาไรตี้ และ เพจ sasook รายงานว่า อดีตรองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ขวัญใจ "อาสาสมัคร สาธารณสุข" หนึ่งในผู้บริหารที่เชี่ยญชาญงานด้านระบบบริการสุขภาพ กฎหมายใหม่ๆ นายแพทย์ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขตสุขภาพที่ 11 ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุข มีแผนพัฒนาโรงพยาบาลทุกแห่งให้มีศักยภาพเพียงพอที่จะดูแลประชาชนในความรับผิดชอบ โดยในเขตสุขภาพที่ 11 มีหลายพื้นที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศระดับโลก เช่น เกาะสมุย เกาะเต่า เกาะพะงัน เป็นต้น จำเป็นต้องได้รับการพัฒนาเต็มศักยภาพทั้งในเรื่องบุคลากร เครื่องมือแพทย์ ให้สามารถดูแลประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว รวมทั้งพัฒนาระบบส่งต่อที่มีประสิทธิภาพแบบไร้รอยต่อ ทั้งทางบก ทางเรือและทางอากาศ เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย เช่น ที่เกาะพะงัน มีโรงพยาบาลเกาะพะงัน เป็นโรงพยาบาลชุมชนขนาด 30 เตียง อยู่ห่างจากตัวจังหวัด120 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง กระทรวงสาธารณสุขได้จัดสรรบุคลากร พร้อมเครื่องมือแพทย์เพียงพอ ที่จะดูแลประชาชนในพื้นที่รวมทั้งนักท่องเที่ยว โดยมีแพทย์ทั่วไป 4 คน ทันตแพทย์ 3 คน 3คน เภสัชกร 3 คน พยาบาลเฉพาะทาง 10 คน พยาบาลวิชาชีพ 32คน สหวิชาชีพอื่นๆ 42คน รวมทั้งหมด 94 คน สามารถให้บริการครอบคลุมทั้งงานรักษาพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค และฟื้นฟูสมรรถภาพ ทั้งผู้ป่วยทั่วไป ผู้ป่วยอุบัติเหตุ-ฉุกเฉิน ฝากครรภ์ ทำคลอดปกติ ผ่าตัดเล็ก การวางแผนครอบครัว เป็นต้น สำหรับผู้ป่วยโรคซับซ้อนเกินศักยภาพของโรงพยาบาล เช่น โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจ ภาวะตั้งครรภ์ผิดปกติ เป็นต้น จำเป็นต้องพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือผ่าตัด ทุกราย ทุกสิทธิ์การรักษา ที่เข้ามารักษาผ่านการตรวจวินิจฉัยว่าต้องส่งรักษาต่อ จะมีระบบส่งต่อที่มีประสิทธิภาพไปยังโรงพยาบาลเครือข่าย คือโรงพยาบาลเกาะสมุย และโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ผ่านศูนย์นเรนทรอ่าวไทย 1669 เพื่อขอใช้เรือสปีทโบ๊ท ส่วนในช่วงมรสุมเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม คลื่นลมแรงมาก จะประสานสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ขอใช้เฮลิคอปเตอร์ เรือรบหลวง หรือเรือแบบเร็วลมพระยาเช่าเหมาลำ โดยในปี 2560 ทำคลอดปกติ 134 ราย ผิดปกติ 2 ราย ส่งต่อโรงพยาบาลเกาะสมุย 41 ราย ส่วนปี 2561 ทำคลอดปกติไปแล้ว 89 ราย ผิดปกติ 1 ราย ส่งต่อโรงพยาบาลเกาะสมุย 37 ราย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ