สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 02 สิงหาคม 2561

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 2, 2018 18:39 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 ส.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส สภาวะตลาดวันที่ 02 สิงหาคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,215.61-1,221.27 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,200 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,250 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ18 อยู่ที่ 19,250 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 40 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,290 บาท (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.05 น. ของวันที่ 02/08/61) แนวโน้มวันที่ 03 สิงหาคม 2561 ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) มีมุมมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่ง พร้อมจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. หลังการประชุมประจำวันที่ 31 ก.ค.- 1 ส.ค.มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75-2.0% ผลการประชุมสอดคล้องกับช่วงก่อนหน้าที่เฟดคาดการณ์ว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 2 ครั้งในปีนี้ ขณะที่ข้อมูลจาก FedWatch ของ CME Group ระบุว่า มีโอกาส 91% ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. และมีโอกาส 71% ในการขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธ.ค. หนุนแรงซื้อดอลลาร์เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่สูงขึ้น จากความมั่นใจต่อแนวโน้มทิศทางดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น ทองคำจึงถูกลดความน่าสนใจลง นอกจากนี้คณะบริหารของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐเสนอเก็บภาษีเป็น 25% เพิ่มขึ้นจากเดิมที่เคยประกาศไว้ในอัตรา 10% ต่อสินค้าจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ เพราะจีนปฏิเสธที่จะทำตามความประสงค์ของสหรัฐและกำหนดภาษีตอบโต้ต่อสินค้าสหรัฐ โดยปธน.ทรัมป์สั่งการให้นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐพิจารณาการขึ้นอัตราภาษีภายใต้ความพยายามในการสร้างความมั่นใจว่า สหรัฐมี "เครื่องมือที่เหมาะสมเพื่อกระตุ้นให้จีนเปลี่ยนแปลงการดำเนินการ" แม้ว่าทั้งสองประเทศพยายามเดินหน้าหารือว่าจะสามารถกลับมาเจรจาการค้าอีกครั้งเมื่อไร แต่นักลงทุนกำลังติดตามการรับฟังความเห็นของสาธารณชนในการเก็บภาษีดังกล่าว โดยได้ขยายเส้นตายถึงวันที่ 5 ก.ย. จากที่ประกาศเส้นตายก่อนหน้านี้ในวันที่ 30 ส.ค. ซึ่งความกังวลต่อความขัดแย้งทางการค้าจีน-สหรัฐที่รุนแรงขึ้น หนุนดอลลาร์และเพิ่มแรงกกดดันต่อทิศทางราคาทองคำ ทั้งนี้ วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำยังไม่สามารถยืนเหนือบริเวณแนวต้าน 1,235-1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ในระยะสั้นราคาทองคำยังมีโอกาสลงทดสอบแนวรับ 1,215-1,211 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาปรับตัวขึ้นให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ หากไม่สามารถผ่านไปได้นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้าง สำหรับนักลงทุนที่รอซื้อทองคำ อาจรอการย่อตัวของราคาแล้วจึงเข้าซื้อโซนแนวรับ โดยตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับบริเวณ 1,211 ดอลลาร์ต่อออนซ์ กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,235-1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,215-1,211 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมา อาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับถัดไป สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,215-1,211 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคงถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะอีกครั้ง แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,211 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์ ทองคำแท่ง (96.50%) แนวรับ 1,211 (19,000บาท) 1,200 (18,800บาท) 1,193 (18,700บาท) แนวต้าน 1,237 (19,450บาท) 1,248 (19,600บาท) 1,259 (19,800บาท) GOLD FUTURES (GFQ18) แนวรับ 1,211 (19,140บาท) 1,200 (18,970บาท) 1,193 (18,860บาท) แนวต้าน 1,237 (19,560บาท) 1,248 (19,730บาท) 1,259 (19,900บาท) หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ