“ก้าวสู่ 31 ปี บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) ร่วมมือกับโรงพยาบาลพญาไท 2 จัดโครงการ Alarm Center กู้ชีวิตฟื้นคืนชีพนำความรู้สู่ประชาชน”

ข่าวทั่วไป Friday August 3, 2018 09:29 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 ส.ค.--ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี "ก้าวสู่ 31 ปี บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) ร่วมมือกับโรงพยาบาลพญาไท 2 จัดโครงการ Alarm Center กู้ชีวิตฟื้นคืนชีพนำความรู้สู่ประชาชน" นำร่องฝึกภาคปฎิบัติตำรวจท่องเที่ยวกว่า 50 นาย เพื่อช่วยเหลือนักท่องเที่ยวและประชาชน วันศุกร์ที่ 20 กรกฎาคม 2561 เวลา 14.00 – 16.00 น. ณ โถงกิจกรรม อาคารบี โรงพยาบาลพญาไท 2 (สนามเป้า) เพราะด้วยสถิติการเกิดอุบัติเหตุในไทยนั้น ช่วงต้นปี 2561 ที่ผ่านมากรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เผยสถิติอุบัติเหตุระหว่างวันที่28 ธ.ค. 60 ถึง 3 ม.ค. 61 เกิดอุบัติเหตุรวม 3,841 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 423 ราย ผู้บาดเจ็บ 4,005 คน ยังไม่นับรวมอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในบ้าน หรือการมีผู้ป่วยที่มีภาระเสียงด้านโรคหัวใจ โรคสมอง ด้วยเหตุนี้จึงเกิดโครงการ "Alarm Center กู้ชีวิตฟื้นคืนชีพนำความรู้สู่ประชาชน" เพื่อขยายความรู้สู่ประชาชน คุณเฉลิมภพ แก่นจัน กรรมการบริหารบริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทศรีตรังฯ เราเป็นผู้นำด้านยางธรรมชาติแบบครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยมีบริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทในเครือของบริษัทศรีตรังฯ ซึ่งเป็นผู้ผลิตถุงมือยางทางการแพทย์รายใหญ่ที่สุดของประเทศไทยและติดอันดับหนึ่งในห้าของโลก เรามีเป้าหมาย คือ ส่งมอบการ "ปกป้องทุกสัมผัส ด้วยความห่วงใย" สู่ทุกชีวิตทั่วโลก โดยถุงมือยางจะช่วยปกป้องเราทุกช่วงเวลาในการดำเนินชีวิต ไม่ว่าจะเป็นด้านการแพทย์ อาหาร และงานด้านอื่นๆ เราจึงให้ความสำคัญในการสนับสนุนและส่งเสริมกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างยั่งยืนมาโดยตลอด ในโอกาสครบรอบ 31 ปี จึงได้ร่วมกับโรงพยาบาลพญาไท 2 ในการจัดโครงการที่มุ่งเน้นให้ประชาชนมีพื้นฐานความรู้ในด้านการช่วยเหลือครอบครัว และผู้อื่นในภาวะวิกฤต สำหรับโครงการนี้ทางบริษัทฯ ให้การสนับสนุนถุงมือยางทางการแพทย์คุณภาพดีสำหรับการจัดทำอุปกรณ์ปฐมพยาบาล (First Aid Kit) ซึ่งมีประโยชน์และจำเป็นในการมีติดไว้ประจำบ้าน พร้อมทั้งสนับสนุนด้านการผลิตสื่อให้ความรู้แก่ประชาชนในด้านการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินหรือเหตุที่ไม่คาดคิด ที่เข้าใจง่าย อาทิ VDO Content การช่วยเหลือผู้ป่วยหัวใจวายเฉียบพลัน การปฐมพยาบาลผู้ป่วยกระดูกหัก ช่วยชีวิตเด็กจมน้ำ การใช้อุปกรณ์ห้ามเลือด เป็นต้น คุณอัฐ ทองแตง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล กล่าวว่า เราพบว่าเหตุการณ์ไม่คาดคิดมักเกิดขึ้นได้ทุกวัน ไม่เลือกเวลา ไม่เลือกสถานที่ และในฐานะของลูกที่ต้องดูแลคุณพ่อคุณแม่ ฐานะพ่อที่ต้องดูแลลูก ๆ หากเกิดขึ้นกับคนที่ใกล้ชิดหรือคนในครอบครัว การมีพื้นฐาน และรู้หลักในการช่วยเหลืออย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และที่สำคัญไปกว่านั้น ในฐานะที่โรงพยาบาลพญาไท-เปาโล เป็นผู้ให้บริการดูแลสุขภาพ ซึ่งมีความพร้อมทั้งทีมแพทย์ พยาบาล จึงได้ริเริ่มโครงการ Phyathai Alarm Center ขึ้น โดยโครงการนี้เน้นให้ความรู้พื้นฐานการช่วยเหลือชีวิตและการปฐมพยาบาลได้อย่างถูกวิธี มากกว่าการรอคอยความช่วยเหลืออย่างเดียว โครงการนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากถ้าได้รับความรู้จากทีมที่มีประสบการณ์และมีความชำนาญ นพ.อนันตศักดิ์ อภัยรัตน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพญาไท 2 กล่าวว่า โรงพยาบาลพญาไท 2 เดินหน้าสู่ศูนย์กลางแห่งความเป็นเลิศด้านการรักษา (Center of Excellence) ที่พร้อมให้บริการในกลุ่มผู้ป่วยกลุ่มโรคหัวใจ โรคสมอง และผู้ป่วยที่ได้รับอุบัติเหตุรุนแรง โดยผู้ป่วยในกลุ่มดังกล่าวควรได้รับความช่วยเหลืออย่างถูกวิธี เพื่อให้มีชีวิตรอด จึงได้นำโครงการที่คุณอัฐ ทองแตง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล มาต่อยอดและในโอกาสครบรอบ 31 ปี จึงได้ร่วมกับบริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) พันธมิตรทางธุรกิจด้านการผลิตถุงมือยางทางการแพทย์ ร่วมเปิดโครงการ Alarm Center กู้ชีวิตฟื้นคืนชีพนำความรู้สู่ประชาชน" โดยให้ความรู้การช่วยฟื้นคืนชีพด้วยการปั๊มหัวใจ (CPR) ให้แก่ประชาชนและกลุ่มพันธมิตรทางธุรกิจของโรงพยาบาลฯและบริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน)การฝึกอบรมจะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลจากทีมแพทย์และพยาบาลที่ผ่านการรับรองมาตรฐานการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยประเทศสหรัฐอเมริกาหรือ CAMTS (The Commission on Accreditation of Meditation of Medical Transport System) ซึ่งเป็นมาตรฐานการเคลื่อนย้ายทางบกและทางอากาศ พลตำรวจตรี สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจท่องเที่ยวมีส่วนสำคัญที่ต้องดูแลประชาชนไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือชาวต่างชาติ นอกเหนือจากการดูแลให้ประชาชนปลอดภัยจากอาชญากรรม หรือสิ่งผิดกฎหมายแล้ว ในฐานะตำรวจท่องเที่ยวมีหน้าที่ให้บริการพี่น้องประชาชนในทั่วประเทศ และในพื้นที่ท่องเที่ยวที่มีความเสี่ยงด้านอุบัติเหตุ เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดต่าง ๆ ความรู้ขั้นพื้นฐานในการช่วยเหลือถือเป็นสิ่งสำคัญ วันนี้เราจึงได้นำตำรวจท่องเที่ยว จำนวน 45 นาย เข้ารับการอบรมหลักสูตรปั๊มหัวใจหรือ CPR และถือเป็นหน่วยงานนำร่องที่นำความรู้นี้ไปใช้ประโยชน์ได้จริง เพื่อดูแลทุกข์ สุขให้กับประชาชน และช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย สู่สายตาชาวโลก

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ