"ถอดบทเรียนทีมหมูป่า" รอดชีวิตถ้ำหลวง กรมสุขภาพจิตรับมือ "โรคขวัญผวา" ( พีทีเอสดี )

ข่าวทั่วไป Friday August 3, 2018 17:42 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 ส.ค.--Med Agency แม้ว่า 13 ชีวิตทีมหมูป่า รอดปลอดภัย แม้ว่าจะต้องประสบภัยในถ้ำยาวนานกว่า 10 วัน ทว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ ได้สะท้อนให้เห็นถึงบทเรียนต่อการจัดการ ซึ่งในอนาคตจะต้องมีมาตรปรับปรุงต่อไป นั่นก็คือ มีความไม่พร้อมในการรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดคิดของประเทศไทย รวมทั้งได้แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือต่างๆ ที่ยังไม่พร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีของหน่วยงานต่างๆ ก่อนการเกิดเหตุ ล่าสุด www.medhubnews.com เว็บไซต์สุขภาพ สาธารณสุข การท่องเที่ยว วาไรตี้ และ เพจ sasook รายงานว่า วันนี้ ( 3 สิงหาคม 2561) ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร ในงานประชุมวิชาการสุขภาพจิตนานาชาติครั้งที่ 17 ประจำปี 2561 กรมสุขภาพจิตได้จัดพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกรมสุขภาพจิต โดยนาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิตกับ ศาสตราจารย์นายแพทย์โยชิฮารุ คิม ประธานศูนย์ข้อมูลด้านความเครียดและสุขภาพจิตภัยพิบัติแห่งชาติประเทศญี่ปุ่นพัฒนาระบบบริการด้านสุขภาพจิตในภาวะภัยพิบัติ ซึ่งมีแนวโน้มเกิดถี่และรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะการปฐมพยาบาลทางใจ ( Psychological First Aid : PFA ) ใช้ดูแลให้กำลังใจขั้นต้นแก่ผู้ประสบภัยหรือรอดชีวิตจากเหตุภัยพิบัติทุกประเภทรวมทั้ง อุบัติเหตุ อัคคีภัย ความรุนแรงทางสังคม ซึ่งก่อให้เกิดความทุกข์ทรมานทั้งต่อบุคคล ครอบครัว ชุมชนและสังคมได้อย่างทันการเปิดกว้างให้บุคลากรทุกสาขาอาชีพและประชาชนทั่วไปได้เรียนรู้โดยไม่มีข้อจำกัดทางด้านเวลา สถานที่ ในหลักสูตรนี้จะมีทั้งความรู้เรื่องการปฐมพยาบาลทางใจ วิธีการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ผู้รอดชีวิตจากเหตุภัยพิบัติ เหยื่อความรุนแรงทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่เหมาะสมซึ่งมีหลักปฏิบัติง่ายๆเพียง 3 อย่าง จำง่ายๆคือ 3 ส.หรือ 3Lคือ สอดส่องมองหา( Look ) ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ ,ใส่ใจรับฟัง ( Listen )และส่งต่อเชื่อมโยง( Link ) ให้ได้รับการดูแลกรณีมีความเสี่ยงสูง เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประสบภัยฟื้นคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็ว ป้องกันผลกระทบระยะยาว โดยเฉพาะโรคเครียดภายหลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญ หรือ โรคพีทีเอสดี ( Post Traumatic Stress Disorder:PTSD )มักเกิดหลังเหตุการณ์รุนแรงประมาณ 6 สัปดาห์ รวมทั้งวิธีการดูแลใจของผู้ที่เป็นทีมกู้ชีพกู้ภัยอื่นๆ อาสาสมัครต่างๆ ที่อาจเกิดความเครียดสะสมจากการทำงานแข่งกับเวลาเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย ภายใต้ความเสี่ยงภัยตนเองและ 3. ร่วมกันพัฒนาและผลักดันนโยบายที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิตจากภัยพิบัติ เพื่อขยายผลใช้ในภูมิภาคเอเชียทุกประเทศและในระดับนานาชาติด้วย การดำเนินการดังกล่าวนี้กรมสุขภาพจิตได้มอบหมายให้ 4 หน่วยงานหลักคือ โรงพยาบาลจิตเวชสงขลาราชนครินทร์ ศูนย์สุขภาพจิตที่ 12 กองบริหารระบบบริการสุขภาพจิต และสำนักระบาดวิทยาสุขภาพจิต เป็นแกนหลักประสานทำงานร่วมกับคณะทำงานของญี่ปุ่น ในเบื้องต้นนี้จะทำหลักสูตรเป็น 2 ภาษาก่อนคือไทย และ มลายู เพื่อใช้ทั้งประเทศและในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนใต้ คาดว่าจะสามารถนำขึ้นเว็บไซต์ ในอีกไม่เกิน 6 เดือน จากนั้นจะมีการวิจัยประสิทธิภาพของหลักสูตรด้วย และในอนาคตจะเพิ่มอีก 4 ภาษาเพื่อให้ผู้ใช้แรงงานที่มาจากกัมพูชา เมียนมาร์ ลาว และเวียดนาม ที่มีนับล้านคน ได้เรียนรู้และเอาไปใช้ได้ด้วยหากเกิดสถานการณ์ สำหรับโรคพีทีเอสดีนั้น เป็นโรคทางจิตเวช ที่มีโอกาสพบได้มาก หากผู้รอดชีวิตทุกวัยไม่ได้รับการช่วยเหลือเยียวยา ดูแลจิตใจมาตั้งแต่ต้นหรือทันทีหลังเกิดเหตุ มีลักษณะอาการเด่นสำคัญ 3 อาการคือ หลอน –เร้า –หลบ กล่าวคือ มีภาพเก่าๆ ผุดในสมองอยู่เนืองๆ เมื่อได้ยินเสียงดังคล้ายเหตุการณ์ที่ประสบมาจะมีอาการใจสั่น กลัวและมักจะหลบหรือไม่กล้าที่จะไปตรงจุดที่เกิดเหตุคนเดียว อาการเหล่านี้จะรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันมากจนถึงขึ้นทำงาน เรียนหนังสือไม่ได้ ผลสำรวจล่าสุดในปี 2556 และปี 2559 ประเทศไทยพบอัตราเกิดในผู้ที่มีอายุ13 ปี ขึ้นไป เฉลี่ยร้อยละ 0.3 คาดว่าทั่วประเทศจะมีคนป่วยโรคนี้ประมาณ 170,000 คน ทั้งนี้ประเทศไทยได้นำการปฐมพยาบาลทางใจมาใช้ตั้งแต่พ.ศ. 2553 แต่ยังใช้ค่อนข้างวงจำกัดคือในกลุ่มบุคลากรทีมสุขภาพจิตเอ็มแคทหรือทีมเยียวยาใจและอสม.เชี่ยวชาญสุขภาพจิตชุมชน คาดว่าเมื่อขยายหลักสูตรเป็นแบบออนไลน์ให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงด้วย มั่นใจว่าจะลดปัญหาการเกิดโรคทางจิตเช่นโรคซึมเศร้า ฆ่าตัวตายหลังเกิดเหตุการณ์รุนแรงลงได้มาก และจะช่วยให้ผู้ประสบภัย ฟื้นตัวกลับสู่สภาวะปกติได้เร็วยิ่งขึ้น อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าว ทางด้านศาสตราจารย์นายแพทย์โยชิฮารุ คิม ประธานศูนย์ข้อมูลด้านความเครียดและสุขภาพจิตภัยพิบัติแห่งชาติประเทศญี่ปุ่นกล่าวว่า ขณะนี้ญี่ปุ่นได้พัฒนาบุคลากรในการปฐมพยาบาลทางใจช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติหลายระดับ เช่นระดับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ภาคประชาสังคม ประชาชน และตำรวจซึ่งเป็นผู้เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในระยะต้นหลังเกิดภัยพิบัติ จัดทำฐานข้อมูลผู้ผ่านการอบรมเพื่อเป็นเครือข่ายการทำงานในพื้นที่โดยได้จัดทำเป็นคู่มือการปฐมพยาบาลทางใจและทำสื่อการสอนเรื่องนี้ทางระบบออนไลน์คือ www.mhpss-Elearning.aecelight.jp เพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งในการให้ความรู้แก่ประชาชนที่ไม่สามารถไปเข้าร่วมการอบรมได้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ