SCN ปิดดีลเพิ่มสัดส่วนซื้อหุ้น GEP Thailand เป็น 49% ขึ้นแท่นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ออกหุ้น PP จำนวน 21.69 ล้านหุ้น ในราคา 4.50 บาท

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 17, 2018 11:41 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 ก.ย.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย SCN ปิดดีลเพิ่มสัดส่วนซื้อหุ้น GEP Thailand เป็น 49% ขึ้นแท่นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ออกหุ้น PP จำนวน 21.69 ล้านหุ้น ในราคา 4.50 บาท สูงกว่าราคาตลาดร่วมลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์หนึ่งในโครงการใหญ่ที่สุดในอาเซียนที่เมืองบินบู สร้างความมั่นคงของรายได้ (Recurring Income) จากการจำหน่ายไฟฟ้าตลอด 30 ปี 'บมจ.สแกน อินเตอร์' หรือ SCN ปิดดีลซื้อหุ้น GEP Thailand เพื่อร่วมลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มินบู ประเทศเมียนาร์ หนึ่งในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน กำลังการผลิตรวม 220 MW จากการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนขายแบบเฉพาะเจาะจง (PP) จำนวน21,695,286 หุ้น ในราคาจองซื้อ 4.50 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าราคาตลาด ให้แก่ Noble Planet และชำระเป็นเงินสดให้แก่ Planet Energy Holdings ดันสัดส่วน SCNถือหุ้นใน GEP Thailand เพิ่มเป็น 49% ส่งผลดีต่อ SCN ที่มีรับรู้รายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าจากโครงการดังกล่าวตลอดอายุ 30 ปี และสร้างความมั่นคงของรายได้Recurring Income ของ SCN ในระยะยาว หลังเริ่ม COD ในเฟสแรก 50 MW ภายใน ม.ค.62 ดร.ฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Dr. Littee Kitpipit Chief Executive Officer, Scan Inter Public Company Limited.) บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN ผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับก๊าซธรรมชาติแบบครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้บรรลุข้อตกลงในรายละเอียดการเข้าซื้อหุ้นในบริษัท GEP Thailand จำกัด เพิ่มเป็น 49% จากเดิมที่ SCN ถือหุ้นอยู่แล้วจำนวน 30% เพื่อร่วมลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เมืองมินบู ประเทศเมียนมาร์ ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้า 220 MW ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน โดย GEP Thailand เป็นบริษัทโฮลดิ้ง ที่ถือหุ้น 100% ในบริษัท GEP Myanmar จำกัด ผู้ได้รับสัมปทานจากรัฐบาลเมียนมาร์ให้เป็นผู้ดำเนินการพัฒนาและก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่เมืองมินบู ประเทศเมียนมาร์ และทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) กับ บริษัท Electric Power Generation Enterprise จำกัด (EPGE) ระยะเวลาทั้งสิ้น 30 ปี นับตั้งแต่วันที่เริ่มดำเนินการจ่ายไฟฟ้า สำหรับรายละเอียดการเข้าลงทุนเพิ่มเติมอีก 19% จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน โดยในส่วนแรก บริษัทฯ จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อเสนอให้แก่บุคคลในวงจำกัด (PP)จำนวน 21,695,286 หุ้น ในราคา 4.50 บาท เพื่อจัดสรรให้แก่ Noble Planet เพื่อชำระเป็นค่าหุ้น GEP Thailand จำนวน 12.37% ของทุนจดทะเบียน ส่วนหุ้นสามัญที่เหลือของ GEP Thailand อีก 6.63% ของทุนจดทะเบียนนั้น จะชำระเป็นเงินสดให้แก่ Planet Energy Holding ซึ่งเป็นบริษัทที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์และเป็นผู้ถือหุ้นดั้งเดิมในบริษัท GEP Thailand เพื่อให้ SCN ถือหุ้นครบ 49% ใน GEP Thailand ตามที่กำหนด ทั้งนี้ การที่ Noble Planet เข้ามาซื้อหุ้นใน SCN ในราคาที่สูงกว่าตลาดนั้น สะท้อนถึงความมั่นใจในศักยภาพการดำเนินงานของ SCN ที่แข็งแกร่ง และเชื่อมั่นต่อการผลักดันการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เมืองมินบูให้ประสบความสำเร็จได้ตามแผนที่วางไว้ และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนในระยะยาวอีกด้วย "การเข้าลงทุนของ SCN ในครั้งนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการเข้าร่วมลงทุนดำเนินโครงการดังกล่าว เนื่องจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เป็นโครงการที่มีศักยภาพที่ดีมาก และสอดคล้องกับกลยุทธ์ที่ต้องการขยายฐานธุรกิจจากพลังงานก๊าซธรรมชาติไปสู่พลังงานทดแทนประเภทอื่นๆ รวมถึงยังเป็นการสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจในอนาคตจากการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับกลุ่มที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ไปยังประเทศใหม่ๆ ในภูมิภาคนี้เพิ่มเติมในอนาคต" ดร.ฤทธี กล่าว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCN กล่าวว่า บริษัทฯ ประเมินว่าการเข้าลงทุนเพื่อร่วมดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เมืองมินบู ในครั้งนี้จะสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) เฉลี่ยอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 10% ต่อปี นอกจากนี้โครงการดังกล่าวยังเป็นการสนับสนุนผลการดำเนินงานในระยะยาวของ SCN ให้เติบโตได้อย่างมั่นคงจากการสร้างรายได้ประจำและสม่ำเสมอในระยะยาว (Recurring Income) ที่มาจากการรับรู้รายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์เข้าสู่ระบบ (COD) ของโครงการโรงไฟฟ้าดังกล่าวตลอดอายุ 30 ปี ซึ่งในเฟสแรกบริษัทฯ คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการ COD จำนวน 50 MW ในเดือนมกราคม 2562 นี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ