กรุงเทพฯ--11 ต.ค.--ไอแอมพีอาร์
ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว คือมีผู้สูงอายุ 1 ใน 5 ของประชากร การจะเป็นผู้สูงอายุที่มีสุขภาวะที่ดีไม่ต้องเผชิญกับโรคภัยและความเจ็บป่วย จำเป็นต้องเตรียมความพร้อมในทุกด้าน
ชมรมผู้สูงอายุบ้านวังเจริญ หมู่ 6 ตำบลบางกุ้ง อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง เพิ่งเริ่มรวมตัวเป็นชมรมเมื่อปีก่อน แม้ว่าจะมีชมรมผู้สูงอายุระดับตำบลอยู่แล้ว แต่การทำกิจกรรมร่วมกันในกลุ่มเล็กๆ มีความสะดวกกับผู้สูงอายุและใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายในการดำเนินกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพของผู้สูงอายุทางด้านร่างกาย จิตใจและสังคม ไม่ปล่อยให้ผู้สูงอายุต้องว้าเหว่ในช่วงบั้นปลายชีวิต จึงร่วมกันดำเนิน โครงการ "การสร้างเสริมสุขภาพผู้สูงอายุในชุมชนบ้านวังเจริญ" โดยได้รับการสนับสนุนจาก สำนักสร้างสรรค์โอกาสและนวัตกรรม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
ประพิศ อินทร์คง ประธานชมรมผู้สูงอายุบ้านวังเจริญ เล่าว่ากิจกรรมที่ชมรมผู้สูงอายุแห่งนี้กำลังดำเนินการคือ ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุได้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและมีความเหมาะสมกับวัย แม้ว่าการรวมกลุ่มออกกำลังกายเคยดำเนินมาแล้วแต่ระยะหลังได้หายไปเพราะขาดแกนนำ สมาชิกทุกคนจึงกลับมาคุยกันใหม่มีความเห็นตรงกันว่าควรกลับมาทำกิจกรรมออกกำลังกายร่วมกันอีกครั้ง ส่วนกิจกรรมการไปทำบุญที่วัดซึ่งบางครั้งผู้สูงอายุต้องพึ่งพาลูกหลานหรือคนอื่นให้ไปส่งที่วัด ก็มาคิดแก้ปัญหาอาจมีบริการรับส่งผู้สูงอายุไปวัด ให้เยาวชนลูกหลานมีส่วนร่วม ชักชวนผู้ที่จะมีอายุเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุได้เตรียมความพร้อมมีส่วนร่วมช่วยเหลือกิจกรรมของชมรมผู้สูงอายุมากขึ้น
"หมู่บ้านนี้มีผู้สูงอาย 102 คน เดิมก็เคยจัดกิจกรรมออกกำลังกายร่วมกัน แต่ตอนหลังหายไป เพราะขาดแกนนำ ผู้สูงอายุรุ่นใหม่ๆที่เพิ่งอายุ 60 กว่าปีก็ยังทำงานกันอยู่ เลยเข้าร่วมกิจกรรมกันน้อย" ประธานชมรมผู้สูงอายุบ้านวังเจริญ เล่าเหตุผลที่มีผู้เข้าร่วมน้อยจนต้องเลิกไป
ทางด้าน ปลั่ง กิตติกุณ ที่ปรึกษาชมรมผู้สูงอายุ เล่าเสริมว่ากิจกรรมหลักของสมาชิกชมรมผู้สูงอายุคือการออกกำลังกาย มีการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุเช่น การจัดรดน้ำขอพรช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยจัดขึ้นที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านเหนือคลอง ในพื้นที่หมู่ที่ 6 บ้านวังเจริญ ซึ่งเคยจัดกิจกรรมสันทนาการให้ผู้สูงอายุได้มีส่วนร่วม เช่น การออกกำลังกายด้วยไม้พลองบ้าง สัปดาห์ละ 3 วัน ช่วงหลังกลุ่มนี้ได้เข้าไปเป็นสมาชิกของชมรมผู้สูงอายุของตำบลแทนจึงทำให้กิจกรรมส่วนนี้หายไป อย่างไรก็ตามเมื่อได้กลับมาพูดคุยถึงทิศทางและเป้าหมายของการทำงาน ก็จะกำหนดจัดกิจกรรมให้ผู้สูงอายุกลับมาร่วมกันออกกำลังกายอีกครั้ง
ทางด้าน ราตรี วรรณบวร ผู้อำนวยการ รพ.สต.บ้านเหนือคลอง ในฐานะผู้ให้บริการด้านสุขภาพก็ได้ให้คำแนะนำกับชาวบ้านในชุมชนในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ตามหลัก 3 อ. 2 ส. ได้แก่ อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์ และ 2 ส. ไม่สูบบุหรี่ เลี่ยงการดื่มสุรา อีกทั้งยังส่งเสริมให้ปลูกผักกินเอง ซึ่งใช้ได้กับทุกกลุ่มอายุ ส่วนผู้สูงอายุก็จะส่งเสริมด้านอารมณ์ จัดกิจกรรมนันทนาการ เช่น การร้องเพลง รวมทั้งจะหาวิธีการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุมาให้ออกกำลังกายกัน
"ที่วางแผนไว้ตอนแรกจะประชุมให้ความรู้เทคนิคการอออกกำลังกายกับผู้สูงอายุทั้งหมด การออกกำลังกายที่เหมาะสมน่าจะเป็นการใช้ยางยืด หรือไม้พลอง แกว่งแขน ยืดหยุ่นกล้ามเนื้อ ถ้ารวมตัวกันได้ก็จะมีการเต้นบาสโลบ เพราะจะสามารถไปร่วมกิจกรรมกับที่อื่นได้" ผู้อำนวยการ รพ.สต.บ้านเหนือคลอง กล่าว
ขณะที่ วิสุทธิ์ คงสุดรู้ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 บ้านวังเจริญ ในฐานะผู้นำของชุมชนกล่าวว่ากิจกรรมของฝ่ายปกครองที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุที่ทำกันอยู่ประจำก็คือการปีเยี่ยมเยียนให้กำลังใจอยู่เป็นระยะ ต่อไปจะเชิญชวนให้ผู้สูงอายุมาร่วมกิจกรรมมากขึ้น และจะสนับสนุนให้ผู้ที่มีอายุ 50 ปี ขึ้นไป เข้ามาเป็นสมาชิกสมทบเตรียมความพร้อมเพื่อเป็นผู้สูงอายุที่มีสุขภาพดี และมีส่วนช่วยเหลือในการทำกิจกรรมของผู้สูงอายุด้วย
กิจกรรมต่างๆ สร้างเสริมสุขภาพดีให้กับผู้สูงอายุในชุมชนบ้านวังเจริญกำลังฟื้นคืนกลับมาอีกครั้ง หลังจากมีการพูดคุยถึงทิศทางของการทำงานร่วมกัน โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาให้ชุมชนบ้านวังเจริญเป็นชุมชนสุขภาวะที่ผู้สูงวัยสามารถใช้ชีวิตในวัยหลังเกษียณได้อย่างมีความสุขในชุมชนแห่งนี้.