สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 12 ตุลาคม 2561

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 12, 2018 17:42 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 ต.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส สภาวะตลาดวันที่ 12 ตุลาคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,215.50-1,224.16 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,850 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 150 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,700 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV18 อยู่ที่ 18,960 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 190 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,770 บาท (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.50 น. ของวันที่ 12/10/61) แนวโน้มวันที่ 16 ตุลาคม 2561 แม้ว่าสกุลเงินของประเทศในเอเชียส่วนใหญ่แข็งแกร่งขึ้น แต่ความวิตกเกี่ยวกับสงครามการค้ากับสหรัฐ ได้กดดันสกุลเงินหยวนของจีนให้อ่อนค่าลง ขณะที่นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐ ได้ออกมาเตือนจีนเกี่ยวกับการที่เงินหยวนอ่อนค่าลงซึ่งทำให้จีนมีข้อได้เปรียบด้านการค้า อย่างไรก็ตามด้านสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เจ้าหน้าที่ของกระทรวงการคลังสหรัฐได้แจ้งต่อนายมนูชินว่าจีนไม่ได้ปั่นค่าหยวน แต่รายงานยังคงรวมจีนไว้ในรายชื่อที่ต้องจับตามอง โดยข้อมูลดังกล่าวจะระบุไว้ในรายงานค่าเงินรายครึ่งปีเกี่ยวกับการปฏิบัติด้านอัตราแลกเปลี่ยนของกระทรวงการคลังสหรัฐ ซึ่งรายงานดังกล่าวจะมีกำหนดเผยแพร่ในสัปดาห์หน้า กระตุ้นความวิตกที่ว่าความรุนแรงในสงครามการค้าจีน-สหรัฐจะดำเนินต่อไป อาจกลับมาเป็นปัจจัยหนุนดอลลาร์และกดดันราคาทองคำ ทั้งนี้สำนักงานศุลกากรจีนเปิดเผยตัวเลขอย่างเป็นทางการพบว่าในเดือนกันยายนที่ผ่านมารส่งออกของจีนไปยังสหรัฐเพิ่มขึ้นอีกเป็น 46,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่การนำเข้าลดลงเหลือ 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้จีนเกินดุลการค้ากับสหรัฐมากขึ้นเป็น 34,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนับเป็นสถิติใหม่ ขณะที่นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ เปิดเผยว่า สหรัฐอาจกดดันญี่ปุ่นและสหภาพยุโรป(EU) ไม่ให้ทำข้อตกลงการค้ากับจีน นอกจากนี้โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนระบุว่า นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่นจะเดินทางเยือนจีนระหว่างวันที่ 25-27 ต.ค. ท่ามกลางแรงกดดันทางการค้าที่รุนแรงขึ้นของสหรัฐต่อจีนและญี่ปุ่น ความเสี่ยงเกี่ยวกับสงครามการค้าที่ดำเนินต่อไปยังคงกดดันราคาทองคำ เนื่องจากค่าเงินหยวนร่วงลงจากความกังวลที่เพิ่มขึ้น ว่าผลกระทบทางเศรษฐกิจของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะทวีความรุนแรงขึ้น ซึ่งได้สร้างแรงขายเข้าสู่ตลาดทองคำ สำหรับมุมมองประเมินว่าราคาทองคำมีแนวต้านบริเวณ 1,227-1,235 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ นักลงทุนต้องระมัดระวังแรงขายออกมา โดยราคาอาจอ่อนตัวลงเพื่อสะสมกำลังอีกครั้ง ทั้งนี้ประเมินแนวรับบริเวณ 1,214-1,208 ดอลลาร์ต่อออนซ์ กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ให้รอเข้าซื้อหากราคาย่อตัวลงมาและไม่หลุดบริเวณแนวรับ ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,214 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,208 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำยังมีโอกาสทดสอบแนวต้านที่ 1,227 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,235 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับการทำกำไร ให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าราคาทองคำสามารถทะลุผ่านแนวต้าน และรักษาระดับยืนเหนือกรอบราคาได้ แนะนำนักลงทุนที่ถือทองคำอยู่ให้ถือต่อไป ซึ่งราคาทองคำน่าจะสามารถขยับตัวขึ้นต่อไปได้ และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถทำการเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้นเช่นเดิม ทองคำแท่ง (96.50%) แนวรับ 1,214 (18,750บาท) 1,208 (18,650บาท) 1,197 (18,500บาท) แนวต้าน 1,227 (19,000บาท) 1,235 (19,100บาท) 1,246 (19,300บาท) GOLD FUTURES (GFV18) แนวรับ 1,214 (18,910บาท) 1,208 (18,820บาท) 1,197 (18,650บาท) แนวต้าน 1,227 (19,120บาท) 1,235 (19,240บาท) 1,246 (19,410บาท) หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ