ธนาคารทหารไทย คาดว่า ไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวในอัตราร้อยละ 3.4

ข่าวทั่วไป Thursday September 1, 2005 13:58 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 ก.ย.--ธนาคารทหารไทย
นางรัตนา เล็งศิริวัฒน์ เจ้าหน้าที่บริหารงานวิจัย ธนาคารทหารไทย กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ยังคงได้รับปัจจัยลบต่างๆ โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาน้ำมันดิบดูไบ ปรับตัวสูงขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 43.9 ทำให้มูลค่าการนำเข้า ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 33.7 เนื่องจากการนำเข้าน้ำมันดิบคิดเป็นสัดส่วนประมาณ ร้อยละ 14.7 ของมูลค่าการนำเข้ารวม ส่งผลให้ดุลการค้าขาดดุลสูงถึง 5.2 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ประกอบกับการท่องเที่ยวฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด ดุลบัญชีเดินสะพัดจึงขาดดุลสูงถึง 4.7 พันล้านดอลลาร์ สรอ.เทียบกับการขาดดุล 1.5 พันล้านดอลลาร์ สรอ.ในไตรมาสแรก
ขณะที่ รายได้ของเกษตรกรเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อน สูงถึงร้อยละ 11.1 ซึ่งเป็นผลจากราคาสินค้าเกษตรที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.3 แม้ว่าผลผลิตจะลดลง ร้อยละ 6.1 ตามการลดลงของผลผลิตพืชผลสำคัญที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง แต่รายได้ที่เพิ่มขึ้นได้ช่วยเพิ่มอำนาจซื้อให้ผู้บริโภคได้ระดับหนึ่ง สอดคล้องกับดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนที่ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสแรกเล็กน้อย สำหรับการลงทุนภาคเอกชนในไตรมาสที่ 2 ดัชนีการลงทุนภาคเอกชนได้ชะลอลงเหลือร้อยละ 9.8 จากร้อยละ 10.8 ในไตรมาสแรก ตามการชะลอตัวของการลงทุนในหมวดก่อสร้าง เนื่องจากมีการขยายตัวสูงมากในช่วงก่อนหน้า รวมทั้งผู้ประกอบการเริ่มมีความกังวลต่อต้นทุนการผลิต และยอดคำสั่งซื้อที่มีแนวโน้มชะลอลงจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในทิศทางขาขึ้น
อย่างไรก็ดี หากพิจารณาในด้านภาคการผลิต ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในไตรมาสที่ 2 ได้เร่งตัวขึ้นมากโดยขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนถึงร้อยละ 7.8 เทียบกับไตรมาสแรกที่ขยายตัวเพียงร้อยละ 3.8 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการผลิตเพื่อการส่งออกทั้งหมวดอิเล็กทรอนิกส์และหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าปรับตัวดีขึ้นตามความต้องการจากต่างประเทศ และหมวดอาหารปรับตัวดีขึ้นเพราะปัญหาวัตถุดิบคลี่คลายลง ภาวะเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 2 อาจจะขยายตัวได้ดีขึ้นกว่าไตรมาสแรกเล็กน้อยในอัตราร้อยละ 3.4 ในช่วงครึ่งหลังของปีเศรษฐกิจจะขยายตัวดีกว่าครึ่งแรกของปีเล็กน้อย เนื่องจากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดประมาณ 2.7 พันล้านดอลลาร์ สรอ. จากการปรับตัวดีขึ้นของการส่งออกและการชะลอลงของการนำเข้าจากการใช้น้ำมันอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะการยกเลิกการชดเชยราคาน้ำมันในประเทศและการสะสมสต็อกไว้ค่อนข้างมากแล้วในช่วงครึ่งแรกของปี ประกอบกับการเร่งการใช้จ่ายของภาครัฐก็จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังของปี แต่จากแนวโน้มราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับสูง ทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่จะปรับตัวสูงขึ้น จะทำให้ความต้องการในประเทศขยายตัวได้ไม่สูงนัก ดังนั้น งานวิจัย ธนาคารทหารไทย จึงยังคงประมาณการภาวะเศรษฐกิจไทยในปี 2548 ไว้ที่ร้อยละ 3.4
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
งานสื่อสารองค์กร
โทร. 0-2242 3258, 0-2242 3260--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ