สคร.10 อุบลฯ เตือนระวัง! เจ็บ-ตายจากพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ ช่วงออกพรรษา

ข่าวทั่วไป Monday October 22, 2018 15:34 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--22 ต.ค.--สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 จ.อุบลราชธานี นพ.ดนัย เจียรกูล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 จ.อุบลราชธานี (สคร.10) เปิดเผยว่าในช่วงเทศกาลออกพรรษาของทุกปี มักจะมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการเล่นประทัด พลุ ดอกไม้ไฟ จำนวนมาก จากการสำรวจพบเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี มักจะได้รับอันตรายจากการเล่นประทัดมากที่สุด เนื่องจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำให้มีโอกาสได้รับบาดเจ็บรุนแรงเพราะไม่ทราบถึงความร้ายแรงของแรงอัดประทัดที่นำมาเล่น จึงขอเตือนผู้ปกครองให้ดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด มิควรให้เด็กนำประทัดไปดัดแปลงให้มีแรงระเบิดหรือแรงอัดเสียงดัง หรือจุดในภาชนะ ขวดแก้ว และโลหะ เพราะสะเก็ดไฟจากพลุหรือเศษภาชนะที่แตกกระจาย อาจกระเด็นใส่ร่างกาย ทำให้ได้รับบาดเจ็บถึงขั้นพิการและเสียชีวิต และไม่ควรจุดพลุใกล้แนวสายไฟ อาคารบ้านเรือน สถานบริการน้ำมันเชื้อเพลิง ถังเชื้อเพลิง วัตถุไวไฟหรือบริเวณที่ลมพัดแรงอย่างเด็ดขาด หากจะเล่นให้เลือกซื้อประทัด ดอกไม้ไฟที่มีแรงอัดน้อย พร้อมทั้งระหว่างเล่นต้องอยู่ในความดูแลของผู้ปกครองอย่างใกล้ชิด ควรจุดในที่โล่งแจ้ง ไม่มีวัสดุติดไฟง่าย เพื่อป้องกันการเกิดเพลิงไหม้ หลังจากจุดพลุ ดอกไม้ไฟแล้ว ห้ามโยนใส่กลุ่มคน ห้ามยื่นหน้าหรืออวัยวะส่วนใดของร่างกายเข้าใกล้พลุ ดอกไม้ไฟ รวมทั้งการเล่นที่ผิดประเภท โดยการดัดแปลงให้มีแรงระเบิดหรือแรงอัดเสียงดัง เช่น ไปจุดในกระป๋อง ท่อพีวีซี ขวดแก้ว ขวดกระเบื้อง ขวดน้ำยาทาเล็บ หรือภาชนะอื่นๆ เพราะนอกจากจะทำให้เกิดแรงอัดอย่างรุนแรง มีเสียงดังผิดปกติแล้วยัง ก่อให้เกิดอันตรายต่อแก้วหูและนัยน์ตา สะเก็ดไฟจากพลุหรือเศษภาชนะที่แตกกระจายกระเด็นใส่ร่างกาย ทำให้ได้รับบาดเจ็บถึงขั้นพิการหรือเสียชีวิตได้ จึงขอย้ำให้ผู้ปกครองดูแลเด็กๆอย่างใกล้ชิด ไม่ควรทิ้งให้เด็กๆเล่นโดยไม่มีผู้ใหญ่คอยดูแล

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ