อาหารกลางวันในโรงเรียนสามารถส่งเสริมรูปแบบชีวิตที่มีสุขภาพดีของเด็ก ๆ ได้

ข่าวทั่วไป Monday October 29, 2018 17:44 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 ต.ค.--เฟลชแมน ฮิลลาร์ด - อาหารกลางวันในโรงเรียนสามารถส่งเสริมรูปแบบชีวิตที่มีสุขภาพดีของเด็ก ๆ ได้ - Ajinomoto Vietnam Co., Ltd ("บริษัท Ajinomoto เวียดนาม") ดำเนินโครงการอาหารกลางวันผ่านช่องทางอื่นๆ อย่างเช่น ซอฟท์แวร์ - เป้าหมายสำคัญครั้งถัดไปสำหรับโครงการอาหารกลางวันในประเทศในเอเชีย ในปัจจุบัน เป็นที่ทราบกันอย่างกว้างขวางว่าอาหารกลางวันในโรงเรียนนั้น สามารถช่วยส่งเสริมสุขภาพของเด็กวัยเรียน ในประเทศโลกตะวันตก ผู้คนตระหนักดีถึงความสำคัญของการเลือกอาหารเพื่อสุขภาพสำหรับนักเรียน ยกตัวอย่างเช่นในฝรั่งเศส อาหารกลางวันเป็นอาหารมื้อใหญ่ที่สุดของวัน เราจะพบว่าโรงเรียนต่าง ๆ ให้ความสำคัญอย่างมากกับอาหารกลางวัน (Dejeuner) ในเอเชียก็เช่นกัน โรงเรียนจำนวนมากจัดให้มีอาหารกลางวันสำหรับนักเรียนของตน อาหารกลางวันได้รับความนิยมอย่างมากเนื่องจากทำให้ผู้ปกครองที่บ้านไม่ต้องเตรียมอาหารกลางวันให้ลูกหลานของตน ในประเทศเวียดนาม อาหารกลางวันที่โรงเรียนก็ได้รับความนิยมอย่างมากเช่นกัน เนื่องจากผู้ปกครองส่วนใหญ่ต้องทำงาน ทว่าอาหารกลางวันในเวียดนามก็ยังไม่ถือว่าเป็นอาหารที่มีสารอาหารครบคุณค่าทางโภชนาการ และโรงเรียนเองก็ไม่มีนักโภชนาการที่ช่วยกำหนดเมนูอาหารที่เหมาะสมให้แก่นักเรียน เมื่อตระหนักถึงข้อเท็จจริงนี้ บริษัท Ajinomoto เวียดนาม จึงริเริ่มโครงการที่จะจัดส่งเมนูอาหารให้กับโรงเรียนต่าง ๆ ที่นักเรียนประสบกับปัญหาภาวะขาดสารอาหารเนื่องจากขาดบุคลากรด้านโภชนาการและความรู้ด้านวิทยาศาสตร์โภชนาการ โดย Ajinomoto Co., Inc. ("บริษัท Ajinomoto") ในประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบริษัท Ajinomoto เวียดนาม เป็นผู้ซึ่งที่มีประวัติอันยาวนานด้านธุรกิจอาหาร และบริษัท Ajinomoto ยังมีความสัมพันธ์อันดีกับนักโภชนาการอยู่แล้ว ทั้งยังมากประสบการณ์ในเรื่องการส่งมอบเมนูอาหารให้กับโรงพยาบาลและแหล่งบริการอาหารหลายแห่ง Hiroharu Motohashi ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไปคนปัจจุบันของแผนกผลิตภัณฑ์อาหารที่บริษัท Ajinomoto กล่าวว่า "จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สำหรับอาหารกลางวันของนักเรียนในเวียดนาม เนื่องจากอาหารกลางวันสำหรับเด็ก ๆ ในเวียดนามขาดความสมดุลของสารอาหาร เราพบว่าอาหารมีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายไม่เพียงพอ มีการบริโภคคาร์โบไฮเดรตเป็นจำนวนมาก ไขมัน คาร์โบไฮเดรต และโปรตีนในอาหารต้องมีความสมดุลและมีสัดส่วนที่พอเหมาะ โดยเฉพาะสำหรับเด็ก ๆ" เด็ก ๆ กำลังเพลิดเพลินกับอาหารกลางวันที่มีสารอาหารสมดุล บริษัท Ajinomoto ได้เชิญผู้ที่มีความรับผิดชอบเรื่องนี้จากเวียดนามให้เดินทางมายังประเทศญี่ปุ่น และได้แนะนำให้รู้จักกับระบบอาหารกลางวันในโรงเรียนของญี่ปุ่นที่มีมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2483 ระบบดังกล่าวเป็นที่รู้จักว่าสามารถพัฒนาสุขภาพโดยรวมของเด็ก ๆ ในญี่ปุ่นหลังสงครามได้ หนึ่งในมุมมองด้านการศึกษาที่สำคัญที่สุดสำหรับการมาเยือนของบุคลากรจากเวียดนามนี้คือ ระบบการจัดการอาหารที่มีสารอาหารสมดุล หน่ายงานผู้รับผิดชอบของเวียดนามและบริษัท Ajinomoto เวียดนามได้เริ่มโครงการอาหารกลางวันในปี พ.ศ. 2555 ที่กรุงโฮจิมินห์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของเวียดนาม โดยมีโรงเรียนระดับประถมศึกษาจำนวน 213 แห่งเข้าร่วมในโครงการ บริษัท Ajinomoto เวียดนามได้จัดทำแผนการอาหารกลางวันที่มีเมนูไม่ซ้ำกัน 40 วัน และให้คำแนะนำแก่แม่ครัว สำหรับวิธีการลดเวลาในการปรุงอาหาร ในปี พ.ศ. 2558 มีการขยายโครงการได้สำเร็จ ตั้งแต่โครงการเริ่มต้นในปี 2555 มีเมืองอื่น ๆ ได้เข้าร่วมโครงการด้วย ไม่ว่าจะเป็น: เมืองดานัง (ปี 2556) เมืองไฮฟอง (ปี 2557) และกรุงฮานอย (ปี 2558) เด็ก ๆ กำลังเรียนรู้เกี่ยวกับสารอาหารที่โรงเรียน Motohashi กล่าวว่า "ถึงเวลาแล้วที่จะเริ่มต้นใหม่" Motohashi เป็นอดีตกรรมการทั่วไปของบริษัท Ajinomoto เวียดนาม ที่มีบทบาทสำคัญ "เราได้จัดทำซอฟท์แวร์ที่ครูอาจารย์ในโรงเรียนสามารถใช้เพื่อพัฒนาเมนูอาหารประจำวันได้จากคอมพิวเตอร์ที่โรงเรียน พ่อครัวและแม่ครัวสามารถปรุงอาหารตามเมนูดังกล่าวได้" ครูอาจารย์ในโรงเรียนเลือกเมนูอาหารประจำวันผ่านซอฟท์แวร์ดังกล่าว มีเมนูกว่า 120 ชุดที่มาพร้อมกับอาหารกว่า 360 ชนิดที่ไม่ซ้ำกันให้เลือก ซึ่งอาหารทั้งหมดนี้มีความหลากหลาย รสชาติอร่อย และมีสารอาหารที่สมดุล โรงเรียนต่าง ๆ สามารถพัฒนาเมนูของตนเองได้โดยการเลือกชุดเมนูเหล่านั้น หรือโดยการรวมอาหารแต่ละชนิดเข้าด้วยกันเพื่อสร้างสรรค์เมนูชุดใหม่ ซอฟท์แวร์ดังกล่าวเป็นเหมือนเครื่องคิดเลขที่คุณสามารถตรวจสอบอัตราส่วนของโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต รวมถึงปริมาณพลังงานและเกลือที่ร่างกายได้รับได้ ซอฟท์แวร์จะบอกถึงปริมาณส่วนประกอบอาหารที่เหมาะสมตามจำนวนนักเรียน โรงเรียนในเวียดนามไม่น้อยกว่า 2,900 แห่งเข้าร่วมโปรแกรมนี้ "ผมได้พบกับผู้มีอำนาจรับผิดชอบงานนี้ที่ต้องการใช้ซอฟท์แวร์นี้ปรุงอาหารในบ้านของตนเอง ซึ่งนั่นเป็นเหมือนการที่เราได้เปิดประตูสู่ยุคใหม่" โครงการนี้มอบโอกาสมากมายให้กับ Ajinomoto เวียดนาม เช่น การจัดตั้งเว็บไซต์สำหรับการปรุงอาหารที่บ้านที่ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบเมนูอาหารได้ทุกวัน ยิ่งไปกว่านั้น Motohashi ยังกล่าวว่า "คุณสามารถคำนวณความสมดุลของสารอาหารและสร้างสูตรอาหารเฉพาะสำหรับครอบครัวของคุณเองได้" และกล่าวต่อไปว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ ผู้ใช้งานซอฟท์แวร์จะสามารถสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ผ่านทางเว็บไซต์ได้เพียงคลิกเดียว Motohashi กล่าวสรุปว่า "ผมคิดว่าแนวคิดนี้จะเป็นหนึ่งในแนวทางปฏิบัติที่ดีเมื่อประเทศในเอเชียเข้าร่วมแก้ปัญหาและพัฒนาภาวะทางโภชนาการของอาหารกลางวันในโรงเรียน บริษัท Ajinomoto (ประเทศไทย) จำกัด ได้เริ่มการพัฒนาปรับปรุงอาหารกลางวันในโรงเรียนแล้ว โดยที่รัฐบาลใช้แผนพัฒนาต่าง ๆ และประเทศอื่น ๆ ในเอเชียเองเริ่มพิจารณาถึงการปรุงอาหารกลางวันในโรงเรียนให้ดีขึ้นเช่นกัน เป็นไปได้ว่าเราอาจสามารถขยายโปรแกรมนี้ไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ได้ เช่น ในสหรัฐอเมริกาและยุโรป" เกี่ยวกับบริษัท Ajinomoto Co., Inc. บริษัท Ajinomoto เป็นผู้ผลิตเครื่องปรุง อาหารแปรรูป เครื่องดื่มคุณภาพสูง รวมถึงผลิตภัณฑ์กรดอะมิโน ยารักษาโรค และสารเคมีคุณลักษณะพิเศษ เป็นเวลาหลายปีแล้วที่บริษัท Ajinomoto ได้สนับสนุนวัฒนธรรมด้านอาหารและสุขภาพมนุษย์ผ่านการใช้เทคโนโลยีกรดอะมิโนอย่างกว้างขวาง ปัจจุบันบริษัทได้มีความเกี่ยวโยงเพิ่มขึ้นกับแนวทางเพื่อการพัฒนาแหล่งทรัพยากรอาหาร สุขภาพมนุษย์ และความยั่งยืนสากล บริษัทก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2452 และตอนนี้ดำเนินกิจการใน35 ประเทศและภูมิภาค บริษัท Ajinomoto มียอดขายสุทธิในปีงบประมาณ 2559 จำนวน 1,150.2 พันล้านเยน (10,360 ดอลล่าร์สหรัฐ) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัท Ajinomoto (TYO: 2802), กรุณาเยี่ยมชมที่ www.ajinomoto.com.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ