ได้เวลา...การศึกษาต้องปฏิรูป! “depa” ร่วมสานพลังขับเคลื่อนครู...สู่ยุคดิจิทัล ผ่านงาน EDUCA 2018

ข่าวทั่วไป Tuesday October 30, 2018 15:00 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--30 ต.ค.--อเกต คอมมิวนิเคชั่น หมดยุคแล้วกับการเรียนการสอนแบบ "Teacher Centered" หรือ การสอนแบบที่ใช้ครูเป็นศูนย์กลาง ด้วยเพราะโลกในยุคปัจจุบันเป็นโลกของดิจิทัล (Digital) การเรียนรู้และการเข้าถึงแหล่งข้อมูลเป็นเรื่องง่าย ทำให้ครูต้องเปลี่ยนบทบาทจาก "ผู้สอน" มาเป็น "โค้ช" คือมีหน้าที่เพียงแค่ช่วยชี้แนะแนวทาง เพื่อให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ และบางครั้งอาจจะต้องเป็นผู้ร่วมเรียนรู้ไปพร้อมกับผู้เรียนด้วย ดังนั้นครูในยุคนี้จึงต้องมีความพร้อมให้ทันต่อ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดยหนึ่งในหน่วยงานที่เข้ามาสนับสนุนเรื่องของการพัฒนาบุคลากรสำคัญของประเทศอย่าง "ครู"ให้มีความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัลก็คือ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ที่ล่าสุดได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของงาน EDUCA 2018 หรือ งานมหกรรมทางการศึกษาเพื่อพัฒนาวิชาชีพครู ที่จัดโดย บริษัท ปิโก (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ด้วยมุ่งหวังให้งานนี้เป็นเวทีการเรียนรู้และการพัฒนาวิชาชีพครู ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 11 ภายใต้แนวคิด "Value of Teachers" หรือ "คุณค่าของครู" ดร.รัฐศาสตร์ กรสูต รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) กล่าวว่า เรื่องของดิจิทัลได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราไปแล้ว นับตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอน และจะยิ่งทวีความสำคัญเพิ่มมากขึ้น ในอนาคต ตามการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย เด็กรุ่นใหม่จะเกิดและเติบโตมาพร้อมเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทำให้ทุกคนบนโลกสามารถเรียนรู้และเข้าถึงแหล่งข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ในส่วนของภาคการศึกษาซึ่งถือได้ว่าเป็นระบบรากฐานของการพัฒนาประเทศก็มีการนำเรื่องดิจิทัลเข้ามาสู่ระบบมากขึ้น ตอนนี้ทั้งโลกพูดถึงแต่เรื่องของ Digital Integrated Curriculum โดยนำดิจิทัลมาเป็นสื่อกลางในการเรียนการสอน ช่วยเป็นสื่อกลางในการนำเนื้อหาความรู้สู่กลุ่มที่เข้าถึงได้ยาก เช่น โรงเรียนในชนบท ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษาได้อย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในทุกมิติ depa ในฐานะองค์กรที่ให้การส่งเสริมและนำไทยสู่เศรษฐกิจดิจิทัล มองว่าการที่ประเทศจะก้าวสู่การเป็นเศรษฐกิจดิจิทัลได้นั้น พื้นฐานของคนด้านการศึกษาต้องมีความเข้มแข็งและแข็งแรง จึงได้มีการดำเนินโครงการ Coding Thailand พัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ระดับประเทศ เพื่อส่งเสริม การเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และวิทยาการคอมพิวเตอร์ รวมถึงฝึกฝนกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ เดินหน้าพัฒนาบุคลากรเข้าสู่การเป็นประเทศที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ โดย depa จับมือกับ Code.org องค์กรไม่แสวงหากำไรที่เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ระดับโลก พร้อมด้วยเหล่าพันธมิตร อาทิ ไมโครซอฟท์, กูเกิล, ซิสโก้ และ อักษร เอ็ดดูเคชั่น ฯลฯ ปรับคอนเทนต์ให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายในประเทศไทย ซึ่งเป็นการเรียนรู้ผ่านเกม วีดีโอ ในรูปแบบที่สนุกสนาน ซึ่งครูสามารถนำสามารถเข้ามาดาวน์โหลดแผนการเรียนการสอน เพื่อนำไปสอนให้กับเด็กๆ ได้ "การเรียนรู้ที่น่าจะมีประสิทธิภาพมากที่สุดในยุคนี้คือ การเรียนรู้ที่ไม่ต้องยึดติดกับอะไรเลย อยู่ที่ไหนก็สามารถเรียนรู้ได้ วันนี้เราเชื่อว่า depa ดิจิทัลจะเป็นตัวตอบโจทย์ในการลดความเหลื่อมล้ำ ไม่ว่าจะเป็นโครงการเน็ตประชารัฐ ที่มีการติดตั้งอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงตามหมู่บ้านต่างๆ ไปแล้วกว่า 24,000 หมู่บ้าน และคาดว่าในปีนี้จะมีหมู่บ้านที่ได้รับการติดตั้งอินเทอร์ความเร็วสูงรวมกว่า 50,000 หมู่บ้าน เรียกได้ว่าครอบคลุมเกือบทั้งประเทศ และเมื่อเด็กๆ มีอินเทอร์เน็ตใช้ เค้าก็จะสามารถเข้าถึงและเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้ง่ายขึ้น" ดร.รัฐศาสตร์ กล่าว นอกจากนี้ทางองค์กรยังเดินหน้าแสวงหาพันธมิตรในการทำงานร่วมกันทั้งภาคเอกชน สถาบันการศึกษา รวมถึง ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยี (Tech Provider) อื่นๆ มากขึ้น ด้วยเพราะการก้าวสู่เศรษฐกิจดิจิทัลจำเป็นจะต้องพัฒนาและสนับสนุนกำลังคนไปพร้อมๆ กัน ตลอดจนพัฒนาหลักสูตรระยะสั้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการ ของประเทศ เพื่อความรวดเร็วในการพัฒนาประเทศ สอดคล้องกับ ศาสตราจารย์กิตติคุณ นพ.จรัส สุวรรณเวลา ประธานกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา (กอปศ.) ที่กล่าวว่า การปฏิรูปการศึกษาและคุณค่าครูในยุคไทยแลนด์ 4.0 เพื่อสร้างประเทศให้พ้นกับดักความยากจน และสร้างประเทศมีความสามารถทางการแข่งขัน "ครู" เป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างยิ่ง และคำว่า 4.0 ในวงการการศึกษาไม่ได้หมายความถึงแค่การพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยี เท่านั้น แต่นวัตกรรม ในวงการการศึกษา คือ การจัดการที่ดีอย่างมีนวัตกรรม และเป็นเสรีภาพทางการศึกษา คืนศรัทธาให้ครู นักเรียน โรงรียน แทนที่จะถูกกำกับด้วยระบบเพียงอย่างเดียว การนำเสนอให้มี Digital Learning Platform เป็นสิ่งที่ดี ซึ่งอาจจะทำให้นักเรียนคนเดียวเรียนได้ นักเรียนหลายคนก็เรียนได้ นักเรียนเรียนพร้อมไปกับครูก็ได้ เอาไว้สำหรับสอนครูก็ได้ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มพูนคุณภาพให้กับการศึกษา ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา สร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นให้ได้ การปฎิรูปการศึกษา คือ ความร่วมมือกันของทุกคน
แท็ก ข้อมูล  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ