PLANET เฮ!! ผลประเมินซีจีได้ระดับ "ดีเลิศ" ส่งซิก Q3 พลิกเป็นบวกหนุนผลงานเทิร์นอะราวด์จ่อยื่นชิงเค้กโครงการ กฟภ. 2 พันล้านบาทสิ้นปีนี้

ข่าวเทคโนโลยี Wednesday October 31, 2018 12:14 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--31 ต.ค.--แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย PLANET ปลื้มได้รับผลประเมินซีจีในระดับ "ดีเลิศ" ส่งซิกผลงานไตรมาส 3/61 พลิกเป็นบวก ฟาก"ประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์" บิ๊กบอสมั่นใจปีนี้เทิร์นอะราวด์ หลังคุมต้นทุนได้ดี และส่งมอบงานลูกค้าต่อเนื่อง แย้มงานในมือทะลักกว่า 300 ล้านบาท จ่อยื่นซองชิงเค้กโครงการ กฟภ. 2 พันล้านบาทในสิ้นปี นายประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์ กรรมการผู้อำนวยการและหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANET เปิดเผยว่า ตามที่ผลการประเมินในโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียน ประจำปี 2561 (Corporate Governance Report of Thai Listed Companies 2018) ซึ่งจัดโดยสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ภายใต้การสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดย PLANET ได้รับการประเมิน"ดีเลิศ" (Excellent CG Scoring)ในระดับ 5 ดาว "ในฐานะผู้ดำเนินธุรกิจผู้ให้บริการออกแบบ ติดตั้ง จำหน่ายระบบเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคม ระบบดิจิทัลทีวีครบวงจร รู้สึกยินดีและดีใจมาก ที่ได้รับการประเมินให้อยู่ในระดับที่ดีเลิศ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการให้ความสำคัญกับการสร้างความเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน ตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี โปร่งใส คำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ทั้งนี้ยืนวันว่าจะเน้นยึดถือปฏิบัติในการกำกับดูแลกิจการควบคู่ไปกับการพัฒนาปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นต่อไป" นายประพัฒน์กล่าว สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในงวดไตรมาส 3/2561 จากการประเมินในเบื้องต้น มีโอกาสสูงที่จะพลิกกลับมาเป็นบวก หลังจากในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ มีการเร่งส่งมอบงานให้ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และยังมีงานในมือที่อยู่ระหว่างรอทยอยส่งมอบให้ลูกค้าอีกจำนวนมาก ขณะเดียวกัน บริษัทฯยังมีการควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มั่นใจว่าทิศทางการดำเนินธุรกิจหลังจากนี้ จะสามารถเติบโตดีและสามารถกลับมาเทิร์นอะราวด์ได้อย่างแน่นอน ปัจจุบันบริษัทฯมีงานในมือ (Backlog) ประมาณ 300 ล้านบาท และคาดว่าจะทยอยรับรู้เข้ามาในช่วงที่เหลือของปีนี้ราว 60% ส่วนงานโครงการประมูลขนาดใหญ่นั้น อยู่ระหว่างเตรียมยื่นซองประมูลโครงการอุปกรณ์สื่อสารของ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) มูลค่างานประมาณ 2,000 ล้านบาท ช่วงเดือนธันวาคมนี้ และคาดว่าจะรู้ผลได้ภายในเดือนมีนาคม 2562 เพื่อให้บริษัทฯสามารถมีกำไรเป็นบวก จึงได้ปรับกลยุทธ์โดยเพิ่มสัดส่วนยอดขายบริการ จากเดิม 20% ของปีที่ผ่านมาเป็น 30% ด้วยการรับรู้รายได้จากบริการรูปแบบใหม่คลาวด์ออฟฟิศ (Cloud Office) ที่คิดค่าบริการเป็นรายเดือน อาทิ ระบบโทรศัพท์สำนักงาน (Cloud PBX) และระบบประชุมทางไกลผ่านจอภาพ (Cloud Video) เนื่องจากรายได้บริการมีกำไรขั้นต้นสูงกว่ารายได้จากการขายสินค้า และบริษัทฯยังรักษาอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 23% "ตอนนี้ นอกจากบริษัทฯจะอยู่ในช่วงของการเร่งส่งมอบงานแล้ว ยังมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มาตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ที่สำคัญที่สุดคือ บริษัทฯมุ่งเน้นยึดถือการดำเนินธุรกิจภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดีซึ่งดำเนินการมาอย่างยาวนาน"

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ