EPCO 3 ไตรมาส กำไรเพิ่ม 6.81 % มั่นใจโค้งสุดท้ายจะโตขึ้นมากจากโรงไฟฟ้าในญี่ปุ่น 11.68 MW ที่เพิ่ง COD ตุลาคม 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 14, 2018 16:13 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 พ.ย.--โรงพิมพ์ตะวันออก EPCO ปิดงบ 3 ไตรมาส กำไรทะลัก 184.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.81% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บิ๊กบอส "ยุทธ ชินสุภัคกุล"ลั่นจะดันกำไรเพิ่มเป็นทวีคูณในปี 2562 หลัง COD โซลาร์ฟาร์มเวียดนาม 100 เมกะวัตต์ ในช่วงกลางปีหน้า นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) (EPCO) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยใน 3ไตรมาส มีรายได้รวม 710.08 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 184.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.79 ล้านบาท หรือ 6.81% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสาเหตุหลักมาจากส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมจากโรงไฟฟ้าใช้พลังงานความร้อนร่วม (Co-Generation Combined Power Plant) ของบริษัทย่อย ส่วน Q3/61 กำไรลดลง 14.49 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเพราะมีการบันทึกขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้น 27.13 ล้านบาท สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4 คาดว่ายังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดในเดือนตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา โรงไฟฟ้าประเทศญี่ปุ่นโครงการ Kurihara 1 ขนาดกำลังการผลิต 11.68 เมกะวัตต์ เริ่มจำหน่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) อีกทั้งยังรับรู้ส่วนแบ่งกำไรโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน SSUT และPPTC ขนาดกำลังการผลิต 360 เมกะวัตต์ เข้ามาเต็มปี" ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้คาดว่าจะเติบโตแบบทวีคูณ ทำสถิติสูงสุด และแนวโน้มในปี 2562 คาดว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยคาดว่ารายได้จะเติบโต 25 % ตามเป้าหมายที่วางไว้ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกำไรจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ หลังบริษัทฯเข้าร่วมลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่จังหวัดฟูเยี้ยน ในเวียดนาม จำนวน 2 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 99.216 เมกะวัตต์ ที่ได้ร่วมมือกับ บริษัท คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) (CSS) ผ่านบริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (EP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ EPCO ด้วยงบลงทุน 2,834.27 ล้านบาท ได้รับ PPA จาก EVN เรียบร้อยแล้ว เริ่มการก่อสร้าง และพร้อมจำหน่ายไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ (COD) ภายในวันที่ 30 มิถุนายน2562 โดย EPCO ถือหุ้นในสัดส่วน 65% CSS ถือ 25% ส่วนที่เหลือ 10% เป็นพันธมิตรในเวียดนาม "หลังการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าในเวียดนามในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 550 MW ส่งผลให้รายได้และกำไรจากธุรกิจไฟฟ้าเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยบริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะก้าวไปสู่การดำเนินธุรกิจเพื่อให้เกิดความเติบโตและยั่งยืน บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าศึกษาธุรกิจเพื่อหาโอกาสใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นเสมอ โดยเฉพาะการขยายการลงทุนสู่ธุรกิจโรงไฟฟ้าที่จะช่วยเพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ประจำ ซึ่งถือเป็น Recurring Income ที่สร้างรายได้ และกำไรอย่างต่อเนื่องและผลักดันให้ธุรกิจของบริษัทฯ เติบโตอย่างแข็งแกร่งและสร้างผลตอบแทนที่ดีกับผู้ถือหุ้น" นายยุทธ กล่าวในที่สุด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ