กลุ่มซีไอเอ็มบีเข้าร่วม RippleNet ให้บริการชำระเงินด่วน Power Instant Payments ทั่วภูมิภาคอาเซียน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 15, 2018 16:38 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 พ.ย.--ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เป็นกลุ่มการเงินแรกที่ใช้เทคโนโลยี blockchain เข้ารุกธุรกิจโอนเงินข้ามพรมแดนทั่วภูมิภาค มูลค่าตลาดรวม 1.2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ กลุ่มซีไอเอ็มบี ผนึกความร่วมมือครั้งสำคัญกับ Ripple พัฒนาบริการระบบชำระเงินข้ามพรมแดนและข้ามธุรกิจในหลากหลายตลาด ภายใต้ความร่วมมือนี้ กลุ่มซีไอเอ็มบีจะเข้าร่วมเครือข่าย 'RippleNet' ของ Ripple ซึ่งการเข้าร่วม RippleNet จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ซีไอเอ็มบีเข้าถึงสมาชิกอื่นๆของ RippleNet และสามารถต่อยอดธุรกิจชำระเงินข้ามแดนได้อีกด้วย กลุ่มซีไอเอ็มมีบริการโอนเงินด่วนข้ามประเทศชื่อ SpeedSend ซึ่งขณะนี้ได้รับการยกระดับ ให้มีประตูใหม่ๆ ในการรับชำระเงิน ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงบริการนี้มากขึ้นแล้ว ด้วยบล็อกเชนโซลูชั่น ยกตัวอย่าง ลูกค้าโอนเงินผ่าน SpeedSend ไปออสเตรเลีย (พันธมิตรคือ Instarem หนึ่งในสมาชิกของ RippleNet) สหรัฐ อังกฤษ และฮ่องกงได้ เต็งกู ดาโต๊ะ ศรี ซาฟรูล อาซิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มซีไอเอ็มบี เปิดเผยว่า "เรายินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ RippleNet และตั้งเป้าหมายจะขยายความร่วมมือกับ Ripple โดยอาศัยจุดแข็งและศักยภาพของกันและกัน ด้วย นวัตกรรมบล็อกเชนโซลูชั่นจะช่วยปฏิวัติการโอนเงินข้ามประเทศ และเป็นสิ่งยืนยันว่าซีไอเอ็มบีที่จะก้าวไปอีกขั้นกับดิจิทัลแบงกิ้ง โดยเน้นความรวดเร็ว และการประหยัดต้นทุนให้ลูกค้าทั่วอาเซียน" ก้าวย่างนี้เป็นส่วนหนึ่งของโรดแมพความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งหมด ซีไอเอ็มบีจะขยายโซลูชั่นไปยังส่วนอื่นๆของกลุ่มซีไอเอ็มบี เพราะเล็งเห็นความต้องการโซลูชั่นชำระเงินข้ามแดนทั่วภูมิภาคที่เพิ่มขึ้น อ้างอิงจากเวิลดิ์แบงก์ที่ประมาณการว่าจะมีปริมาณการโอนเงินภายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เติบโตเพิ่มเป็น 1.2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ภายในสิ้นปี 2561 แบรด การ์ลิงเฮ้าส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Ripple เปิดเผยว่า "เราเห็นแนวโน้มของธนาคารและสถาบันการเงินจากทั่วโลกเริ่มเข้ามาที่บล็อกเชนโซลูชั่น เพราะช่วยเรื่องความโปร่งใส ความรวดเร็ว และต้นทุนการชำระเงินที่ถูกลง ตอนนี้เครือข่ายของซีไอเอ็มบีขยายไปถึง 15 ประเทศ ด้วยเครือข่ายทั้งสิ้นใกล้จะ 800 แห่ง และนำเสนอบริการ SpeedSend ซึ่งเป็นหนึ่งในบริการโอนเงินที่ดีที่สุดในอาเซียน ขณะนี้ การบูรณาการเทคโนโลยีบล็อกเชนของ Ripple จะช่วยให้บริการส่งเงินจากลูกค้าไปยังครอบครัว เพื่อน และคนที่รัก มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การที่ซีไอเอ็มบีให้ความสำคัญกับนวัตกรรม จะทำให้ซีไอเอ็มบีก้าวเป็นผู้นำตลาดของภูมิภาคในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้" เกี่ยวกับ Ripple Ripple คือผู้สร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดของการโอนเงินทั่วโลกแบบราบรื่นและไม่สะดุดด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน โดยการเข้าร่วมกับ Ripple ซึ่งขยายเครือข่ายไปทั่วโลกนั้น สถาบันการเงินจะสามารถให้บริการโอนเงินจากทั่วทุกมุมโลก ด้วยความรวดเร็ว และประหยัดต้นทุน ธนาคารและผู้ให้บริการชำระเงินสามารถใช้สินทรัพย์ดิจิทัล และ XRP เพื่อที่จะลดต้นทุนและเข้าถึงตลาดใหม่ๆ สำหรับ Ripple มีสำนักงานใน ซานฟรานซิสโก นิวยอร์ค ลอนดอน ลักเซมเบิร์ก มุมไบ สิงคโปร์ และซิดนี่ย์ Ripple มีลูกค้ามากกว่า 100 องค์กรทั่วโลก เกี่ยวกับกลุ่มซีไอเอ็มบี กลุ่มซีไอเอ็มบีเป็นหนึ่งในธนาคารครบวงจรชั้นนำของอาเซียน และเป็นกลุ่มการเงินที่ใหญ่เป็นอันดับสองของมาเลเซีย โดยให้บริการธุรกิจรายย่อย ธุรกิจรายกลาง วาณิชธนกิจ ธนาคารอิสลาม และบริหารจัดการสินทรัพย์ สำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ มีเครือข่าย 9 ใน 10 ประเทศอาเซียน (มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ไทย กัมพูชา บรูไน เวียดนาม เมียนมาร์ และลาว) นอกเหนือจากอาเซียน กลุ่มซีไอเอ็มบีมีเครือข่ายในจีน ฮ่องกง อินเดีย ศรีลังกาก เกาหลี สหรัฐ และสหราชอาณาจักร กลุ่มซีไอเอ็มบีมีเครือข่ายสาขาที่แข็งแกร่งสำหรับให้บริการลูกค้ารายย่อย ด้วยสาขา 800 แห่ง ณ 30 ก.ย.2561 ขณะเดียวกัน วาณิชธนกิจของกลุ่มซีไอเอ็มบีนับว่าใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก โดยนำเสนอบทวิจัยที่ครอบคลุมหุ้น 700 บริษัทในภูมิภาค กลุ่มซีไอเอ็มบีดำเนินธุรกิจบน 3 แบรนด์หลัก ได้แก่ CIMB Bank, CIMB Investment Bank และ CIMB Islamic กลุ่มซีไอเอ็มบีเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 92.5% ใน Bank CIMB Niaga อินโดนีเซีย และ 94.1% ในธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย กลุ่มซีไอเอ็มบี จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เบอร์ซ่า มาเลเซีย โดยมีมูลค่าตลาดรวม ณ 30 ก.ย.61 ประมาณ 5.63 หมื่นล้านริงกิต มีพนักงานประมาณ 3.6 หมื่นคน ใน 15 ประเทศ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ