กรุงเทพฯ--21 พ.ย.--124 คอมมิวนิเคชั่นส คอนซัลติ้ง
ฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด (บริษัทฯ) ระบุไม่มีความตั้งใจจะคัดค้านแผนงานของกระทรวงสาธารณสุขที่กำหนดให้ซองบุหรี่ มีรูปแบบเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด (Plain Packaging) แต่บริษัทฯ จะทุ่มเทความพยายามเพื่อให้มีกฎระเบียบที่เหมาะสมสำหรับผลิตภัณฑ์ลดความเสี่ยงที่มีผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์ยอมรับให้เร็วที่สุด
นายเจอรัลด์ มาร์โกลีส กรรมการผู้จัดการ ฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ดกล่าวว่า "ฟิลลิป มอร์ริส อินเตอร์เนชันแนล อิงค์ (พีเอ็มไอ) กำลังสร้างสังคมไร้ควัน (Smoke-Free Future) และความสำคัญลำดับแรกของเราคือการนำเสนอทางเลือกที่เป็นอันตรายน้อยกว่าให้กับผู้สูบบุหรี่ผู้ใหญ่ที่ยังคงตัดสินใจสูบบุหรี่ต่อไป"
"อันตรายจากบุหรี่ทุกวันนี้ไม่ได้มาจากซองบุหรี่ แต่เป็นบุหรี่ที่อยู่ในซองที่ต้องถูกจุดไฟเผาเพื่อสูบต่างหากที่เป็นอันตรายที่แท้จริง เราจึงมีเป้าหมายในการนำผลิตภัณฑ์ไร้ควันที่พีเอ็มไอวิจัยและพัฒนาและมีจำหน่ายแล้วกว่า 40 ประเทศทั่วโลกมาแทนที่บุหรี่แบบมีการเผาไหม้"
"เราเชื่อว่าผลิตภัณฑ์ไร้ควันจะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณสุขและผู้สูบบุหรี่ในประเทศไทยกว่า 10.7 ล้านคน" นายมาร์โกลิสกล่าว ในประเทศที่ผลิตภัณฑ์ไร้ควันไม่ได้รับอนุญาตให้จำหน่าย เช่น ออสเตรเลีย และ สิงคโปร์ อัตราผู้สูบบุหรี่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ แม้จะมีการเพิ่มความเข้มงวดในมาตรการด้านภาษีและกฎระเบียบในการควบคุมยาสูบ ในทางตรงกันข้าม ในประเทศที่ผลิตภัณฑ์ไร้ควันได้รับอนุญาต อาทิ อังกฤษ สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น อัตราการสูบบุหรี่กลับลดลงเป็นประวัติการณ์
"นโยบายด้านการควบคุมยาสูบควรอนุญาตและสนับสนุนให้ผู้สูบบุหรี่มีโอกาสเปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่ดีกว่า การยกเลิกการห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์ไร้ควันและควบคุมให้มีความเหมาะสมจะสร้างประโยชน์มากกว่าการประกาศใช้ซองบุหรี่แบบมาตรฐาน ที่สำคัญเราเชื่อว่าการออกอนุบัญญัติใดๆ ในเรื่องซองบุหรี่แบบมาตรฐาน ต้องมีความเหมาะสม ครอบคลุมทุกผลิตภัณฑ์ยาสูบซึ่งรวมถึงยาเส้นมวนเอง และไม่สร้างภาระเพิ่มเติมใดๆ ให้กับภาคธุรกิจ"
"ณ วันนี้ กฎหมายไทยยอมรับแต่บุหรี่ที่มีการเผาไหม้เพื่อสูบเข้าไปเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังอย่างยิ่ง เพราะเราเชื่อว่าผู้สูบบุหรี่ไทยนับล้านคนสมควรได้รับโอกาสในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ไร้ควันซึ่งเป็นอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวนเหมือนกับผู้สูบบุหรี่อื่นๆ ทั่วโลก" นายมาร์โกลิสกล่าวสรุป