สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 17 ธันวาคม 2561

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday December 17, 2018 17:11 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 ธ.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส สภาวะตลาดวันที่ 17 ธันวาคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,235.30-1,239.21 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,250 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,300 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ18 อยู่ที่ 19,310 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 10 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,320 บาท (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.34 น. ของวันที่ 17/12/61) แนวโน้มวันที่ 18 ธันวาคม 2561 กระทรวงการค้าอินเดียรายงานการนำเข้าทองคำของอินเดียลดลง 15.59% มาที่ 2.76 พันล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย.ส่งผลให้ยอดขาดดุลการค้าเดือนพ.ย.ของอินเดียหดแคบลงสู่ 1.667 หมื่นล้านดอลลาร์ แนวโน้มดังกล่าวทำให้คำสั่งซื้อทองคำจากอินเดียซึ่งเป็นผู้อุปโภคทองคำรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกอาจจะซบเซาลงในช่วงที่เหลือของปีนี้ ส่งผลให้แรงซื้อทองคำลดลง แม้ว่าทองคำจะได้รับแรงหนุน จากประเด็นประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ โต้เถียงอย่างเปิดเผยกับนายชัค ชูเมอร์ ประธานวุฒิสภาสังกัดพรรคเดโมแครตและนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรคเดโมแครตเกี่ยวกับงบประมาณการสร้างกำแพงบริเวณพรมแดนเม็กซิโก โดยความเห็นไม่ตรงกันเกี่ยวกับการระดมทุนสำหรับสร้างกำแพงตามแนวชายแดนส่งผลให้เพิ่มความเป็นไปได้ที่หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐจะปิดการดำเนินงาน (ชัตดาวน์) บางส่วนจากความขัดแย้งประเด็นดังกล่าว ซึ่งก่อนหน้านี้ สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาของสหรัฐมีมติอนุมัติร่างงบประมาณชั่วคราวสำหรับวันที่ 7-21 ธ.ค. เพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐบาลบางส่วน อย่างไรก็ตามราคาทองคำถูกกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นหลังมีการเปิดเผยข้อมูลที่สดใสเกี่ยวกับยอดค้าปลีกและผลผลิตทางอุตสาหกรรมของสหรัฐในเดือนพ.ย. หนุนดัชนีดอลลาร์แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2560 นอกจากนี้ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนเพิ่มจากสกุลเงินหยวนร่วงลง หลังข้อมูลยอดค้าปลีกของจีนในเดือนพ.ย.ขยายตัวในอัตราที่ชะลอตัวมากที่สุดในรอบ 15 ปี และการผลิตทางอุตสาหกรรมแสดงถึงการขยายตัวที่อ่อนแอที่สุดในรอบเกือบ 3 ปี ประกอบกับสกุลเงินปอนด์อ่อนค่าลง จากความวิตกว่านายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ของอังกฤษ จะประสบความยากลำบากในการเรียกความมั่นใจจากสหภาพยุโรป (EU) เกี่ยวกับข้อตกลงเบร็กซิท ทำให้ราคาทองคำได้รับแรงกดดันและมีแรงขายออกมาเมื่อราคาขยับขึ้นเช่นกัน เบื้องต้นประเมินว่าราคาทองคำอาจมีการดีดตัวขึ้นอีกครั้ง โดยมีบริเวณแนวต้าน 1,244-1,256 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้หรือไม่สามารถดีดตัวขึ้นได้ ก็จะเกิดแรงขายออกมาเช่นเดิม กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,244-1,256 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,233-1,221 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่าจะกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมาอาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับถัดไป สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,233 หรือ 1,221 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคงถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะอีกครั้ง แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,221 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์ ทองคำแท่ง (96.50%) แนวรับ 1,233 (19,100บาท) 1,221 (18,900บาท) 1,212 (18,750บาท) แนวต้าน 1,244 (19,300บาท) 1,256 (19,500บาท) 1,266 (19,650บาท) GOLD FUTURES (GFZ18) แนวรับ 1,233 (19,230บาท) 1,221 (19,040บาท) 1,212 (18,900บาท) แนวต้าน 1,244 (19,410บาท) 1,256 (19,590บาท) 1,266 (19,750บาท) หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ