กรุงเทพฯ--18 ธ.ค.--ก.ล.ต.
ก.ล.ต. จัดสัมมนาเรื่องภัยคุกคามทางไซเบอร์สู่ความท้าทายของคณะกรรมการ โดยมุ่งหวังให้คณะกรรมการของผู้ประกอบธุรกิจในตลาดทุนตื่นตัวและเห็นความสำคัญของภัยไซเบอร์ และสร้างวัฒนธรรมให้องค์กรมีความตื่นตัวในการจัดการกับความเสี่ยงทางไซเบอร์
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จัดสัมมนาในหัวข้อ ภัยคุกคามทางไซเบอร์สู่ความท้าทายของคณะกรรมการ (Cyber Threats : Challenges for Board of Directors) ในวันที่ 17 ธันวาคม 2561 ณ สำนักงาน ก.ล.ต. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้คณะกรรมการของบริษัทหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เห็นความสำคัญของภัยไซเบอร์ ซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัว และทราบถึงวิธีการที่คณะกรรมการควรใช้ในการกำกับดูแล โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรจากหน่วยงานชั้นนำของทั้งในและต่างประเทศมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์
นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า "ปัจจุบันผู้ประกอบธุรกิจส่วนใหญ่ขับเคลื่อนธุรกิจบนแพลตฟอร์มดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นการเปิดบัญชี การจัดพอร์ท หรือการซื้อขายแลกเปลี่ยน การประกอบธุรกิจผ่านระบบอินเทอร์เน็ตจึงมีโอกาสที่ผู้ประกอบธุรกิจจะได้รับความเสี่ยงและผลกระทบจากการโจมตีทางไซเบอร์ได้ คณะกรรมการจึงมีบทบาทสำคัญในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ตื่นตัวกับการจัดการความเสี่ยงไซเบอร์ กำหนดกลยุทธ์การรับมือภัยไซเบอร์ที่สอดคล้องกับการประกอบธุรกิจ และกำหนดบทบาทหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานติดตามและจัดการความเสี่ยงไซเบอร์อย่างสม่ำเสมอ
การที่ผู้ประกอบธุรกิจมีการบริหารจัดการภัยทางไซเบอร์ที่ดีจะทำให้ธุรกิจมีความน่าเชื่อถือ และทำให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจในการใช้บริการมากยิ่งขึ้น"
ในช่วงเสวนา คณะกรรมการบริษัทในหลากหลายอุตสาหกรรมจากภาคพลังงาน ภาคโทรคมนาคม และภาคการเงินได้ร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ในการกำกับดูแลและการรับมือต่อภัยคุกคามไซเบอร์เห็นว่า หน้าที่ที่สำคัญของคณะกรรมการบริษัทคือ การเปลี่ยนแนวคิดจากการเน้นการป้องกันภัยไซเบอร์เป็นเน้นการเตรียมความพร้อมรับมือหากถูกโจมตี เพื่อให้สามารถประกอบธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการจัดสรรงบประมาณให้สอดคล้องกับระดับความเสี่ยงที่ประเมิน นอกจากนี้ การสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้พนักงานทุกระดับเห็นถึงความสำคัญเรื่องดังกล่าวจะช่วยให้องค์กรรับมือกับภัยคุกคามได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น