ส่องหนึ่งวันสุดแอคทีฟของหนุ่มสาวออฟฟิศยุคใหม่ “เวิร์คสมาร์ท” อย่างไร ให้ไปพร้อมกับ “เวิร์คเอาท์”

ข่าวทั่วไป Thursday March 21, 2019 14:16 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 มี.ค.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์ การมีสุขภาพดี ถือเป็นเป้าหมายชีวิตของใครหลายๆ คน โดยเฉพาะหนุ่มสาววัยทำงานที่เริ่มหันมานิยมเทรนด์ รักสุขภาพมากยิ่งขึ้น เพราะการมีสุขภาพดี ต้องมาพร้อมความสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่แน่นอนว่าการได้มาซึ่งสุขภาพที่ดีย่อมมาจากการดูแลตัวเอง ทั้งด้านโภชนาการ การออกกำลังกาย รวมถึงการจัดสมดุลให้กับชีวิต สิ่งเหล่านี้ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องยาก แต่สำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศส่วนใหญ่ที่ใช้เวลาหนึ่งวันหมดไปกับที่ทำงาน และบนท้องถนน การหาเวลาสักนิดเพื่อออกกำลังกาย จัดสรรโภชนาการให้กับตัวเอง รวมถึงการหาสมดุลให้กับชีวิตอย่างไรให้สามารถ "เวิร์ค สมาร์ท" ไปพร้อมกับการ "เวิร์ค เอาท์" ในทุกๆวันของการทำงานได้ เชื่อหรือไม่ว่านอกจากจะทำให้สุขภาพดีขึ้น ยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้อย่างเหลือเชื่อ นางสาวสุธาวัลย์ กุงนอก – เจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชี บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตนเป็นพนักงานออฟฟิศคนหนึ่งที่ใช้เวลาหนึ่งวันหมดไปกับงาน และการเดินทาง การดูแลสุขภาพเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่ตั้งไว้ทุกปี แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้เริ่มทำ ด้วยความคิดที่ว่าการทำงานหนัก และไลฟ์สไตล์แบบคนเมืองที่เป็นอยู่ในทุกวัน จะไม่สามารถหาเวลาเพื่อดูแลตัวเองได้ ซึ่แต่เราสามารถปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต เพื่อให้การดูแลตัวเองเป็นอีกหนึ่งในกิจวัตรประจำวันเช่นเดียวกับการทำงาน และไลฟ์สไตล์แบบคนเมือง เพียงเท่านี้การดูแลสุขภาพก็จะไม่ถูกผลัดวันประกันพรุ่งออกไป และการมีสุขภาพดีก็จะกลายเป็นเรื่องที่ไม่ไกลตัว "เพราะปัจจุบันการทำงานหนัก (work hard) เพื่อมุ่งไปสู่ความสำเร็จในหน้าที่การงาน อาจไม่ใช่สิ่งที่สำคัญอย่างเดียวในชีวิต แต่การทำงานหนัก ในขณะที่สามารถสร้างสมดุลที่พอดีให้กับชีวิตไปพร้อมกัน (work smart) ทำให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง พร้อมที่จะสร้างสรรค์ผลงานที่ดีในระยะยาว เป็นสิ่งสำคัญกว่าที่คนรุ่นใหม่ควรตระหนักถึง ดังนั้นนอกจาก work hard แล้ว ต้องอย่าลืม work smart ไปพร้อมกันด้วย" นางสาวสุธาวัลย์ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ว่าในทุกวันนี้การออกกำลังกายจะเป็นเรื่องยากของหนุ่มสาวออฟฟิศ ด้วยข้อจำกัดหลักๆ คือเรื่องเวลา ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้เราแทบไม่มีเวลาในการดูแลตัวเอง อย่างไรก็ดี จากการที่บริษัทของตนได้จัดกิจกรรม "ทาทา สตีล ชวนกันเดิน" เพื่อเป็นการกระตุ้นให้พนักงานหันมาออกกำลังกายในระหว่างวันทำงาน ผ่านการเดิน ทำให้ตนรู้ว่าการออกกำลังกายสามารถทำได้ทุกเวลาอย่างไม่มีข้อจำกัด และหลังจากหันมาปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้มีระเบียบวินัยในการดูแลตนเองมากยิ่งขึ้น แน่นอนว่าผลลัพธ์ที่ดีขึ้นโดยตรงก็คือการมีสุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อีกสิ่งที่ได้เพิ่มมาก็คือ ประสิทธิภาพในการทำงานของตัวเองที่ดีมากขึ้นไปด้วย จึงอยากแนะนำหนุ่มสาวออฟฟิศทีคิดว่ามีเวลาจำกัด หาพื้นที่ออกกำลังกายยากหรือใช้เวลาหมดไปกับการเดินทาง ให้หันมาปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ของตัวเองแบบง่ายๆ ด้วยวิธีต่อไปนี้ 1.เริ่มต้นชัยชนะเล็กๆ ของวัน ด้วยการไปถึงเช้า การไปถึงที่ทำงานก่อนเวลา ทำให้มีเวลาได้พักสมอง เตรียมความพร้อม และจัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่จะทำในวันนั้นๆ นอกจากนี้การไปถึงที่ทำงานเช้ายังเหมือนเป็นการเริ่มต้นชัยชนะเล็กๆ ของวัน จากการที่เราสามารถเอาชนะตัวเองให้ตื่นเช้า เดินทางอย่างสบายๆ ไม่ต้องเผชิญกับการจราจรที่หนาแน่น และต้องลุ้นว่าจะสแกนนิ้วทันมั้ย ถือเป็นการเริ่มต้นวันที่สวยงาม 2. เพราะตอนเช้าเป็นเวลาที่มีค่า เราจึงต้องทำงานที่สำคัญที่สุด ในหนึ่งวันเราต้องทำงานมากมาย ทั้งวางแผน พรีเซนต์ ประชุม ติดต่องานข้ามแผนกหรือข้ามบริษัท เป็นต้น แต่รู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้ว งานที่ควรทำมากที่สุดในตอนเช้าคือ งานที่ต้องใช้ความคิด หรือการสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆ เพราะช่วงเวลาเช้าเป็นช่วงที่สมองปลอดโปร่ง จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้ดีที่สุด 3.กลางวันคือช่วงเวลาแห่งการพักสมอง ไม่ว่าจะงานยุ่งแค่ไหน แต่การพักกลางวันก็ยังเป็นสิ่งที่จำเป็น การพักกลางวันในที่นี้หมายถึงการละจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ ลงไปทานอาหารดีๆ ที่มีประโยชน์ ปรุงสุกจากร้าน รวมถึงการพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานถึงเรื่องราวต่างๆ ถือเป็นการสานสัมพันธ์ และผ่อนคลายความเครียดในการทำงานได้อีกด้วย 4.ปลุกพลังงานยามบ่าย ด้วยการทำงานอย่างกระฉับกระเฉง ถึงช่วงเวลาบ่ายทีไร เป็นต้องเริ่มมีอาการง่วงเหงาหาวนอนทุกที คนทำงานหลายคนน่าจะมีความรู้สึกนี้เหมือนๆ กัน แต่ปัญหานี้จะไม่กระทบกับงานมาก หากเราเลือกทำงานที่ต้องใช้ความคิดมากที่สุดไปแล้วในช่วงเช้า งานที่ควรทำในช่วงบ่ายก็คือการประชุม การติดต่อพูดคุยระหว่างแผนก หรือระหว่างบริษัท งานเหล่านี้เป็นงานที่สามารถเรียกพลังยามบ่ายของเรากลับคืนมาได้ นอกจากนี้การขยับร่างกายเล็กๆ น้อยๆ หรือการเดินเหินในออฟฟิศ ก็ช่วยคลายความง่วง และเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าให้กับร่างกายได้ไม่น้อย 5.เปลี่ยนการออกกำลังกาย ให้เป็นเรื่องง่ายๆ ทำได้ในที่ทำงาน การหาเวลาออกกำลังกายอย่างจริงจังอาจจะเป็นเรื่องยากที่สุดสำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศหลายคน เพราะการทำงานมาทั้งวันก็คงจะเหนื่อยไม่ใช่น้อย ไหนจะต้องฝ่ารถติดกลับบ้าน เชื่อว่าหลายคนก็คงเริ่มถอดใจกับการแบ่งเวลามาออกกำลังกาย อย่างไรก็ดี ถ้าเราสามารถสละเวลาอย่างน้อยวันละ 30 นาที เพื่อออกกำลังกายเล็กๆ น้อยๆ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือที่ฟิตเนส หรือแม้กระทั่งการออกกำลังกาย หรือยืดเส้นยืดสายในที่ทำงาน แค่นี้คำว่าสุขภาพดีก็ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอย่างที่เคย ทั้งนี้ บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งองค์กรชั้นนำที่ตระหนักถึงการมีสุขภาพดีของพนักงานอยู่เสมอ และเข้าใจไลฟ์สไตล์ของคนทำงานรุ่นใหม่ที่ทำงานหนักและหาเวลาดูแลสุขภาพได้ยาก จึงสนับสนุนให้พนักงานทุกคนหันมาใส่ใจสุขภาพด้วยการสร้างสรรค์กิจกรรมดีๆ ในองค์กร เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้พนักงานสามารถใช้เวลาหนึ่งวันในการทำงานร่วมกับการออกกำลังกายที่ออฟฟิศได้ ผ่านกิจกรรม "ทาทา สตีล ชวนกันเดิน" ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 3 (Tata steel Let's Walk Season 3) กิจกรรมดังกล่าวสร้างแรงจูงใจให้พนักงานหันมาปรับเปลี่ยนกิจวัตรประจำวันง่ายๆ ในที่ทำงาน อาทิ ใช้การเดินมากขึ้นเมื่อต้องประสานงานข้ามแผนก หรือจับกลุ่มกันเดินออกกำลังกายเวลาพัก ซึ่งทุกก้าวที่เดินนอกจากจะเป็นการเผาผลาญพลังงานแล้ว พนักงานยังสามารถใช้แอปพลิเคชันสะสมแต้มไมล์การเดิน เพื่อบันทึกสถิติการเดินในแต่ละวัน และสามารถนำมาแลกของรางวัลประจำวันได้ ถือเป็นอีกหนึ่งแรงจูงใจ และการแข่งขันเล็กๆ น้อยๆ ที่สร้างความสนุกสนาน และปลูกฝังให้ทุกคนในออฟฟิศหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น นายสมัชชา สุมนัส เจ้าหน้าที่ทรัพยากรบุคคล บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กิจกรรม "ทาทา สตีล ชวนกันเดิน" ทำให้การออกกำลังกายเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น และทำได้ในที่ทำงาน โดยปกติแล้วตนเป็นคนที่รักสุขภาพ และมักจะหาเวลาเพื่อออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 4 วันต่อ 1 สัปดาห์ ในส่วนของไลฟ์สไตล์ในที่ทำงาน ตนก็มักจะใช้วิธีการเดินไปพูดคุยกับเพื่อนร่วมงาน แทนการใช้โทรศัพท์ข้ามแผนก หรือหากต้องขึ้นลิฟต์เพียงไม่กี่ชั้น ก็จะใช้การเดินแทน เมื่อมีกิจกรรม ทาทา สตีล ชวนกันเดิน ตนก็แค่หันมาเก็บสถิติการเดินซึ่งทำเป็นประจำอยู่แล้วโดยใช้แอปพลิชันนับก้าว เพื่อนับจำนวนก้าวเดิน และนำไปแลกเป็นของรางวัลเล็กๆ น้อยๆ นอกจากนี้ยังสังเกตเห็นว่าพนักงานคนอื่นๆ ก็ให้การตอบรับกิจกรรมนี้ โดยการที่หันมา "ชวนกันเดิน" เพื่อสร้างสุขภาพที่ดีให้กับตัวเองมากขึ้น กิจกรรม "ทาทา สตีล ชวนกันเดิน" นอกจากจะทำให้พนักงานได้ออกกำลังกายในที่ทำงานมากขึ้น ยังทำให้พนักงานมีปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้นอีกด้วย โดยเฉพาะการแข่งขันในแบบทีม 3 คน ทำให้เพื่อนร่วมทีมทุกคนต่างก็เร่งทำแต้มในส่วนของตัวเอง เพื่อนำมารวมกันแลกของรางวัล นอกจากกิจกรรมนี้จะทำให้ได้ขยับร่างกายมากยิ่งขึ้น ตนยังรู้สึกว่ายังทำให้การทำงานเป็นไปอย่างกระฉับกระเฉงมากยิ่งขึ้น จึงอยากเชิญชวนให้ทุกคนหันมาขยับร่างกายด้วยการทำกิจกรรมง่ายๆ อย่างการยืดเส้นยืดสาย หรือการเดินในที่ทำงาน ให้การออกกำลังกายสามารถทำได้ทุกวันในที่ทำงาน นายสมัชชา กล่าวทิ้งท้าย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ ส่วนสื่อสารและกิจกรรมองค์กร โทรศัพท์ 02-937-1000 หรือเข้าไปที่ www.tatasteelthailand.com เกี่ยวกับทาทา สตีล (ประเทศไทย) บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ "TSTH" ประกอบด้วย สามบริษัทย่อย ได้แก่ บริษัท เอ็น.ที.เอส. สตีลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ("NTS") ตั้งอยู่ที่จังหวัดชลบุรี บริษัท เหล็กก่อสร้างสยาม จำกัด ("SCSC") ตั้งอยู่ที่จังหวัดระยอง และบริษัท เหล็กสยาม (2001) จำกัด ("SISCO") ตั้งอยู่ที่จังหวัดสระบุรี บริษัทเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเหล็กทรงยาวรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีกำลังการผลิต เหล็กแท่ง 1.4 ล้านตัน และเหล็กสำเร็จรูป 1.7 ล้านตัน ประกอบด้วย เหล็กเส้นก่อสร้าง เหล็กลวด เหล็กรูปพรรณขนาดเล็ก เหล็กเพลา และเหล็กเส้นตัดและดัดสำเร็จรูป โดยจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านเครือข่ายผู้จำหน่ายสินค้าทั่วประเทศ รวมถึงส่งออกเหล็กเส้น และเหล็กลวด ไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก
แท็ก โภชนาการ  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ