กรุงเทพฯ--26 มี.ค.--กองสื่อสารองค์กร กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน
เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2562 ตึกบัญชาการ1 ทำเนียบรัฐบาล ก่อนเข้าประชุมครม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ร่วมกิจกรรม โครงการประชารัฐ สร้างงาน สร้างอาชีพ ให้แรงงานผู้สูงอายุ ของกระทรวงแรงงาน โดยมี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวง นำคณะผู้บริหารและข้าราชการกระทรวงแรงงาน และตัวแทนกลุ่มผู้สูงอายุที่เข้าร่วมโครงการ ให้การต้อนรับ ในการนี้ นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้เยี่ยมชมบูธของสถานประกอบการตามโครงการจ้างงานผู้สูงอายุและผู้ผ่านการฝึกอบรม ผลิตภัณฑ์สินค้า กระเป๋าผ้าทอลาย ซึ่งเป็นฝีมือของกลุ่มผู้สูงอายุ ที่ผ่านการฝึกอบรมวิชาชีพ กับสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 8 นครสวรรค์ และชมการสาธิตตกแต่งสิ่งของด้วยริบบิ้น โดยสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานนนทบุรี พร้อมพูดคุยกับกลุ่มผู้สูงอายุ และกำชับให้กระทรวงแรงงาน สานต่อโครงการประชารัฐ เพื่อสร้างงาน และสร้างอาชีพ ให้แก่ผู้สูงอายุให้ครอบคลุมและต่อเนื่องเพื่อเตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยต่อไป
ด้าน พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า กระทรวงแรงงาน ได้ตระหนักและให้ความสำคัญกับการ สร้างงาน สร้างอาชีพ แก่กลุ่มผู้สุงอายุ ตามนโยบาย 3A ของกระทรวงมาตลอด โดยในปีงบประมาณ2562 มีเป้าหมายที่จะพัฒนาทักษะและส่งเสริมการมีงานทำให้แก่ผู้สูงอายุ 100,000 คนเป็นแรงงานในระบบ20,000 คน และแรงงานนอกระบบ80,000 คน เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดี ได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ได้เข้าสังคมพบปะผู้คน ซึ่งจะส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายกายและจิตใจ นอกจากนี้ยังได้ ประกอบอาชีพที่เหมาะสมกับวัยและประสบการณ์ สร้างความภาคภูมิใจในตัวเอง เพราะสามารถหาเลี้ยงตัวเองได้ ไม่เป็นภาระแก่ลูกหลาน และช่วยลดภาระของภาครัฐในด้านสวัสดิการสังคม โดยกลุ่มผู้สูงอายุที่กระทรวงแรงงานดูแลนั้นมีทั้งกลุ่มที่ทำงานในบริษัท กลุ่มที่รับงานไปทำที่บ้าน และกลุ่มผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระ ซึ่งนอกจากการ ฝึกวิชาชีพแล้ว กระทรวงแรงงานยังมีกองทุนให้กู้ยืมเพื่อนำไปลงทุนประกอบอาชีพ ในอัตราดอกดอกเบี้ยต่ำ และอยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อนำผู้สูงอายุเข้าสู่ระบบประกันตนตามมาตรา 40 อีกด้วย
นายสุทธิ สุโกศล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) เปิดเผยว่า กพร.ได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ที่เกี่ยวข้อง และดำเนินการ ฝึกอบรมวิชาชีพ เพื่อสร้างโอกาสในการมีงานทำ ให้แก่ผู้สูงอายุ มาโดยตลอด โดยสาขาที่ได้รับความนิยมคือ การทำขนมไทย .การทำผลิตภัณฑ์สมุนไพร การประดิษฐ์ตะกร้าจากหนังเทียม การถักพรมเช็ดเท้าจากเศษผ้า การทำไม้กวาดดอกหญ้าเบื้องต้น การทำดอกไม้ประดิษฐ์ การแปรรูปผลผลิตการเกษตร การสานตะกร้าจากเส้นพลาสติก และ การทำยาหม่องลูกสมุนไพรประคบ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละพื้นที่ ซึ่งจะมีแหล่งวัตถุดิบ สภาพแวดล้อม ลักษณะวัฒนธรรมและความนิยมในท้องถิ่นแตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น ภาคอีสาน ก็จะมีการฝึกการสานตะกร้า การทำกระติ๊บข้าวเหนียว ภาคใต้ ฝึกอาชีพการทำผ้าบาติก เป็นต้น สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุที่มาแสดงผลิตภัณฑ์ในวันนี้สามารถสร้างรายได้เพิ่มหรือฝึกอบรมและทำผลิตภัณฑ์ออกขายเป็นช่องทางออนไลน์และปกติสร้างรายได้กว่า5,000 – 10,000 บาทต่อเดือน .