'กัลกัตตา’ ประตูสู่อินเดียตะวันออก

ข่าวท่องเที่ยว Tuesday April 2, 2019 14:14 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 เม.ย.--ไอเดีย เวิร์คส์ คอมมิวนิเคชั่นส์ กัลกัตตา เมืองหลวงเก่าของประเทศอินเดีย เมืองนี้เคยเจริญรุ่งเรืองมากในอดีต ทั้งในแง่การปกครอง การศึกษา สังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม สถานที่เที่ยวต่างๆ จึงมีเรื่องราวมากมายที่น่าสนใจ อีกทั้งยังเป็นประตูที่เปิดออกสู่อินเดียตะวันออก สำหรับเดินทางไปยังเมืองสิกขิม ดินแดนในอ้อมกอดของเทือกเขาหิมาลัย และเมืองดาจีลิ่ง "ราชินีแห่งขุนเขา" ที่เป็นแหล่งปลูกและผลิตชาที่ดีที่สุดในโลก เมืองหลวงเก่าของอินเดียแห่งนี้ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ที่เราต้องไปเยี่ยมชมและสัมผัสความงามของธรรมชาติมากมาย ดังนั้นนักเดินทางจึงควรวางแผนการท่องเที่ยวให้ดี โดยเฉพาะเส้นทางการเดินทางหรือขนส่งสาธารณะต่างๆ เริ่มต้นจากการเลือกสายการบินที่บินตรงไปยังสนามบินเนตาชีสุภาสจันทรโภส ที่เมืองกัลกัตตา จะช่วยให้เรามีเวลาเที่ยวเพิ่มขึ้น และในกรณีที่มีเวลาจำกัด นักเดินทางควรเลือกสายการบินที่มีตารางบินถี่และตารางเวลาบินเอื้อต่อการเดินทางต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ เพื่อตัดความกังวลใจในการจัดสรรเวลาท่องเที่ยว ล่าสุดสายการบินไทยสมายล์ได้เปิดเส้นทางใหม่ บินตรงจากสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ถึงเมืองกัลกัตตา และยังมีเที่ยวบินมากถึงสัปดาห์ละ 5 เที่ยวบิน (อังคาร พฤหัสบดี ศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์) พร้อมบริการฟูลเซอร์วิส ผู้โดยสารจะได้รับความสะดวกสบายจากบริการอาหาร-เครื่องดื่มบนเครื่อง บริการจองที่นั่งล่วงหน้า และบริการฟรีน้ำหนักกระเป๋า 20 กิโลกรัม เริ่มต้นการเดินทางด้วยการเยี่ยมชมและสักการะขอพรจากพระแม่กาลีที่ วัดทักษิเณศวรกาลี มณเฑียร (Dakshineswar Kali Temple) วัดฮินดูขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมน้ำ มีสถาปัตยกรรมที่งดงามมาก หลังคาเทวาลัยมี 9 ยอด เป็นที่ประดิษฐานรูปเคารพพระแม่ภวาตาริณ ซึ่งเป็นปางหนึ่งของเจ้าแม่กาลี ทำจากหินภูเขาไฟดำห่มด้วยผ้าไหมทอง ยืนอยู่บนรูปปั้นหินอ่อนสีขาวในท่านอนของพระศิวะ ทั้งนี้ ชาวอินเดีย ชาวบังคลาเทศ และผู้ศรัทธาจากทั่วทุกสารทิศจะเดินทางมากราบไหว้ขอพรเป็นจำนวนมาก อย่างที่ทราบกันว่ากัลกัตตา เคยเจริญรุ่งเรืองมากเมื่อครั้งยังเป็นเมืองหลวงเก่าระหว่างภายใต้การปกครองของจักรวรรดิอังกฤษจึงมีอาคารสถานที่ได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมยุโรปที่ยังหลงเหลืออยู่หลายแห่งทั่วเมืองกัลกัตตา เริ่มกันที่ อนุเสาวรีย์วิคตอเรีย เมมโมเรียล (Victoria Memorial) เป็นอาคารหินอ่อนที่ถูกสร้างขึ้นอย่างสวยงาม โอ่อ่า ถูกออกแบบและมีวัตถุประสงค์เพื่อระลึกถึงการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระราชินีวิคตอเรีย จากนั้นไปเก็บภาพสวยๆ กันต่อที่ พิพิธภัณฑ์อินเดีย (Indian Museum) สถานที่ศึกษาประวัติศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในอินเดีย ภายในเต็มไปด้วยของสะสมโบราณ วัตถุชุดเกราะ เครื่องประดับ ซากดึกดำบรรพ์ต่างๆ จนถึงโครงกระดูกมัมมี่ เดินทางต่อไปที่ มหาวิหารเซนต์พอล (St. Paul's Cathedral) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบกอธิค กล่าวกันว่าเป็นมหาวิหารใหญ่ที่สุดในกัลกัตตา และยังเป็นมหาวิหารแห่งแรกที่สร้างขึ้นในดินแดนโพ้นทะเลของจักรวรรดิอังกฤษอีกด้วย นอกจากกัลกัตตา จะมีสถานที่ให้เที่ยวชมอย่างจุใจแล้ว ยังมีงานเทศกาลสำคัญของเมืองตลอดทั้งปีให้นักท่องเที่ยวแวะเวียนมาตักตวงความสุขได้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้สำหรับคนรักหนังสือต้องไม่พลาดเข้าร่วมงาน Kolkata Book Fair ซึ่งจะจัดขึ้นช่วงต้นปีประมาณเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ เป็นงานประจำปีที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ดึงดูดผู้คนกว่า 2.5 ล้านคนตลอดระยะเวลาสองสัปดาห์ที่รวบรวมวรรณกรรม หนังสือ และสิ่งพิมพ์ที่ทรงคุณค่าหลากหลายแนวให้เลือก ความน่าสนใจของกัลกัตตาไม่ใช่แค่สถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ในเมืองนี้เท่านั้น แต่กัลกัตตายังเป็นประตูสู่อินเดียตะวันออก รอบตัวเมืองหรือสถานที่ข้างเคียงนั้นมีเสน่ห์ชวนให้หลงใหลไม่น้อย หากยังมีเวลาสามารถเดินทางต่อเพื่อชื่นชมความสวยงามของธรรมชาติต่างฤดูที่เมือง Gangtok รัฐสิกขิม นักเดินทางจะได้สัมผัสหิมะที่รายล้อมอยู่บนเทือกเขาหิมาลัย ส่วนในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว ผู้ที่ชื่นชอบกลิ่นหอมกรุ่นของชาหลากชนิด ต้องไปแวะเมืองดาจีลิ่งที่ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นแหล่งปลูกชาชื่อดังระดับโลกเพื่อลิ้มลองชาคุณภาพ แหล่งสถานที่ท่องเที่ยวในกัลกัตตายังมีอีกมากมายที่ไม่ได้ถูกกล่าวถึง แต่ด้วยเสน่ห์และสีสันของเมืองหลวงเก่าแห่งนี้ยังคงมีมนต์ขลัง ขอเพียงแค่เปิดใจ เปิดโอกาสให้ตัวเองได้ลองประสบการณ์ใหม่ มองหาจุดแวะพักเที่ยวแห่งใหม่ด้วยตนเอง พบปะและร่วมพูดคุยกับคนท้องถิ่น หรือชิมอาหารอินเดียขนานแท้สักครั้งในชีวิต จะทำให้คุณหลงรักกัลกัตตาโดยไม่รู้ตัว สายการบินไทยสมายล์เปิดเส้นทางใหม่บินตรง กรุงเทพฯ-กัลกัตตา (BKK-CCU) จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ สู่ท่าอากาศยานเนตาชีสุภาสจันทรโภส เมืองกัลกัตตา ประเทศอินเดีย สัปดาห์ละ 5 เที่ยวบิน (อังคาร, พฤหัสบดี, ศุกร์, เสาร์ และอาทิตย์) ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 3,740 บาท/ท่าน/เที่ยว (รวมทุกอย่างแล้ว) เดินทางได้ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2562 เป็นต้นไป โดยให้บริการแก่ผู้โดยสารใน 2 ชั้นโดยสาร ได้แก่ สมายล์พลัส (ชั้นประหยัดพิเศษ) และสมายล์คลาส (ชั้นประหยัด) ผู้โดยสารจะได้รับความสะดวกสบายจากบริการอาหารบนเครื่อง บริการจองที่นั่งล่วงหน้า และบริการฟรีน้ำหนักกระเป๋า 20 กิโลกรัม และการสะสมคะแนน Royal Orchid Plus สำหรับชั้นสมายล์พลัส สนใจสำรองที่นั่งได้ที่เว็บไซต์ www.thaismileair.com , ศูนย์บริการลูกค้า (Call Center) โทร. 1181 หรือ 0-2118-8888, ห้องจำหน่ายบัตรโดยสารไทยสมายล์ (Smile Service Center) และตัวแทนจำหน่ายบัตรโดยสารไทยสมายล์ (Smile Travel Agents) ทั่วประเทศ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ