ดัชนีฯ เดือนเม.ย.62 อยู่ที่โซนทรงตัว เนื่องจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์ทางการเมืองเป็นปัจจัยหนุนและฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday April 9, 2019 14:41 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 เม.ย.--สภาธุรกิจตลาดทุนไทย นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ประจำเดือนเมษายน 2562 ว่า "ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวพลิกกลับมาอยู่ในเกณฑ์ทรงตัว (Neutral) จากเกณฑ์ร้อนแรงในเดือนก่อน โดยผลสำรวจพบว่านักลงทุนเชื่อมั่นสถานการณ์การเมืองจากการเลือกตั้งเป็นปัจจัยหลัก ขณะที่เสถียรภาพรัฐบาลใหม่หลังเลือกตั้งและผลการเจรจานโยบายการค้าระหว่างสหรัฐและจีน เป็นปัจจัยฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุน" ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ประจำเดือนเมษายน 2562 ได้ผลสำรวจโดยสรุป ดังนี้ - ดัชนีความเชื่อมั่นรวมทุกกลุ่มนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า (มิถุนายน 2562) อยู่ในเกณฑ์ "ทรงตัว" (Neutral) (ช่วงค่าดัชนี 80 - 119) จาก "ร้อนแรง" โดยลดลง 17.72% มาอยู่ที่ระดับ 107.53 - ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศอยู่ที่ Zone ร้อนแรง (Bullish) เช่นเดิม - ดัชนีนักลงทุนกลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ปรับตัวลดลงมาอยู่ใน Zone ทรงตัว (Neutral) - ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนรายบุคคลปรับตัวลดลงมาอยู่ใน Zone ทรงตัว (Neutral) - ดัชนีความเชื่อมั่นกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศ อยู่ใน Zone ทรงตัว (Neutral) เช่นเดิม - หมวดธุรกิจที่น่าสนใจมากที่สุด คือหมวดพาณิชย์ (COMM) - หมวดธุรกิจที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด คือหมวดสื่อและสิ่งพิมพ์ (MEDIA) - ปัจจัยหนุนที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ สถานการณ์ทางการเมือง - ปัจจัยฉุดที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ สถานการณ์ทางการเมือง "ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนพลิกกลับมาอยู่ในเกณฑ์ทรงตัวเป็นเดือนแรก โดยทุกกลุ่มบัญชีนักลงทุนปรับตัวลดลง กลุ่มบัญชีนักลงทุนรายบุคคลและกลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ลดลงจากเกณฑ์ร้อนแรงมาอยู่ที่เกณฑ์ทรงตัว กลุ่มนักลงทุนต่างประเทศลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อน อยู่ในเกณฑ์ร้อนแรงเช่นเดิม ขณะที่กลุ่มสถาบันในประเทศปรับตัวลดลงเล็กน้อยอยู่ที่เกณฑ์ทรงตัวเช่นเดียวกับเดือนก่อน ในช่วงเดือนมีนาคม ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ เคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 1617-1646 จุด ปรับตัวผันผวนระหว่างเดือนตามปัจจัยทางการเมืองและข่าวการเลือกตั้งเช่นเดียวกับเดือนกุมภาพันธ์ ทั้งนี้ ทิศทางการลงทุน ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ปัจจัยในประเทศมีผลต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนเป็นปัจจัยหลัก โดยสถานการณ์การเลือกตั้งเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด ขณะที่ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนและแนวโน้มการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารสหรัฐ เป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นในลำดับรองลงมา ขณะเดียวกันความกังวลเสถียรภาพทางการเมืองจากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่หลังเลือกตั้งเป็นปัจจัยฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด รองลงมาคือนักลงทุนมีความกังวลทิศทางการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน แนวโน้มภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงทั้งเศรษฐกิจของจีนและเศรษฐกิจของสหรัฐ สำหรับปัจจัยทางเศรษฐกิจโลกที่ต้องติดตามได้แก่ การชะลอการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ EU การคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงินของ BOJ การพิจารณาข้อตกลง Brexit ที่อังกฤษยื่นขอเลื่อนกำหนดเส้นตายออกไปอีก ราคาน้ำมันที่มีการปรับตัวสูงขึ้นจากการยกเลิกการประชุม OPEC ทำให้มาตรการลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่ม OPEC จะมีผลบังคับใช้ไปจนถึงสิ้นเดือน มิ.ย. เป็นอย่างน้อย เป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม" สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) โทร 02 009 9371-2 หรือ อีเมล์: fetco@set.or.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ