วีซ่า เผยสี่ในห้าของคนไทยไร้เงินสด หลังมั่นใจเงินดิจิตอลมากขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday April 3, 2019 15:44 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 เม.ย.--สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์ สี่ในห้าของคนไทย (78 เปอร์เซ็นต์) พยายามใช้เงินผ่านช่องทางดิจิตอลเพียงอย่างเดียวในชีวิตประจำวัน ซึ่งสูงขึ้นกว่าปี 2560 ที่มีเพียง 50 เปอร์เซ็นต์ อ้างอิงผลจากการสำรวจเกี่ยวกับการศึกษาเรื่องทัศนคติการชำระเงินของผู้บริโภคประจำปี 2561 ของวีซ่า (Visa Consumer Payment Attitudes Survey 2018) โดยผลสำรวจฉบับนี้ศึกษาถึงทัศนคติ และพฤติกรรมการชำระเงินระบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงเทรนด์สำคัญของผู้บริโภคจากผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 4,000 คน จากแปดประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมถึงผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 500 คนจากประเทศไทย โดย 57 เปอร์เซ็นต์ ผู้บริโภคชาวไทยนั้นนิยมทำธุรกรรมการเงินผ่านช่องทางดิจิตอล อาทิ บัตรเดบิต/เครดิต แอพพลิเคชั่นการชำระเงินบนสมาร์ทโฟน และคิวอาร์โค้ด เทียบกับเพียง 43 เปอร์เซ็นต์ที่ยังนิยมใช้เงินสด นายสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า "การที่คนไทยมีความเชื่อมั่น และใช้จ่ายผ่านช่องทางดิจิตอลมากขึ้นนั้นเป็นผลมาจากความร่วมมือของภาครัฐและเอกชนที่ได้ร่วมผลักดันระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ (National e-Payment) ให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง" "นอกจากนั้น เราเชื่อว่าการที่คนไทยหันมาชำระเงินผ่านช่องทางดิจิตอลมากขึ้นเป็นผลมาจากเทคโนโลยีการชำระเงินที่มีหลากหลายรูปแบบ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ประกอบกับมีร้านค้าที่รับชำระเงินดิจิตอลมากขึ้น โดยในปัจจุบัน ผู้บริโภคสามารถชำระเงินด้วยอุปกรณ์เชื่อมต่อที่หลากหลาย อาทิ สมาร์ทโฟนแอพพลิเคชั่น อุปกรณ์สวมใส่ และการชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ โดยสำหรับร้านค้าที่เคยรับแต่เงินสดเพียงอย่างเดียว ยังมีคิวอาร์โค้ดเป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่ในการรับชำระเงินที่รวดเร็ว ปลอดภัย และคุ้มค่า" ผลสำรวจพบว่า จำนวนสองในห้าของคนไทย (42 เปอร์เซ็นต์) มีการพกเงินสดน้อยลงในช่วงสองปีที่ผ่านมา ซึ่งมากกว่าผลสำรวจเมื่อปี 2560 ที่มีเพียง 26 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น โดยเหตุผลหลักที่ผู้บริโภคพกเงินสดน้อยลงมาจากความไม่ปลอดภัยในการพกพาเงินสด (65 เปอร์เซ็นต์) การชำระเงินผ่านระบบดิจิตอลที่มากขึ้น (65 เปอร์เซ็นต์) และความไม่สะดวกในการใช้เงินสด (39 เปอร์เซ็นต์) นอกจากนี้ ผลสำรวจยังพบว่าสำหรับคนที่พยายามใช้เงินผ่านช่องทางดิจิตอลเพียงอย่างเดียวนั้น กว่า 60 เปอร์เซ็นต์สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้หนึ่งวันโดยไม่ใช้เงินสด และมีจำนวนถึง 45 เปอร์เซ็นต์ ที่ไม่จำเป็นต้องใช้เงินสดเลยได้นานกว่าสามวัน โดยภาพรวมแล้ว มีคนไทยจำนวนมากขึ้นที่แสดงความมั่นใจว่าประเทศไทยจะพัฒนาเป็นสังคมไร้เงินสดได้ในอนาคต ซึ่งกว่าหนึ่งในสาม (29 เปอร์เซ็นต์) มีความมั่นใจว่าประเทศไทยจะสามารถปรับตัวเข้าสู่สังคมไร้เงินสดได้ภายในสามปี ซึ่งเมื่อเทียบกับปี 2560 มีเพียง 11 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น และกว่า 39 เปอร์เซ็นต์ เชื่อว่าจะใช้เวลาสี่ถึงเจ็ดปีเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยสู่สังคมไร้เงินสด ในขณะที่คนไทยราว 6 เปอร์เซ็นต์ เห็นว่าจะต้องใช้เวลามากกว่า 15 ปี "จากผลสำรวจดังกล่าวเป็นสัญญาณที่ดี และทำให้มั่นใจได้ว่าเราได้เดินมาในทิศทางที่ถูกต้อง ที่สำคัญยิ่งกว่าคือการแสดงให้ผู้บริโภคและร้านค้าตระหนักถึงประโยชน์จากการชำระเงินรูปแบบดิจิตอล ในขณะเดียวกันเรายังคงมุ่งมั่นร่วมมือกับทุกภาคส่วนในระบบนิเวศน์การชำระเงิน และนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ จากเครือข่ายของวีซ่าทั่วโลก เพื่อร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยให้เข้าสู่สังคมไร้เงินสดได้อย่างเต็มตัว" นายสุริพงษ์ กล่าวสรุป เกี่ยวกับวีซ่า Visa Inc. (NYSE:V) เป็นผู้นำการให้บริการการชำระเงินดิจิทัลระดับโลก ภารกิจของเราคือการเชื่อมโยงโลกผ่านเครือข่ายนวัตกรรมการชำระเงินที่เชื่อถือได้และมีความปลอดภัยมากที่สุด ช่วยให้ผู้บริโภค ธุรกิจต่างๆ และเศรษฐกิจสามารถเจริญเติบโตได้ VisaNet (วีซ่าเน็ต) ซึ่งเป็นเครือข่ายประมวลผลระดับโลกที่ทันสมัยของเราให้บริการชำระเงินที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ทั่วโลก และมีความสามารถในการจัดการธุรกรรมมากกว่า 65,000 รายการต่อวินาที บริษัทมีความพยายามอย่างไม่หยุดยั้งในการสร้างนวัตกรรมเพื่อกระตุ้นให้เกิดการเติบโตอย่างรวดเร็วของการค้าที่เชื่อมโยงโดยอุปกรณ์ใดๆ ก็ได้ และเป็นแรงผลักดันความฝันในการสร้างสังคมไร้เงินสดในอนาคตสำหรับทุกคนและทุกสถานที่ ในขณะที่โลกเปลี่ยนจากอนาล็อกเป็นดิจิทัล วีซ่าจะใช้แบรนด์ ผลิตภัณฑ์ พนักงาน เครือข่ายและขอบเขตธุรกิจของเรา ในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการพาณิชย์ในอนาคต ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถหาได้จาก About Visa และ visacorporate.tumblr.com และ @VisaNews

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ