ปภ.รายงานเกิดวาตภัยในพื้นที่ 31 จังหวัด ประสานจังหวัดเร่งสำรวจพื้นที่และให้การช่วยเหลือโดยด่วน

ข่าวทั่วไป Monday April 22, 2019 09:24 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--22 เม.ย.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานจากอิทธิพลหย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2562 ถึงปัจจุบัน ทำให้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง 31 จังหวัด รวม 123 อำเภอ 326 ตำบล 1,071 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 7,474 หลัง ผู้บาดเจ็บ 9 ราย ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสำรวจความเสียหายและ ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นอย่างเร่งด่วน นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากอิทธิพลหย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2562 ถึงปัจจุบัน ทำให้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง 31 จังหวัด ได้แก่ มหาสารคาม พิษณุโลก ปทุมธานี ร้อยเอ็ด กำแพงเพชร สกลนคร ศรีสะเกษ บุรีรัมย์อุดรธานี พิจิตร บึงกาฬ สุรินทร์ เชียงใหม่ เลย น่าน หนองคาย ลพบุรี อุบลราชธานี หนองบัวลำภู เพชรบูรณ์ แพร่ นครสวรรค์ นครราชสีมา ลำปาง อุทัยธานี สุโขทัย ขอนแก่น พะเยา นครพนม ตาก และกาฬสินธุ์ รวม 123 อำเภอ 326 ตำบล 1.071 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 7,474 หลัง ผู้บาดเจ็บ 9 ราย ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น โดยแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค กระเบื้องมุงหลังคา และวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือนแก่ผู้ประสบภัย รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือนเป็นวัสดุก่อสร้าง หรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม ในระยะนี้หลายพื้นที่อาจเกิดพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ปภ. จึงขอฝากเตือนประชาชนให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนและคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ส่วนเกษตรกรให้จัดทำที่ค้ำยันต้นไม้หรือที่กำบัง เพื่อป้องกันพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากพายุฤดูร้อน สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ