SUPER POLL จุดยืนทางการเมืองของประชาชน

ข่าวทั่วไป Monday April 29, 2019 09:55 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 เม.ย.--สำนักวิจัยซูเปอร์โพล ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง จุดยืนทางการเมืองของประชาชน กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,060 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ระหว่าง เดือนมีนาคม – เมษายน พ.ศ. 2562 พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 56.1 ระบุจุดยืนทางการเมืองของตนเองเป็นกลุ่มพลังเงียบ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ในขณะที่ไม่แตกต่างกันมากนักระหว่างกลุ่มสนับสนุนรัฐบาลมีอยู่ร้อยละ 23.3 และกลุ่มที่ไม่สนับสนุนรัฐบาลมีอยู่ร้อยละ 20.6 ที่น่าสนใจคือ เมื่อแยกออกเป็นกลุ่มคนที่เป็นคอการเมือง และกลุ่มคนที่ไม่ใช่คอการเมือง พบว่า กลุ่มคนที่ไม่ใช่คอการเมืองส่วนใหญ่หรือร้อยละ 58.1 เป็นกลุ่มพลังเงียบ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด มากกว่ากลุ่มที่เป็นคอการเมืองเล็กน้อยคือร้อยละ 54.4 ที่ระบุเป็นกลุ่มพลังเงียบ แต่กลุ่มคอการเมืองร้อยละ 25.2 สนับสนุนรัฐบาลมากกว่ากลุ่มไม่ใช่คอการเมืองที่มีอยู่ร้อยละ 20.7 ระบุสนับสนุนรัฐบาล นอกจากนี้ ผลสำรวจยังพบว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่หรือร้อยละ 61.0 ระบุเป็นกลุ่มพลังเงียบ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด แต่ กลุ่มผู้ชายมีสัดส่วนของกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลร้อยละ 25.8 มากกว่าหญิงที่มีอยู่ร้อยละ 21.2 และกลุ่มผู้ชายมีสัดส่วนไม่สนับสนุนรัฐบาลร้อยละ 23.5 มากกว่าหญิงที่มีอยู่ร้อยละ 17.8 เช่นกัน และเมื่อจำแนกกลุ่มที่ระบุจุดยืนทางการเมืองออกตามกลุ่มอาชีพ พบว่า นักศึกษาเป็นกลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาลน้อยที่สุดคือ ร้อยละ 2.9 ไม่สนับสนุนรัฐบาลมากที่สุดคือร้อยละ 37.1 ในขณะที่ กลุ่มพนักงานเอกชนสนับสนุนรัฐบาลมากกว่าเจ้าหน้าที่รัฐคือร้อยละ 35.1 ต่อร้อยละ 22.6 อย่างไรก็ตาม กลุ่มเกษตรกรและกลุ่มนักศึกษาส่วนใหญ่หรือร้อยละ 58.8 และร้อยละ 60.0 ระบุเป็นกลุ่มพลังเงียบ ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า สัญญาณเตือนภัยในความขัดแย้งรุนแรงบานปลายเริ่มก่อตัวขึ้น แต่ยังพอจะควบคุมสถานการณ์ได้ ถ้ารัฐบาลและฝ่ายอำนาจรัฐไม่ปฏิบัติการกับฝ่ายตรงข้ามแบบเหมารวม (Stereotype) ยกเข่งกับฝ่ายต่อต้านรัฐบาล เพราะข้อมูลจุดยืนทางการเมืองของประชาชนครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มพลังเงียบที่ยังคงเป็นตัวแปรสำคัญต่อการเคลื่อนไหวทางการเมือง คนกลุ่มนี้ยังอยู่ตรงกลาง ไม่สนับสนุนและไม่ต่อต้านรัฐบาลชัดเจนโดยเห็นได้ชัดในกลุ่มนักศึกษาและกลุ่มเกษตรกร ดังนั้น รัฐบาลยังมีโอกาสบริหารจัดการอารมณ์ความรู้สึกของสาธารณชนให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ