ทูตพาณิชย์ชี้ช่องตีตลาดเครื่องประดับแดนภารตะ

ข่าวทั่วไป Wednesday May 15, 2019 16:31 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 พ.ค.--Asialife Media พาณิชย์เผยยอดส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไปอินเดียไตรมาสแรกทะลุ 2,000 ล้านบาท ขยายตัว 3% ทูตพาณิชย์ ณ เมืองเจนไน แนะผู้ประกอบการอัญมณีและเครื่องประดับชูการออกแบบ คุณภาพ และมาตรฐานการเจียระไนเจาะใจผู้ซื้อชาวอินเดีย ชี้เครื่องประดับเงินเป็นโอกาสใหม่ที่น่าสนใจ นางสาวจิตติมา นาคมโน ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเจนไน ประเทศอินเดีย เปิดเผยว่า ชาวอินเดียนิยมซื้ออัญมณีและเครื่องประดับเพื่อใช้สำหรับการแต่งงาน มอบเป็นของขวัญในเทศกาลต่างๆ มีการทำเครื่องทองเป็นรูปเทพต่างๆ เพื่อสักการบูชา และยังนิยมหาซื้อเครื่องประดับทองและเครื่องประดับเงินเพื่อการลงทุนอีกด้วย โดยชาวอินเดียในแต่ละภูมิภาคจะมีรสนิยมการซื้อหาอัญมณีและเครื่องประดับแตกต่างกันไป เช่น ชาวอินเดียเหนือนิยมเพชร พลอยสี และไข่มุก ส่วนชาวอินเดียใต้นิยมเครื่องประดับทอง เป็นต้น หากจะพิจารณาโอกาสของผู้ประกอบการอัญมณีและเครื่องประดับไทยในการตีตลาดอินเดีย พบว่ายังมีโอกาสอยู่มาก โดยในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2562 (มกราคม-มีนาคม) ไทยส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำ) ไปยังประเทศอินเดีย มูลค่ารวม 88.05 ล้านเหรียญสหรัฐ (2,765 ล้านบาท) ขยายตัวสูงขึ้นต่อเนื่องร้อยละ 3 โดยสินค้าที่มีมูลค่าการส่งออกสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ เพชร เงิน และพลอย "ชาวอินเดียนิยมซื้อพลอยสีจากไทย และยอมรับว่าไทยเป็นแหล่งการค้าพลอยสีและอัญมณีสำคัญระดับโลก ช่างฝีมือไทยมีความเชี่ยวชาญในการคัดและเจียระไนพลอยได้สวยงาม ซึ่งผู้ประกอบการไทยควรใช้ศักยภาพดังกล่าวสร้างข้อได้เปรียบเพื่อเจาะตลาดอินเดีย โดยเน้นเรื่องการออกแบบ การรักษามาตรฐานคุณภาพสินค้า และมาตรฐานการเจียระไน เพื่อมัดใช้ผู้ซื้อชาวอินเดีย" นางสาวจิตติมากล่าว ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเจนไน ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เมื่อพิจารณาความนิยมเครื่องประดับของชาวอินเดียในปัจจุบัน เครื่องประดับเงินเป็นสินค้าที่น่าจะเป็นโอกาสใหม่ที่ดีสำหรับผู้ประกอบการไทยที่จะส่งออกสินค้าไปยังอินเดียเพิ่มขึ้น เพราะตลาดเติบโตทะลุ 100% ต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี2560 และเครื่องเงินไทยมีความโดดเด่นและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในแง่ของการออกแบบที่ทันสมัยและคุณภาพที่ดี ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ มีพันธกิจในการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับของโลก และพร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการไทยขยายตลาดอินเดียเต็มสูบผ่านการจัดงาน Bangkok Gems and Jewelry Fair ครั้งที่ 64 ที่จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 10 - 14 กันยายน 2562 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี งานเดียวที่เชิญผู้ซื้อ ผู้ขาย คู่ค้า ชาวอินเดียและนานาชาติมาร่วมงานจำนวนมาก "สำหรับตลาดอินเดีย กรมฯ เน้นการเจาะตลาดกลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูง (Super Rich) กลุ่มงานแต่งงาน และกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่นิยมเครื่องประดับเงินดีไซน์ทันสมัย โดยมีการนำผู้ซื้อชาวอินเดียเข้าร่วมและเยี่ยมชมงานแสดงสินค้า Bangkok Gems and Jewelry Fair ครั้งที่ 63 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งชาวอินเดียเป็นผู้ร่วมงานต่างชาติอันดับ 1 และมียอดสั่งซื้อสินค้าสูงสุด นอกจากนี้ ในปี 2562 กรมฯ มีแผนจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจและ โรดโชว์นำผู้ประกอบการไทยไปแสวงหาลู่ทางการขยายตลาดในอินเดียอีกด้วย" นางสาวจิตติมากล่าว อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทยเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจของประเทศ สร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ช่างฝีมือและแรงงานในภาคอุตสาหกรรมถึง 1.2 ล้านคน โดยในปี 2561 การส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับรวมทองคำ มีมูลค่าถึง 383,713 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 4.74 ของการส่งออกทั้งหมดจากประเทศไทย นับเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ไทยอย่างมาก พบโอกาสในการขยายตลาดสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไปสู่ตลาดอินเดียในงานแฟร์ระดับสากลครั้งยิ่งใหญ่ของเมืองไทยได้ที่ งานแสดงสินค้า Bangkok Gems & Jewelry Fair ครั้งที่ 64 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 - 14 กันยายน 2562 ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ผู้สนใจสมัครเข้าร่วมงานและ ชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.bkkgems.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ